หนังไทย ปิดเทอมใหญ่ หัวใจว้าวุ่น

รายชื่อหนังเก่า


	ฺบทวิจารณ์ ปิดเทอมใหญ่ หัวใจว้าวุ่น - ความเจือจางของอมยิ้ม
	12 มีนาคม / อัญชลี ชัยวรพร - (จ๊ะเอ๋)
	©thaicinema.org
	หน้าแรกของปิดเทอมใหญ่ ...หัวใจว้าวุ่น

	จั่วหัวเอาไว้แบบนี้ เพราะว่าตัวเองนั้นมีความคิดอย่างหนึ่งว่า หัวใจของหนังรักทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นรุ่นไหน เพศใด จะเป็นละคร หรือหนังนั้น ควรจะทำให้คนดูเกิดอมยิ้มได้ อมยิ้มที่ได้เห็นภาพ เห็นแง่มุมเล็ก ๆ ส่วนตัวของคนรักกันสองคน หรือใครคนหนึ่งที่ไปแอบรักเขาข้างเดียว เป็นอมยิ้มที่เราคนดูแล้วรู้สึกว่า น่ารักจัง ช่วยเตือนความทรงจำว่าเราเองก็เคยทำแบบนี้มาก่อน อมยิ้มเหล่านี้ที่ผู้เขียนเคยได้เห็นในละครน้ำเน่าสุดฤทธิ์จากไต้หวันเรื่อง The Meteor Garden ชุดที่นำแสดงโดย F4 นั่น ยอมรับนะคะว่า ตอนที่ดูละครเรื่องนี้ หลายครั้งก็ทนความน่ารำคาญของพ่อแม่นางเอกไม่ไหว ความเข้มงวดของแม่พระเอกบ้างล่ะ แต่หลาย ๆ ครั้งก็อดอมยิ้มให้กับตัวเองไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นตอนที่พระเอกสะกิดอวดเพื่อนว่า นางเอกจะต้องแอบชอบตัวเองอยู่เหมือนกัน ไม่ว่าหนังหรือละครเรื่องนั้นจะเป็นผลงานระดับศิลปะหรือไม่ แต่ถ้าคุณทำหนังรัก แล้วตอบหัวใจหลักของมันได้ ดิฉันคิดว่า นั่นแหล่ะใช่ เพราะฉะนั้น นี่คือบางสิ่งบางอย่างที่ผู้เขียนคาดหวังจะได้เห็น จาก ปิดเทอมใหญ่ หัวใจว้าวุ่น หนังที่ใครต่อใครพากันนิยามไว้ว่าเป็นหนังรักสนุก ๆ น่ารัก ใส ๆ ส่วนจะกระชากคนดูได้ทุกรุ่นหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่สิ่งที่ตัวดิฉันได้พบ กลับเป็นรอยยิ้มอันน้อยนิด และอมยิ้มเพียงบางเบา เนื้อหาหนังส่วนใหญ่คงดำเนินไปด้วยความผิดหวังในความรัก เป็นดราม่าของหนังมากกว่า และส่วนที่แข็งในหนังเรื่องนี้ ก็ตรงนี้แหล่ะ จนทำให้หนังไม่ได้ดูใส ๆ ไร้เดียงสาอย่างที่คิดไว้ ปิดเทอมใหญ่ หัวใจว้าวุ่น แบ่งเนื้อหาออกเป็น 4 เรื่อง เริ่มเรื่องจากชีวิตวัยมัธยมของพุ กับไม้ (ชาลี ไตรรัตน์ กับ ไมเคิล - ศิรชัช เจียรถาวร) ซึ่งมักจะมีรสนิยมเหมือนกัน ชอบรุ่นพี่คนเดียวกัน เพราะฉะนั้นจึงไม่แปลกใจที่คนทั้งสองจะมาชอบเพื่อนวัยเด็กด้วยกันอย่างนานา เรื่องที่สองเป็นเรื่องของโอ๋เล็ก ที่คลั่งใคล้ดาราไต้หวันที่ชื่อตี่ตี๋ และเรื่องที่สามเป็นเรื่องความรักอกหักของโจ้ (ว่าน รัชชุ) ที่มีต่อซี (ต่าย ชุติมา) และเรื่องรักนอกใจของเหิร ที่เผอิญออกนอกลู่นอกทางชั่วขณะหลังจากไปเจอสาวที่ชื่ออาโออิ หนังตัดสลับไปสลับมาเข้าเป็นเรื่องเดียวกัน ไม่ได้แยกเป็นตอน ๆ อย่างที่คิดไว้ ซึ่งในการตัดต่อนี้ก็ถือว่าใช้ได้ดีทีเดียว หนังดูเป็นเนื้อเรื่องเดียวกันอย่างไม่มีที่ติ เพียงแต่ว่า ความเป็นเนื้อเดียวกันของหนังจากการตัดต่อ มันไม่ได้ช่วยจุดพลังธีมเรื่องในแต่ละตอนไว้ให้ได้เท่าที่ควร ทั้ง 4 เรื่องนั้น ส่วนของโอ๋เล็กนั้นถือว่าดีที่สุด เพราะมันแสดงให้ห็นความฝัน ความรัก ความหลงใหลของเด็กสาวที่มีต่อดาราคนหนึ่ง