VIDEO
ถ้าจะเปรียบ ส.ค.ส. สวีทตี้ เป็นเด็กมัธยมที่เพิ่งรู้จักความรัก มองว่าความรักสดใส น่าตื่นเต้น และสามารถเอาชนะทุกสิ่งได้ วาเลนไทน์ สวีทตี้ ก็คงเปรียบเหมือนเด็กมหาวิทยาลัยที่โตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาหน่อย รู้ว่าความรักไม่ได้สมบูรณ์แบบเสมอไป มีอุปสรรคบ้าง มีจุดบกพร่องบ้าง และรู้ว่าการที่จะรักใครนั้นเราต้องยอมรับทั้งส่วนดีและส่วนเสียของเขา แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยบทที่ยังคงมีปัญหาอย่างมากในการเดินเรื่องและการให้มิติกับตัวละคร และอารมณ์ที่ติดขัดและสลับไปมา วาเลนไทน์ สวีทตี้ จึงยังไม่เปรียบเหมือนผู้ใหญ่ที่เข้าใจในความรักอย่างลึกซึ้ง
โทนของหนังเปลี่ยนไปจากภาคที่แล้วค่อนข้างมาก จากที่เน้นตลกมาภาคนี้เน้นดราม่าและประเด็นเรื่องความรักที่มักจะเกิดขึ้นกับคนที่เป็นแฟนหรือสามี-ภรรยากัน อย่างเช่นคู่ของหมอดี้ (จ๋า - ณัฐฐาวีรนุช ทองมี) กับฟิน (บีม - กวี ตันจรารักษ์) ที่เริ่มรู้สึกว่าความรักอย่างเดียวไม่พอที่จะสร้างอนาคตได้ หรือคู่ของฟ้า (สายป่าน - อภิญญา สกุลเจริญสุข) กับหลังอาน (โก๊ะตี๋ - เจริญพร อ่อนละม้าย) ที่มีเรื่องการเข้ากับแม่แฟนไม่ได้มาเป็นอุปสรรค คู่ของเง็ก (ยิปโซ - รมิตา มหาพฤกษ์พงศ์) กับพี่หมี (เทพ - พงศ์เทพ อนุรัตน์) ที่มีเรื่องงอนง้อแบบเก็บคะแนนใครน้อยกว่าถือว่าแพ้ และง้อ (ยิปซี - คีรติ มหาพฤกษ์พงศ์) ตั้ด (แดน - วรเวช ดานุวงศ์) มาแต (แพตตี้ - อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา) และแทน (เป้ - อารักษ์ อมรศุภศิริ) ที่มีเรื่องคบแฟนเพื่อนและคบแฟนเก่าเป็นเพื่อนมาให้กวนใจทุกฝ่าย
เหมือนภาคก่อน บทไม่มีความสำคัญในการดำเดินเรื่อง เป็นแค่ตัวเชื่อมโยงจากฉากหนึ่งไปอีกฉากหนึ่งเท่านั้น และเหมือนกับวันส่งท้ายปีเก่าในภาคก่อน วันวาเลนไทน์ในภาคนี้ก็เป็นแค่ลูกเล่นของการตั้งชื่อหนัง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับบทหรือจุดสำคัญของเรื่องเท่าไหร่นัก
หนังสรุปประเด็นเรื่องรักง่ายและเร็วเกินไป จนทำให้อารมณ์ที่ควรจะซึ้งกินใจดูไร้น้ำหนักทันที จากโกรธจนแทบจะเลิกกันก็หายโกรธยอมคืนดีอย่างง่ายเกินไป จากงอนก็หายงอนอย่างรวดเร็ว จากไม่ชอบก็มาชอบอย่างไม่มีเหตุพล จากดูเหมือนจะมีอะไรมาเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์จากเพื่อนเป็นแฟน จากแฟนเป็นแฟนเก่า จากแฟนเก่ากลับมาเป็นแฟน สุดท้ายแล้วก็ไม่มีอะไร
นอกจากนี้ยังมีการโยงตัวละครให้เกี่ยวข้องกันอย่างไม่จำเป็น เช่นอุ่น (โทนี่ รากแก่น) เป็นเพื่อนดี้ ดี้เป็นลูกค้าประจำของแทน เจ็ท (ว่าน - ธนกฤต พานิชวิทย์) เป็นแฟนเก่ากับตัวละครหนึ่ง ความสัมพันธ์เหล่านี้ไม่ได้ทำให้บทแน่นขึ้น (อาจจะงงกว่าเดิมด้วยซ้ำ) ไม่ได้เพิ่มมุมมองใหม่หรือแฝงข้อคิด ไม่ได้ช่วยให้ตัวละครแก้ปัญหาความรัก
หนังมีการตัดต่อที่สับสนและไม่ต่อยอดให้กับหนัง ไม่แน่ใจว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะรีบตัดต่อให้เข้าทันฉายวันวาเลนไทน์หรือเปล่า จึงทำให้บางตอนดูยืดเยื้อ เช่นฉากในร้านอาหารของฟินก็นานเกินไปและจริงๆมีแค่ครั้งเดียวก็พอ บางตอนดูรวบรัดเกินไป เช่นตัวละครที่แอบรักเพื่อนไม่ได้แสดงออกมาทั้งเรื่องจนกระทั้งเกือบฉากสุดท้ายที่มาสารภาพว่ารัก และหลายๆตอนที่กำลังซึ้งก็มีมุขตลกตบท้ายซึ้งนอกจะไม่จำเป็นแล้วยังทำให้อารมณ์กระตุกอีกด้วย
จ๋า เด่นที่สุดจากนักแสดงทั้งหมด เธอตีบทแตกทั้งบทตลกและบทดราม่า ฉากที่เธอทะเลาะกับฟินเป็นฉากที่ดีที่สุดของหนัง ยิปโซใช้จังหวะในการรับส่งมุขกับว่านได้ดี ทางฝั่งนักแสดงชายชาย แดนเล่นใช้ได้ในฉากตลก และโก๊ะตี๋สื่ออารมณ์ได้ดีในฉากดราม่า
วาเลนไทน์ สวีทตี้ พยายามใส่สาระมากขึ้น เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น มีความเป็นดราม่ามากขึ้น แต่สุดท้ายแล้วยังตีโจทย์ไม่แตก อาจจะเพราะด้วยความที่ต้องเป็นหนังฟีลกู๊ดสำหรับคู่เดทวันวาเลนไทน์ ต้องจบแบบแฮปปี้เอ็นดิ้งเพื่อให้คนดูเดินออกจากโรงแบบยิ้มได้ หนังจึงรวบรัดสรุปประเด็นสำคัญเร็วไป และใส่มุขตลกในฉากที่ไม่ควรตลก จึงขัดกับทิศทางของหนัง คนที่ชอบภาคที่แล้วน่าจะไม่ชอบภาคนี้ แต่คนที่ไม่ชอบภาคที่แล้วอาจจะชอบภาคนี้มากขึ้น