สนับสนุนโดย สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม Supported by Office of Contemporary Art And Culture ,Ministry Of Culture

หน้าแรก
ข่าว
วิจารณ์
สัมภาษณ์
บทความพิเศษ
รายงานหนังไทยในเทศกาลหนังต่างๆ
รายชื่อหนังสือและบทความเกี่ยวกับหนังไทย
รายชื่อ ที่อยู่ หน่วยงาน
 
รายชื่อหนังเก่า
 
 
 
 

   

ไปดูหนัง Wonderful Town ในเทศกาลหนังฮ่องกง

  ณัฎฐ์ธร กังวาลไกล รายงาน   ©thaicinema.org  (การนำข่าวไปตีพิมพ์ต่อ) / 24 มีนาคม 2551
  LINK : เมนูข่าวรวม
   
 


นอกจากการแจกรางวัล Asian Film Awards  และการซื้อขายภาพยนตร์ในตลาดหนัง  ส่วนสำคัญของงานภาพยนตร์ซึ่งจัดขึ้นที่ฮ่องกงในช่วงนี้  ก็ยังมีเทศกาลหนังอีกงานหนึ่ง  โดยจะจัดถึงวันที่ 2 เมษายน  ซึ่งนอกจากจะมีการฉายหนังแล้ว  ยังมีการแจกรางวัลอีก  ไม่ว่าจะเป็นรางวัลภาพยนตร์ดิจิตัลยอดเยี่ยม รางวัลสารคดี  หรือรางวัลจากสมาพันธ์นักวิจารณ์นานาชาติ 

ผมเลือกไปดู  Triangle ผลงานของสามผู้กำกับระดับแนวหน้าของฮ่องกง จอห์นนี่ ตู้ฉีฟง,ริงโก้ แลม และฉีเคอะ แต่สิ่งที่ผมคาดไม่ถึงก็คือ โรงหนังที่ฉาย ซึ่งมีชื่อว่า Grand Cinema นั้นอยู่ไกลถึงฝั่งเกาลูน (การจัดงานส่วนใหญ่รวมถึงที่พักของผมจะอยู่ในย่านว่านไจ๋  ซึ่งเป็นอีกฝั่งหนึ่งที่มีแม่น้ำกั้น และต้องไปมาหาสู่กันด้วยเส้นทางลอดใต้แม่น้ำ)  แต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็น  เลยตัดสินใจลองไปดู  การเดินทางจากว่านไจ๋ไปเกาลูนใช้เวลาไม่นาน  แต่รถก็ติดนิดหน่อยตามประสาเมืองใหญ่  แท็กซี่จะเสียเงินประมาณ 80 เหรียญฮ่องกง (ค่อนข้างแพง)  แต่ถ้าเดินทางด้วยรถไฟใต้ดิน  จะเสียเพียงแค่ 8 เหรียญกว่าๆ เท่านั้น   คาดว่ารถเมล์คงราคาประมาณกัน

และนี่เป็นข้อเสียแรกที่ผมพบในเทศกาลนี้  คือโรงหนังอยู่ห่างไกลกับจุดศูนย์กลางของงานมากเกินไป เท่าที่เช็คดู โรงอื่นๆ อย่าง UA Time Square ก็อยู่อีกย่านหนึ่งซึ่งต้องใช้เวลาเดินทางพอสมควรเหมือนกัน จริงๆ เทศกาลหนังบ้านเราก็เคยเป็นแบบนี้  คือแยกฉายกันคนละที่  แต่ต่อมาก็ฉายแค่ที่หนึ่งที่ใดไปเลย ผมชอบแบบหลังนี้มากกว่า เพราะว่าเดินทางสะดวก และสามารถเลือกที่จะดูหนังเรื่องที่อยากดูได้ง่ายกว่า


โรงหนังของเขาอยู่ในห้าง ซึ่งห้างที่ว่าเหมือนกับสยามพารากอนบ้านเรา แต่ค่อนข้างโล่งกว่า คนเดินไปมาน้อยกว่า ส่วนโรงหนังก็ไม่ต่างอะไรกับมัลติเพล็กซ์บ้านเรา คนให้ความสนใจมาดูหนังในเทศกาลจำนวนหนึ่ง อัตราส่วนของคนต่างชาติกับคนฮ่องกงคือ 50/50  แต่ช่วงที่ผมดูฉายแต่หนังจีน เลยไม่แน่ใจว่าถ้าเป็นหนังชาติอื่น คนฮ่องกงจะมาดูมากน้อยแค่ไหน


ระหว่างรอดูหนัง หันไปมองรอบๆ ก็พบว่า เขาก็โปรโมตงานเทศกาลหนังในระดับที่น่าพอใจ มีบอร์ดที่ระบุรอบฉาย มีจอทีวีฉายตัวอย่างของหนังในเทศกาล มีการนำโปสเตอร์ของหนังที่อยู่ในสายประกวด Asian Film Award มาจัดวางไว้อย่างสวยงาม เหลือบไปเหลือบมาก็ไปเห็นโปสเตอร์ “ช็อคโกแล็ต” ติดไว้รอเข้าฉายในเดือนเมษายน  ส่วนการฉายหนังก็ราบรื่น ไม่มีสะดุดฟิล์มขาดใดๆ

