ในตอนแรกที่ผมก้าวเท้าเข้าไปยังห้องแกรนด์บอลลูม ของโรงแรมสุโขทัย ก็นึกว่ามาผิดงาน เพราะมีการแสดงเครื่องเพชรมากมายหลายชนิด จนกระทั่งเหลือบสายตาไปเห็นป้ายงาน จึงค่อยค้นพบว่า อ๋อ มาถูกงานแล้วล่ะ แต่ถ้าอย่างนั้น พวกเครื่องเพชรทั้งหลายมันเกี่ยวอะไรด้วยกับงานนี้กัน?
คณะกรรมการจัดงาน สุพรรณหงส์ ครั้งที่ 17 เลือกเอาวันที่ 29 มกราคม 2551 ประกาศรายชื่อผู้เข้าชิงในสาขาต่างๆ 16 สาขา โดยมีภาพยนตร์ร่วมชิง 43 เรื่องจากทั้งหมดในปีนี้ 45 เรื่อง (ตำนานสมเด็จพระนเรศวร ทั้งสองภาค ไม่ขอเข้าร่วมประกวด) ซึ่งใครได้เข้าชิงรางวัลอะไรบ้าง เชื่อว่าหลายๆ คนคงจะทราบแล้ว นอกจากรายชื่อผู้เข้าชิง ก็มีการแถลงถึงรายละเอียดการจัดงานในปีนี้ ที่จะพิเศษกว่าปีก่อน เพราะนอกจากจะเป็นการจัดครั้งแรกของนายกสมาคมสมาพันธ์ฯ คนใหม่ คุณจาฤก กัลย์จาฤกแล้ว ยังเป็นครั้งแรกของงาน ที่จะจัดในวันที่ 17 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งจะจัดกันที่โรงละครสยามนิรมิต เจ้าของความจุ 2000 ที่นั่ง ใจกลางย่านรัชดาภิเษก และมีเวทีที่มีความยาวในระดับโลก
และการจัดงานจะเป็นไปอย่างยิ่งใหญ่ โดยจะยังมีการให้นักแสดงเดินพรมแดงเข้างาน โดยนักแสดงจะได้รับเครื่องเพชรและเครื่องแต่งกายจากแบรนด์ระดับโลกทั้งไทยและเทศ และยังเปิดให้ประชาชนได้ลงทะเบียนล่วงหน้าเพื่อเข้าร่วมงานด้วย โดยทางนายกสมาคมสมาพันธ์ฯ ได้กล่าวว่า ปีที่ผ่านมาหนังไทยส่งออกไปได้มากขึ้น ภาครัฐให้ความสนใจ จึงตั้งใจอยากให้ความเชื่อถือให้มากขึ้น ทำอย่างไรจึงจะดึงสิ่งดีๆ ที่ซ่อนเร้นอยู่ในวงการหนังไทยปรากฏออกมาได้ แต่ตัวเขาก็ไม่อยากให้มองว่าเป็นการยกระดับจากงานสุพรรณหงส์ปีที่ผ่านมาๆ ตัวเขาเองเห็นว่าเขาแค่ทำในแบบที่อยากทำ
อีกอย่างหนึ่งที่เป็นเรื่องพิเศษ คือต่อไปนี้งานสุพรรณหงส์จะมีเพลงประจำเป็นเพลงหลัก โดยทางสมาคมสมาพันธ์ฯ ได้ติดต่อให้ อาจารย์ดนู ฮันตระกูล ยอดฝีมือด้านดนตรี มาช่วยแต่งเพลงให้ และเพลงที่แต่งขึ้นมาใหม่เพลงนี้ก็จะประเดิมใช้ในงานปีนี้เป็นปีแรก เท่าที่ผมได้ฟังคร่าวๆ ถือว่าน่าสนใจทีเดียว ส่วนการแสดงดนตรีในวันงาน คณะผู้จัดงานกล่าวว่ามีคนดนตรีที่ต้องปิดชื่อไว้ก่อน มาร่วมสร้างเซอร์ไพร์สด้วย
สำหรับในเรื่องของการพิจารณาภาพยนตร์ คุณจาฤกได้ยืนยันว่า คณะกรรมการ 17 ท่านซึ่งมีคุณอดุลย์ ดุลย์รัตน์เป็นประธานกรรมการ จะพิจารณาหนังทุกเรื่องอย่างเท่าเทียมกัน และเพื่อให้เกิดความเป็นกลางก็ได้เชิญบุคคลจากแวดวงหนังหลายๆ ด้านมาทำหน้าที่ตัดสิน
