เป็นผู้กำกับไทยที่เดินทางมากที่สุดในรอบปีเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะไปในฐานะกรรมการ ฉายหนัง หรือไม่ก็แสดงงานศิลปะ อีกกิจกรรมหนึ่งของเจ้ย อภิชาติพงศ์ที่แทบจะไม่มีคนรู้จัก
อภิชาติพงศ์เดินทางมาญี่ปุ่นตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ในฐานะกรรมการเทศกาลหนังสารคดียามากาตะ แต่ก่อนที่จะไปยามากาตะ ได้มาที่โตเกียว มีการจัดกิจกรรมบางอย่างเพื่อต้อนรับการเดินทางไปญี่ปุ่นของเขา เริ่มจากการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่นั่น จากนั้นเย็นวันนั้นก็มีการจัดเสวนาเกี่ยวกับงานของเขา ในหัวข้อชื่อว่า All About Apichatpong ซึ่งในกาลครั้งนี้ได้มีการเชิญดาราหนุ่มญี่ปุ่นชื่อดังฮิเดะโตชิ นิชิจิม่า เข้ามาร่วมเสวนาด้วย
|
เริ่มเดินเข้ามาในงานเสวนา เจ้ยพูดยิ้ม ๆ ว่า มีแต่ผู้หญิง เมื่อเห็นคนฟังที่ส่วนหนึ่งมาตามนักแสดงชื่อดังฮิเดะโตชิ |
ฮิเดะโตชิ เป็นนักแสดงนำของญี่ปุ่น เคยเล่นหนังดังอยู่หลายเรื่อง อาทิ License to Live (Kiyoshi Kurosawa, 1999); LOFT (Kiyoshi Kirosawa, 2006) แต่เขาดังเปรี้ยงปร้างจากหนังของทาเคชิ คิตาโน่ เรื่อง Doll เป็นคนรักหนัง และเคยได้รับเชิญเป็นกรรมการที่ Tokyo Filmex (2005) และเทศกาลหนังฮ่องกงเมื่อปีที่แล้ว พร้อมกับเป็นเอก รัตนเรือง เขารู้จักกับอภิชาติพงศ์ระหว่างเดินทางไปเทศกาลหนังแห่งใดแห่งหนึ่ง และอยากมีส่วนร่วมเล่นในหนังของอภิชาติพงศ์ ซึ่งผู้ดำเนินการอภิปรายก็ถามในเรื่องนี้
อภิชาติพงศ์ บอกว่า ดาราไทยส่วนใหญ่ไม่ชอบเล่นหนังของผม เพราะจะไม่มีการแต่งหน้าเลย การที่จะได้ฮิเดะโตชิมาร่วมทำงานด้วยกันเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์มาก อาจจะช่วยในเรื่องรายได้อย่างแน่นอน อีกทั้งเขาไม่มีภาพดาราของฮิเดะโตชิอยู่ในใจมาก่อน ไม่เหมือนกับภาพดาราไทย ซึ่งเขาสามารถสร้างแคแรกเตอร์ของไทยได้โดยไม่ติดภาพพจน์เดิม ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงพัฒนาความคิดอยู่ เพราะดาราญี่ปุ่นส่วนใหญ่เมื่อไปเล่นหนังในประเทศไทย มักจะได้บทแค่เป็นนักท่องเที่ยวหรือไม่ก็เป็นแก็งค์สเตอร์ที่เดินทางไปประเทศไทย ซึ่งอภิชาติพงศ์ไม่อยากทำอย่างนั้น
ปัญหาก็คือความคิดของอภิชาติพงศ์มีการเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา ความคิดแรกอยากให้เขาเปลือยกายตลอดเรื่อง ต่อมาก็คิดใหม่ว่าหนังจะจบที่เม็กซิโก ท้ายสุด อภิชาติพงศ์หันมาถามคนดู ซึ่งเป็นสาว ๆ เป็นส่วนใหญ่ว่า อยากให้เขารับบทอะไรในหนังไทยดีครับ
|
|
อภิชาติพงศ์ ยิ้มแย้ม แจ่มใส และฮิเดะโตชิแบบโคลสอัพ |