ถึงขนาดยอมไปหัดเรียนภาษาจีน แต่งเพลงให้ เพียงเพื่อวันเวลาที่เธอจะได้พบกับเขา วันที่เขาจะมาเปิดคอนเสริต์ในเมืองไทย แต่แล้วฝันก็สลาย เมื่อเขาไม่มา และน้องโฟกัสก็ทำหน้าที่ในส่วนนี้ได้ดีมาก เรื่องที่ดีตามมาก็คือ ส่วนของโจ้ (ว่าน รัชชุ) ที่เผอิญไปหลงรักเพื่อน พยายามตามจีบ แต่ก็ไร้ผล เขาพยายามตื๊ออีก แต่ก็ไม่ได้ จริง ๆ แล้วส่วนของโจ้จะคล้ายกับส่วนของโอ๋เล็ก ทั้งสองคนต่างมีความฝันถึงคนที่รักเหมือนกัน เพียงแต่กรณีของโจ้เห็นเป็นจริงได้มากกว่า กว่าครึ่งเรื่องในส่วนนี้ ก็คือความผิดหวังของโจ้ ส่วนเขาจะจัดการกับชีวิตที่เหลืออย่างไร ซึ่งขอให้ไปดูกันเองดีกว่าค่ะ สำหรับส่วนที่ไล่จีบสาวคนเดียวกันของ พุ กับไม้ (ชาลี ไตรรัตน์ กับ ไมเคิล - ศิรชัช นั้น) ไม่สนุกเท่าที่ควร มุข ๆ ดีในหนังส่วนนี้ก็ออกมาเองหมดแล้วตั้งแต่ในหนังตัวอย่าง แน็ก ชาลี กับไมเคิลนั้นทำหน้าที่ได้ดีแค่ระดับหนึ่ง แต่มันไม่จี๊ดน่ะ ดูแล้วไม่เป็นธรรมชาตินัก ผิดกับ แพท - อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา ซึ่งรับบท นานา ทำให้ความใสความน่ารักของหนังมีไม่มากเท่าที่ควร ส่วนตอนของเหิร กับนวลนั้น เป็นไปอย่างกลาง ๆ ไม่ได้กระชากใจเท่าที่ควร ดีก็ในฉากดราม่านั่นแหล่ะ การปรากฎตัวของโซร่า อาโออินั้น แม้จะมีน้ำหนักมากกว่าผลงานก่อนหน้านั้นของเธอ แต่มันมีน้อยไปนิด ไม่ได้ช่วยสร้างพลังให้กับหนังเท่าที่ควร ทรงยศเหมาะสำหรับทำหนังที่เน้นการแสดงและดราม่ามากกว่า ทุกตอนของนั้นล้วนมีส่วนดราม่าทั้งหมด และดูจะเป็นจุดแข็งที่สุดของทุกตอน นักแสดงก็ทำงานได้ดีในส่วนที่เป็นดราม่าทั้งหมด ทรงยศไม่ค่อยเหมาะที่จะทำหนังน่ารัก ๆ ใสปิ๊ง เพราะเขาจับหัวใจหลักตรงนี้ไม่ได้ ก็ให้น่าเสียดายนะ เพราะเห็นรายชื่อทีมงานเขียนบทเยอะแยะไปหมด น่าจะช่วยเขียนบทได้ทันสมัยกว่านี้ ทรงยศ คงเคยชินกับการสร้างตำนานดราม่า ที่เน้นการแสดงหนัก ๆ อย่างที่จินตหรา สุขพัฒน์ หรือ แน็ก ชาลี ไตรรัตน์ เคยสร้างตำนานไว้ใน เด็กหอ แต่พอมาฉากเบา ๆ กลับดูธรรมดาไป ไม่ไหลเท่าที่ควร ซึ่งตากล้องคู่ใจอย่างนิรมล ร็อสส์ ก็ดูจะถนัดในการถ่ายฉากชีวิตมืดมนมากกว่าฉากใส ๆ น่ารัก แรก ๆ คิดว่าเป็นเพราะวัยของผู้เขียนที่ไม่เหมาะจะดูหนังเรื่องนี้ ก็เลยถามน้องแชมป์ วัยรุ่นตอนปลายว่า สนุกไหม น้องแชมป์บอกว่า ก็ดูได้เพลิน ๆ เรื่องหนึ่ง แต่แชมป์ก็ยอมรับว่า Love Actually ดูน่ารักกว่า มีรอยยิ้มให้กับคนดูได้มากกว่า สรุปแล้ว มันยังไม่กระชากใจคุณแม่วัยโจ๋เท่าที่ควรค่ะ
	©thaicinema.org

Everything you want to know about Thai film, Thai cinema
edited by Anchalee Chaiworaporn อัญชลี ชัยวรพร designed by Nat
COPYRIGHT 2004 http://www.thaicinema.org. All Rights Reserved. contact: ancha999 at gmail.com
By accessing and browsing the Site, you accept, without limitation or qualification, these copyrights.
If you do not agree to these copyrights, please do not use the Site.