สำหรับบุคคลเกียรติยศแห่งปี ปีนี้ทางสมาคมสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติ ได้เลือกที่จะยกย่องคุณพิศมัย วิไลศักดิ์ นักแสดงอาวุโสที่ผ่านการแสดงหนังมากว่า 300 เรื่อง และเป็นทั้งครูของนักแสดงหลายรุ่น และเป็นที่เคารพรักจากบุคคลหลากหลายในวงการ
ส่วนเรื่องอื่นๆ สำหรับสื่อมวลชน จะมี press center ไว้ให้สำหรับสื่อโดยเฉพาะเพื่อจะได้ทำการส่งข่าวอย่างรวดเร็ว และสำหรับผู้เข้าร่วมงาน จะมี after party แบบเดียวกับออสการ์ ให้ทุกคนไม่ว่าจะจากค่ายหนังค่ายไหนก็ตามมาร่วมสังสรรค์กัน
ดารามาร่วมงานเพียงไม่กี่คน เห็นหลักๆ ก็ทีมนักแสดงจากไชยา,จิรัญ รัตนวิริยะชัย โปรดิวเซอร์ของโมโนฟิล์ม ,ทีมงานบางคนจากพระนครฟิล์ม และเครือข่ายทีมงานกันตนา อาจจะเป็นเพราะว่างานยุ่งกันเลยไม่ร่วมงาน แต่ถ้าหากว่านักแสดงจากหลายค่ายมาร่วมงานแถลงข่าวครั้งนี้มากกว่านี้ งานก็คงจะมีสีสันมากขึ้น และคงจะสะท้อนไปถึงงานวันที่ 17 ที่น่าจะหลากหลายกว่านี้
ก็ต้องตามดูกันต่อไปน่ะครับว่างานจะยิ่งใหญ่ สมกับที่ทางสมาคมสมาพันธ์ฯ ได้ประกาศเอาไว้หรือเปล่า แต่คงจะหนีพ้นจากเสียงนินทาที่ว่าจัดงาน ฟุ่มเฟื่อย หรือจะเป็น แทนที่จะมามัวแต่คิดจัดงานใหญ่ๆ เอาเวลาไปคิดทำให้หนังไทยโดยรวมพัฒนาขึ้นไม่ดีกว่าหรือ ได้ยากยิ่งนัก
การเสนอชื่อแยกตามรายชื่อหนัง
รักแห่งสยาม ได้รับการเสนอชื่อมากที่สุด 15 รางวัล (บางรางวัลได้รับการเสนอชื่อ 2 ครั้ง)
ไชยา 12 รางวัล
บอดี้ ศพ # 19 เสนอ 9 รางวัล
เพื่อนกูรักมึงว่ะ 8 รางวัล
พลอย แฝด เปิงมาง ได้รับการเสนอชื่อเรื่องละ 6 รางวัล
Me Myself เสนอ 4 รางวัล
โอปปาติกะ, พระพุทธเจ้า, Final Score ได้รับการเสนอชื่อเรื่องละ 3 รางวัล
บ้านผีสิง รักนะ 24 ชม. ยังไงก็รัก ตั๊ดสู้ฟุด สวยลากไส้ ได้รับการเสนอชื่อเรื่องละ 1 รางวัล
การเสนอชื่อแยกตามบริษัท
สหมงคลฟิลม์ ได้รับการเสนอชื่อ 27 ครั้ง
จีทีเอช ได้รับการเสนอชื่อ 19 ครั้ง
ไฟว์สตาร์ ได้รับการเสนอชื่อ 18 ครั้ง
พระนครฟิลม์ ได้รับการเสนอชื่อ 6 ครั้ง
โมโนฟิลม์ ได้รับการเสนอชื่อ 4 ครั้ง
บริษัท (พระพุทธเจ้า) ได้รับการเสนอชื่อ 3 ครั้ง
อาร์เอสฟิลม์ ได้รับการเสนอชื่อ 2 ครั้ง
เอจี (ยังไงก็รัก) ได้รับการเสนอชื่อ 1 ครั้ง
|