ตุ๊กแกรักแป้งมาก หนังชื่อแปลก แต่ความหมายตรงตัว ให้ความรู้สึกเหมือน แฟนฉัน ผสมกับ Cinema Paradiso อุดมไปด้วยบรรยากาศการโหยหาอดีต และการสรรเสริญโรงภาพยนตร์เก่า
ตุ๊กแก (น้องแม็ค-ณัฐพัชร์ นิมจิรวัฒน์) เป็นเด็กที่โดนพ่อแม่ทิ้งให้อยู่กับยาย (น้อย โพธิ์งาม) ที่เชียงคาน เป็นเพื่อนเล่นกับแป้ง (น้องพรีม-ชนิกานต์ ตังกบดี) ลูกสาวนายจ้างของยาย แต่มีวันหนึ่งเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ทั้งคู่ต้องจากกัน ผ่านไปสิบกว่าปี ตุ๊กแกวัยหนุ่ม (เก้า-จิรายุ ละอองมณี) พยายามทำหนังเรื่องหนึ่งเพื่อสารภาพรักกับแป้ง (เพลง-ชนม์ทิดา อัศวเหม) แต่ด้วยความโชคร้าย ความเข้าใจผิด และอุปสรรคอื่นๆ ทำให้ทั้งคู่ยิ่งต้องห่างกันออกไป
หนังดำเนินเรื่องแบบเรียบง่าย ไม่มีกระตุก ไม่มีหักมุม ไม่มีไคล์แม็กซ์ แต่ก็ทำให้คนดูได้ลุ้นตลอดว่าพระเอกกับนางเอกจะลงเอยกันหรือไม่ เก้า-จิรายุ เข้าถึงคาแรคเตอร์ผู้ชายซื่อๆได้ดี สื่อหลายอารมณ์ผ่านสายตา โดยเฉพาะฉากที่โทรหาแป้งหลังจากไม่ได้เจอกันสิบกว่าปี ที่เต็มไปด้วยความคิดถึง ความรัก ความรู้สึกผิด และความกล้าๆกลัวๆกับอดีตและอนาคตของทั้งสอง เพลง-ชนม์ทิดา สอบผ่านในฐานะนักแสดงใหม่ เล่นภาพยนตร์เรื่องแรก และที่โดดเด่นอีกท่านหนึ่งคือ น้อย โพธิ์งาม ในบทคุณยายใจดีของตุ๊กแก ฉากสั้นๆที่คุยกับตุ๊กแกเรื่องที่มาของชื่อ ทำเอาน้ำตาซึมได้เลยทีเดียว
ที่เด่นกว่าบทหรือนักแสดงคือการใส่ใจในรายละเอียดขององค์ประกอบต่างๆของหนัง เพื่อพาคนดูย้อนอดีตไป 20-30 กว่าปีก่อน ไม่ว่าจะเป็นบ้าน รถยนต์ เสื้อผ้า ของเล่น ของใช้อย่างเครื่องพิมพ์ดีดบราเธอร์ กล้องฟิลม์ โทรศัพท์แบบหมุน รายการโทรทัศน์ที่มีคุณปัญญา นิรันดร์กุล ตอนหนุ่มๆเป็นพิธิกร เพลงประกอบหนังสมัยวัยอลวน ต้อม เรนโบว์ อัสนี-วสันต์ และการวาดโปสเตอร์หนังด้วยมือที่เดี๋ยวนี้หาแทบไม่ได้แล้ว
โรงภาพยนตร์เพชรเชียงคานในหนังเรื่องนี้ ก็โดดเด่นราวกับเป็นอีกตัวละครหนึ่ง สถานที่นี้เป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ของตุ๊กแกกับแป้ง ทั้งสองแอบมาดูหนังที่นี่ตอนเด็ก ตุ๊กแกได้อาจารย์วาดโปสเตอร์มาเติมเต็มชีวิตที่กำพร้าพ่อ และแป้งได้แรงบันดาลใจอยากเป็นนักแสดงหนัง และแน่นอนที่สุด ทั้งคู่ต้องกลับมาที่นี่ตอนโต ตุ๊กแกมาหากำลังใจ และแป้งมาเรียนรู้ความจริง
แต่ยังมีหลายฉากที่ถูกตัดให้สั้นเกินไป ทำให้ไม่สามารถสื่ออารมณ์ไปถึงคนดูได้สุด อย่างเช่นเหตุการณ์ระหว่างตุ๊กแกกับแป้งตอนเด็ก ที่โดนตัดอย่างรวดเร็วมากจนทำให้การที่ตุ๊กแกรู้สึกผิดไปเป็นสิบกว่าปีขาดน้ำหนัก หรือการที่ทั้งคู่มาเจอกันอีกทีตอนฉากซ้อมบทที่น่าจะปล่อยให้ได้สนทนากันนานกว่านี้และค่อยๆบิ้วอารมณ์จนกระทั่งฝ่ายหนึ่งระเบิดออกมา และการที่แป้งมารู้ความจริงเกี่ยวกับตุ๊กแกเป็นเหตุการณ์สำคัญแต่กลับไม่มีบทตรงนี้ มีแค่ฉากที่แป้งบอกว่ารู้แล้ว
นอกจากนี้ หนังยังให้น้ำหนักกับตัวละครสมทบอย่างเพื่อนๆพระเอกมากเกินไป ถึงแม้จะออกมาเรียกเสียงหัวเราะได้ดี แต่ไม่ได้ช่วยให้ดำเนินเรื่องไปข้างหน้าหรือเพิ่มมิติให้กับตัวละครพระเอก ต่างจากเพื่อนนางเอกที่มีความสำคัญในการช่วยให้แป้งกลับมาเจอกับตุ๊กแกอีกครั้ง
แต่โดยรวมแล้ว ตุ๊กแกรักแป้งมาก คุมโทนหนังได้ดีตลอดทั้งเรื่อง เปรียบเสมือนหนังรักของคนรักหนัง ที่ผู้กำกับ ต้อม-ยุทธเลิศ สิปปภาค อยากทำมานาน และในเรื่องก็มีการกัดจิกวงการภาพยนตร์ไทยด้วยเหมือนกัน โดยเฉพาะมีตัวละครที่เป็นนายทุนให้ตุ๊กแกทำหนังที่เน้นแต่เรื่องนักแสดงและผลกำไร จึงขออนุญาตเดาเอาเองว่า คุณต้อม-ยุทธเลิศ คงโดนมาไม่น้อย เพราะในรอบสิบปีที่ผ่านมาหนังของผู้กำกับคนนี้ มีทั้งหนังผีตลาด (บุปผาราตรี, กระสือวาเลนไทน์) และหนังขายดาราวัยรุ่น (บางกอกกังฟู)
ถึงแม้จะไม่สมบูรณ์ แต่ ตุ๊กแกรักแป้งมาก เป็นภาพยนตร์ที่ดูแล้วอบอุ่น อารมณ์ดีฟีลกู๊ด และอมยิ้มไปกับความรักแบบใสซื่อตามชื่อหนัง |