สำหรับการเสวนานั้น ฮิเดะโตชิแสดงให้เห็นว่า เขาเป็นคนที่มีความสนใจในหนังของอภิชาติพงศ์อย่างแท้จริง การพูดคุยซึ่งเสียค่าเข้าคนละ 1,000 เยนนั้น ไม่มีที่ว่างเหลือมากนัก ฮิเดะโตชิจะถามแทรกในเรื่องการสร้างงานต่าง ๆ ของอภิชาติพงศ์ ซึ่งคำถามเหล่านี้คงไม่มีทางจะได้ยินจากนักแสดงดังของไทย
อภิชาติพงศ์เริ่มจากการพูดเกี่ยวกับงานของตน ทั้งในส่วนที่เป็นงาน performance arts กับงานหนัง โดยเขาได้แสดงให้เห็นความคิดที่แตกต่างระหว่างการสร้างงานสองรูปแบบ งานของเขาส่วนใหญ่จะเป็นการเก็บความทรงจำ และสร้างภาพคอนทราส์ให้เกิดขึ้น นอกจากนี้งานของเขามักจะเป็นการร่วมมือกับคนกลุ่มต่าง ๆ เสมอ รวมทั้งผู้ชมด้วย ซึ่งจากการฟังดู บอกได้ว่าเจ้ยมีความคิดลึกซึ้งมาก ซึ่งอาจจะเข้าใจยากสำหรับคนส่วนหนึ่ง
หลังจากนั้น เจ้ยเดินทางไปเป็นกรรมการตัดสินในสายหลักที่เทศกาลหนังสารคดียามากาตะ ร่วมกับกรรมการชื่อดังจากหลายประเทศ ได้แก่ เปโดร คอสต้า ผู้กำกับชื่อดังจากโปรตุเกส เจ้าของผลงานประกวดที่เมืองคานส์เรื่อง Colossal Youth นักวิจารณ์และอาจารย์สอนภาพยนตร์ชื่อดังจากญี่ปุ่นฮาซูมิ ชิเงะฮิโกะ ผู้กำกับสารคดีหญิงแคนาดา Alanis Obomsawin และผู้กำกับฟิลิปปินส์ชื่อ Kidlat Tahimik
ในงานนี้ได้มีการนำผลงานของคณะกรรมการมาฉายให้ดูด้วย ซึ่งเจ้ยได้คัดเลือก แสงศตวรรษ เข้าฉาย พร้อมได้ปรากฎตัวพบคนดูด้วย
เจ้ยกล่าวว่า ที่เขาเลือก แสงศตวรรษ มาฉายในเทศกาลหนังสารคดียามากาตะ เพราะว่า มีบางส่วนที่นำมาจากชีวิตของพ่อแม่ เจ้ยกล่าวว่า จริง ๆ แล้วหนังของเขาทั้งสามเรื่อง ถือว่าอยู่ในวงจรเดียวกัน เป็นเรื่องเกี่ยวกับสิ่งรอบตัวเขา สุดเสน่หาเป็นเรื่องของบ้านเกิด สัตว์ประหลาดเป็นเรื่องเกี่ยวกับตัวเขา และ แสงศตวรรษ เป็นเรื่องเกี่ยวกับพ่อแม่ของเขา
มีคนซักถามมากมาย แต่ด้วยข้อจำกัดเรื่องเวลา และเจ้ยเป็นคนครุ่นคิดก่อนจะตอบคำถามแต่ละข้อ ทางพิธีกรขอให้มา Q & A ที่หน้าโรงต่อ
หลังจากเทศกาลหนังยามากาตะแล้ว จะมีการเสวนาต่อที่โตเกียว จัดโดยนิตยสารฝรั่งเศสชื่อดังกาแยร์ดูซิเนม่า แต่คนเขียนไม่ได้ไป เพราะต้องไปทำงานอย่างอื่น
แต่งานของเจ้ยยังไม่จบ ขณะนี้เจ้ยกำลังมีนิทรรศการงานแสดง จัดโดย MOD (Musuem of Modern Arts) ซึ่งจะเป็นงานลักษณะเป็น performing arts ที่ใช้สื่อผสม ทั้งวีดีโอและอื่น ๆ โดยในส่วนของวีดีโอนั้น ได้ถ่ายทำแล้ว โดยนำนักแสดงที่เคยเล่นในหนังของเขา ไม่ว่าจะเป็น ศักดา แก้วบัว และคนอื่น ๆ (จำชื่อไม่ได้ค่ะ ขออภัย) ซึ่งจะถ่ายทอดเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการเมืองในประเทศไทยขณะนี้
งานจะเปิดวันศุกร์นี้ และจะเปิดให้คนทั่้วไปชมในวันเสาร์ ถ้ามีโอกาสได้ไปแวะชม จะถ่ายภาพมาให้ดูค่ะ
ขอจบการรายงานข่าวแต่เพียงเท่านี้
ขอขอบคุณน้องมิวะ (จำนามสกุลไม่ได้) ที่ช่วยค้นข้อมูลและช่วยเหลือทุกอย่าง
|