เรื่องราวของความสัมพันธ์ระหว่างเด็กวัยรุ่นทั้ง 6 คน ต๊ะ (นะโม ทองกำเนิด) ปอ (อัครินทร์ ศิวพรพิทักษ์) คิ้ม (หทัยวรรณ งามสุคนธภูษิต) แต (กรกช วรมุสิก) นุช (ชนิดา สุริยะกำพล)และโก้ (ปวริศร์ วงศ์พานิช) ซึ่งเป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมที่ต่างจังหวัด ปัจจุบันทุกคนแยกย้ายเข้ามาเรียนในกรุงเทพมหานครแห่งทางเลือกและอนาคตที่ดีกว่า พวกเขามีโอกาสกลับมาพบกันอีกครั้งในช่วงปิดเทอม ด้วยการกลับมาเยี่ยม ครูพนอ (นภคปภา นาคประสิทธิ์) อดีตครูที่เคยสอนพวกเขาสมัยมัธยมและเป็นแม่เลี้ยงของต๊ะ และเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ในช่วงเวลาค่ำคืนแห่งความน่ากลัวนั้น
ความลับในอดีตบางอย่างของเพื่อนทั้ง 6 ที่ไม่เคยปริปากบอกกัน ก็ค่อยๆ เปิดเผยออกมาพร้อมกับการตายอย่างสุดสยอง เรื่องราวเกี่ยวพันกับครูพนอ ครูสาวเสน่ห์แรงแม่เลี้ยงของต๊ะ เสน่ห์ของเธอแรงจนชายที่อยู่รอบตัวเธอต่างพากันหลงใหล และทำของใส่เธอเพื่อให้เธอหลงเสน่ห์ เมื่อการโดนของเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกจนทำให้เธอเสียสติ เธอเปลี่ยนไปเป็นคนละคน จนเพี้ยนบ้าเหมือนคนโรคจิต ครูพนอพยายามที่จะเอาของออกจากตัวเธอ โดยได้เดินทางไปหาหมอแขกเพื่อทำพิธีให้ด้วยการกินเนื้อสดๆ ของผู้ที่ทำของใส่เธอ แต่เกิดความผิดพลาดแทนที่ของจะออกจากตัวเธอ มันกลับส่งผลทำให้เธอมีพลังและอำนาจมากขึ้น เธอถลำลึก และกลับกลายเป็นผู้หลงใหลในไสยศาสตร์มนตร์ดำนั้นเสียเอง และในค่ำคืนนี้ครูพนอจะใช้มนตร์ดำกับลูกศิษย์ของเธอ และพาพวกเธอเข้าสู่โลกแห่งการชำระแค้นด้วยไสยศาสตร์
ลองของ ภาพยนตร์โดยโรนินทีม ซึ่งมีผู้กำกับถึง 7 คน หลังจากชมภาพยนตร์จบ คำถามแรกที่เข้ามาในสมองคือ ทำไมต้องใช้ผู้กำกับถึง 7 คน กับโปรดักชั่นเล็กๆอย่าง ลองของ ไม่รู้ว่าจะเพื่อลบสถิติของภาพยนตร์แฟนฉันที่มีผู้กำกับ 6 คนหรืออย่างไร คงต้องจับตากันต่อไปเมื่อโรนินทีมแยกย้ายมาทำหนังของตนเองจะประสบความสำเร็จเหมือน เพื่อนสนิท หรือไม่
กระแส ลองของ นับเป็นการประสบความสำเร็จแบบเต็มๆของฝ่ายประชาสัมพันธ์ และการตลาดของไฟว์สตาร์อย่างมาก ทำเอาหนังเสือของพระนครฟิล์มหลบอยู่หลังภูเขาเลยก็ว่าได้ แต่สิ่งที่เหมือนยังเป็นการฉุดกระแสการตอบรับก็คือการโฆษณาด้วยภาพของความรุนแรง และสโลแกนเกินความจริงที่ทำให้คนดูหลายคนก่อนเข้าโรงหนังอาจขอเปลี่ยนเรื่องดีกว่า
ปกติแล้วผมเป็นคนค่อนข้างกลัวผีนะ กลัวความสยดสยอง แต่เรื่องนี้ยังไม่ทำให้ผมมีความรู้สึกเช่นนั้น มีเพียงแค่อาการร้อง หยี อาจเพราะฉากสยดสยองโดนเซ็นเซอร์ไปบ้าง ทำให้หนังดูขัดๆ สะดุดไม่น้อย
การที่สร้างหนังแนว แหวะๆ ซึ่งไม่ค่อยมีมากนักในบ้านเรา น่าจะวางโครงเรื่องแปลกๆใหม่ๆ แต่เรื่องนี้โครงเรื่องไม่มีความแปลกใหม่มากนัก และยังขาดความลงตัวอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นการกลับมาเยี่ยมครูพนอของนักเรียนกลุ่มนี้เพื่ออะไร ทั้งๆที่รู้ว่าครูพนอเป็นบ้า และในอดีตก็เคยมีเรื่องที่ไม่เล็กฝากกับครูพนอไว้อีก หรือจะเป็นการหลอกคนดูเรื่องการตายแล้วของเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งในกลุ่ม ที่หลอกคนดูได้ไม่สำเร็จมากนัก และมาเฉลยตอนหลังโดยฉากหนึ่งใช้ฉากคนกวาดลานวัดมองลงมาให้ไม่เห็นต๊ะ เพื่อ ?