อีกเรื่องหนึ่งที่ผมไปดู  ก็ได้อาศัยทางพี่จุ๊ก (อาทิตย์ อัสสรัตน์)  และพี่ทองดี โปรดิวเซอร์ ติดสอยห้อยตามไปดู Wonderful Town หากเดินทางไปเพียงลำพังไม่พ้นต้องเสียเงินอีกไม่น้อยแน่ๆ

ก่อนจะออกไปดู ผมเปิดเจอหนึ่งในความเห็นที่น่าสนใจ จากหนังสือพิมพ์ The Daily In Hong Kong ผลิตโดย The Hollywood Reporter  เพื่อออกในเทศกาลโดยเฉพาะ ฉบับวันที่ 2  นักวิจารณ์ที่ชื่อแม็กกี้ ลี ได้เขียนถึงหนังเรื่องนี้ไว้ว่า หนังนำเสนอภาพสวรรค์ที่ล่มสลาย ด้วยดนตรีที่มีจิตวิญญาณและภาพที่มีพลัง นี่เป็นงานที่เทศกาลหนังที่สนใจหนังอาร์ตเอเซียไม่ควรมองข้าม ผู้กำกับดูเหมือนจะไม่ประนีประนอมต่อคนดูหนังทั่วไปเอาเสียเลย  และอาจจะเป็นยานอนหลับสำหรับพวกเขาเหล่านั้น มันเป็นหนังที่ไม่สามารถเล่าเรื่องย่อได้เพราะจะบั่นทอนความเป็นบทกวีของมัน แม็กกี้ยังให้ความเห็นเกี่ยวกับการที่หนังถ่ายทำด้วย HD (High Definition) ด้วยว่าให้สีที่ออกโทนฟ้าเทา ซึ่งเข้ากันดีกับโลกไร้ชีวิตที่ได้ถูกนำเสนอเอาไว้

(ย่อหน้าต่อไปจะเปิดเผยเนื้อเรื่อง หากไม่อยากทราบแนะนำให้ข้ามไปก่อน)


ส่วนสำหรับการฉายในวันนี้ มีคนสนใจดูประมาณร้อยกว่าคน หรือเกินกว่าครึ่งหนึ่งของที่นั่งทั้งหมดนิดหน่อย แต่ไม่มีใครลุกออกไประหว่างการฉายเลย เมื่อหนังจบแล้วก็มี Q&A เล็กน้อย  ส่วนใหญ่คำถามของผู้ชม (ซึ่งโดยมากเป็นนักศึกษาและคนวัยทำงานทั่วๆไป)มีก็คือ ทำไมตัวน้องชายนางเอกถึงต้องฆ่าพระเอก? ในช่วงท้ายเรื่องพระเอกคุยโทรศัพท์กับใคร? เป็นคำถามในเชิงความเข้าใจต่อตัวหนังเสียมากกว่า ซึ่งคุณอาทิตย์ได้ชี้แจงแก่คนดูว่า เรื่องนี้สุดท้ายก็แล้วแต่คนดูแต่ละคนจะตีความ ตัวผู้กำกับเชื่อว่าเป็นเพราะคนที่มาดูส่วนใหญ่เคยชินกับการดูหนังที่มีเหตุและผลมารองรับเรื่องตลอด

แอนดี้  พนักงานบริษัทหญิงชาวฮ่องกง พูดถึงหนังเรื่องนี้ว่า เธอคิดว่านี่เป็นหนังรัก ที่มีฉากหลังเป็นหายนะจากสึนามิที่มีความเศร้าแฝงอยู่ในเรื่อง โดยอาศัยส่วนผสมต่างๆ กันไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพ การตัดต่อ หรือดนตรีประกอบมาช่วยเสริมสร้างอารมณ์ของตัวหนังได้เป็นอย่างดี

นวพล ธำรงค์รัตนฤทธิ์ นักเขียนและนักทำหนังอิสระ ที่บังเอิญไปเที่ยวฮ่องกงพอดีเลยแวะมาดูหนังเรื่องนี้ กล่าวว่า “ผมได้ดู ‘มอเตอร์ไซค์’ ของพี่จุ๊กเมื่อนานมาแล้ว ก่อนมาดูก็นึกไม่ออกเลยว่าเขาทำหนังยาวแล้วมันจะเป็นยังไงบ้าง ดูออกมาจริงๆ แล้วผมว่ามันไม่ได้ดูยากขนาดพี่เจ้ย(อภิชาติพงษ์) ไม่ได้ทดลองสุดๆ ขนาดนั้น แต่ว่าจังหวะมันช้าเฉยๆ โดยรวมผมว่าลงตัวนะ ชอบพวกเรื่องสถาปัตย์ พวกบ้านร้างต่างๆ ผมว่าเข้าใช้ประโยชน์จากตรงนั้นเยอะพอสมควร”

ส่วนตัวคิดว่ารอบนี้คนดูไม่เยอะเท่าที่ควร อาจจะเพราะหนังเรื่องนี้ยังถือว่าเงียบๆ อยู่สำหรับคนฮ่องกง ที่ไม่ได้ให้การสนใจหนังที่มีลักษณะพิเศษแบบนี้มากเฉกเช่นคนในยุโรป

   
 

Everything you want to know about Thai film, Thai cinema
edited by Anchalee Chaiworaporn อัญชลี ชัยวรพร   designed by Nat  
COPYRIGHT 2004 http://www.thaicinema.org. All Rights Reserved. contact: ancha999 at gmail.com
By accessing and browsing the Site, you accept, without limitation or qualification, these copyrights.
If you do not agree to these copyrights, please do not use the Site.