สนับสนุนโดย สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม Supported by Office of Contemporary Art And Culture ,Ministry Of Culture

หน้าแรก
ข่าว
วิจารณ์
สัมภาษณ์
บทความพิเศษ
รายงานหนังไทยในเทศกาลหนังต่างๆ
รายชื่อหนังสือและบทความเกี่ยวกับหนังไทย
รายชื่อ ที่อยู่ หน่วยงาน
 
รายชื่อหนังเก่า
 
 
 
 

   
บทวิจารณ์ “Coffee Please แก้วนี้หัวใจสั่น”
 

สรดิเทพ ศุภจรรยา / 21 ต.ค. 2556

  เมนูข้อมูล
 
Share |
Print   
       
 


ความฝัน ความรัก ความทรงจำ เป็นส่วนประกอบหลักของภาพยนตร์แนวโรแมนติก-ดราม่า ถ้าผสมกันอย่างกลมกล่อม จะทำให้ภาพยนตร์เรื่องนั้นๆทรงพลังและมีความน่าสนใจได้อย่างดี

น่าเสียดายที่เรื่อง “Coffee Please แก้วนี้หัวใจสั่น” ของผู้กำกับ เจนไวยย์ ทองดีนอก (“ความสุขของกะทิ”) และประกาศิต ภัทรธีรานนท์ (Is Am Are เหตุผล (ต่อ) ลมหายใจ) ซึ่งตั้ง 3 ประเด็นนี้ได้ดีในตอนต้นของเรื่อง แต่ด้วยบทที่ไม่รัดกุม ตัวละครที่ขาดมิติ และการแสดงของบางท่านที่โอเวอร์แอ๊คติ้งเกินจริง ทำให้หนังเกี่ยวกับบาริสต้าเรื่องนี้ยังไม่ลงตัวเท่าไหร่

ประเด็นเรื่องความฝันถูกถ่ายทอดออกมาได้ดีสุด สองพี่น้องที่เป็นตัวละครหลักของเรื่อง ต่างมีความฝันที่เป็นพลังขับเคลื่อนการเลือกทางเดินชีวิตของคนๆนั้น โต (ปิ๊บ-รวิชญ์ เทิดวงส์) ฝันที่จะพิสูจน์ตัวเองโดยการทำไร่กาแฟให้ประสบความสำเร็จ ส่วนน้องชาย หนุ่ม (อ๋อม-อรรคพันธ์ นะมาตร์) ฝันที่จะเป็นบาริสต้ามือหนึ่งและสานต่อกิจการร้านกาแฟของพ่อ และที่น่าจะเดาได้ไม่ยากก็คือ ถึงแม้ทั้งคู่ไม่ถูกกัน แต่เพราะพี่ต้องการบาริสต้าเพื่อที่จะชนะการแข่งขันทำกาแฟ และน้องต้องการเมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพที่ดีที่สุดซึ่งมาจากไร่ของพี่ ทั้งคู่จึงสามารถเติมเต็มความฝันของกันและกันได้ และทำให้สองพี่น้องกลับมารักกัน ประเด็นความฝันเป็นส่วนสำคัญที่ขับเคลื่อนบทภาพยนตร์เรื่องนี้

ส่วนประเด็นเรื่องความรักยังมีความบกพร่องอยู่มาก เฟย์ (จั๊กจั่น-อคัมย์สิริ สุวรรณศุข) แฟนสาวของโต ที่อยู่เคียงข้างโตมาตลอดไม่ว่าเขาจะล้มเหลวมากี่ครั้ง กลับไม่มีบทแสดงความรัก ความเข้าใจ การเป็นกำลังใจ ที่ทำให้โตได้ทำตามความฝันต่อไป ส่วน เจน (เจนนี่-วรรณิการ์ พุดชั่ง) สถาปนิกสาวที่มาออกแบบบ้านที่ไร่กาแฟ เป็นคู่กัดกับหนุ่มในตอนต้น แต่บทรวบรัดให้รักกันโดยไม่มีที่มาที่ไป วลีเด็ดของหนังที่พระเอกพูดกับนางเอก (“ผู้หญิงกับกาแฟเหมือนกันตรงที่ทำให้ใจสั่น”)เลยฟังไม่ซึ้ง นอกจากนี้เจนยังเป็นตัวละครที่เป็นส่วนเกินที่สุดเพราะไม่ได้ช่วยให้ทั้งโตและหนุ่มทำตามความฝันได้สำเร็จหรือกลับมาดีกัน

ประเด็นเรื่องความทรงจำของพ่อโผล่มาแค่ตอนท้ายประกอบกับดนตรีซึ้งๆ แต่เพราะไม่ได้จับประเด็นนี้ตั้งแต่ต้น จึงทำให้ฉากนี้ขาดพลังทั้งๆที่น่าจะเป็นส่วนที่ซึ้งที่สุดได้ หลายๆฉากก่อนหน้านี้กลับเน้นไปที่บทตลกของเจ้าพ่อไร่กาแฟคู่แข่ง ที่ร้ายในแบบการ์ตูน แสดงเกินๆล้นๆ เพื่อเรียกเสียงฮามากกว่าต้องการดับฝันพระเอกจริงๆ ตัวละครนี้ก็เป็นอีกคนที่สามารถเปลี่ยนหรือตัดทิ้งได้ เพราะทำให้หนังเปลี่ยนจากดราม่าเป็นตลกคาเฟ่

ถ้าพูดถึงการแสดง ปิ๊บ อ๋อม และจั๊กจั่น แสดงได้ตามมาตฐานตนเอง และดูไม่ได้พลิกบทบาทตามที่ตัวเองถนัด เจนนี่ นักแสดงใหม่ก็ยังขาดประสบการณ์แต่เป็นที่เข้าใจได้ และเรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องแรกที่ทำให้รู้สึกว่า แอนนา ชวนชื่น นักแสดงตลกที่มีชื่อเสียงจากการพูดไทยไม่ชัด ได้รับบทที่เหมาะกับบุคลิคที่สุด

 


ส่วนที่ดีที่สุดของหนังเรื่องนี้น่าจะเป็นการถ่ายภาพ ที่ถ่ายทอดภาพและบรรยากาศความสวยงาม ความสงบของไร่กาแฟและธรรมชาติภูเขาที่เชียงรายออกมาได้ดี และยิ่งใกล้ฤดูหนาวจึงน่าจะเพิ่มนักท่องเที่ยวให้กับจังหวัดได้ไม่ยาก

ประโยคหนึ่งในหนังเรื่องนี้พูดไว้ว่า กาแฟที่ดีต้องมาจากส่วนผสมที่ดีสองอย่าง อย่างแรกก็คือเมล็ดกาแฟ อย่างที่สองก็คือบาริสต้า ถ้าจะเปรียบหนังเรื่องนี้ในมุมเดียวกัน ทั้งเมล็ดกาแฟ (บท การแสดง การถ่ายภาพ) และบาริสต้า (ผู้กำกับ) มีทั้งส่วนดีและไม่ดี แต่โดยรวมยังไม่ชั้นเยี่ยมที่จะทำให้กาแฟแก้วนี้กลิ่นหอมรสชาติอร่อยกลมกล่อมได้

 

   

Everything you want to know about Thai film, Thai cinema
edited by Anchalee Chaiworaporn อัญชลี ชัยวรพร   designed by Nat  
COPYRIGHT 2004 http://www.thaicinema.org. All Rights Reserved. contact: ancha999 at gmail.com
By accessing and browsing the Site, you accept, without limitation or qualification, these copyrights.
If you do not agree to these copyrights, please do not use the Site.