หนังเรื่องนี้ใช้นักแสดงหน้าใหม่ ซึ่งผมหวังว่าจะได้เห็นฝีไม้ลายมือการแสดงที่ไม่ธรรมดาของนักแสดงทั้ง 6 ซึ่งก็ได้ชื่นใจบ้างเพราะมีคนที่แสดงออกมาได้อย่างโดดเด่น คือบท โก้ รับบทโดยโดย ปวริศร์ วงศ์พานิช ที่แสดงออกอย่างเป็นธรรมชาติ และสามารถดึงอารมณ์คนดูได้เป็นอย่างดี ส่วนคนอื่นๆก็ถือว่าพอผ่าน แต่ขอไว้หนึ่งคนสำหรับบท คิ้ม ซึ่งถือว่าเป็นตัวแสดงที่สำคัญ รับบทโดย หทัยวรรณ งามสุคนธภูษิต ที่ยังคงต้องกลับไปฝึกปรือด้านการแสดงอีกนิดหน่อย เพระการแสดงยังขาดความเป็นธรรมชาติ และไม่สามารถดึงคนดูไปสู่ความน่ากลัวร่วมกันกับคิ้มได้ แม้น้องหทัยวรรณน่าจะเหมาะกับการแสดงแบบ over action ก็ตาม แต่ผมเชื่อถ้าใช้เวลารับการฝึกฝนมากหน่อย หนังเรื่องหน้าคงสอบผ่าน ซึ่งผมจะคอยเป็นกำลังใจให้ และอยากฝากบอกว่า รักนะ
สำหรับบทครูคนอ เฮ้ย ครูพนอ โดยนภคปภา นาคประสิทธิ์ ในเรื่องการแสดงของมะหมี่นั้นนับว่าไม่มีพัฒนาการเลย เพราะเล่นได้สมบทบาทอย่างไม่มีที่ติ นับตั้งแต่การแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกอย่าง แม่เบี้ย เธอก็ทำให้ทุกคนได้เห็นว่าเธอมีพรสววรค์ด้านนี้จริงๆ ด้วยเหตุที่ว่าเธอสามารถตีบทแตกในตัวละครแต่ละตัวจนแสดงออกมาได้อย่างดีเยี่ยม จึงทำให้ผมไม่เห็นพัฒนาการเลยจริง
การถ่ายภาพยังไร้เสน่ห์ของมนต์ขลังความน่ากลัว ภาพออกมาธรรมดาเกินไปไม่เหมาะกับหนังแนวนี้ ในเรื่องเสียงก็ยังไม่สามารถส่งเสริมความน่ากลัวได้มากนัก
ด้านโปรดักชั่นดีไซน์ และเทคนิคพิเศษ น่าชื่นชมอย่างมาก ที่ทำให้หนังออกมาได้อย่างสมจริง ชวนน่าแหวะได้ไม่น้อย
ท้ายนี้ผมยังอยากเห็นหนังแหวะเช่นนี้อีกครั้ง โดยเชื่อว่าจะได้เห็นหนังที่เสียวสยองทุก 2 นาทีจริงๆ
(อย่าเรียกว่าวิจารณ์เลยครับ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นในสายตาคนดูมากกว่า มาเล่าสู่กันฟัง
|