เมื่อเวลา 16.00 น. วันอังคารที่ 2 สิงหาคม ที่ จีทีเอช นายวิสูตร พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท จีทีเอช และ นายยงยุทธ ทองกองทุน โปรดิวเซอร์ ภาพยนตร์เรื่อง โกยเถอะโยม ของผู้กำกับตลกชื่อดัง จตุรงค์ พลบูรณ์ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สภาองค์กรพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย ได้ทำหนังสือยื่นต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประท้วงภาพยนตร์โกยเถอะโยม
วิสูตร พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท จีทีเอช เปิดเผยว่า ทางบริษัทยังยืนยันการฉายภาพยนตร์เรื่องโกยเถอะโยมในวันที่ 3 สิงหาคมเหมือนเดิม เนื่องจากที่ได้รับข่าวล่าสุดจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าถ้าหนังผ่านการตรวจสอบจากกองเซ็นเซอร์เรียบร้อยแล้ว ก็ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไร เราจึงยืนยันการฉายเหมือนเดิม
ส่วนข้อเรียกร้องจากสภาองค์กรพระพุทธศาสนาที่ให้เราตัดบางจุดออกนั้น เราน้อมรับฟังความคิดเห็น ซึ่งคงขอดูทีละจุด ตอนนี้เรารอฟังจากผู้มีอำนาจเกี่ยวข้องว่าจะดำเนินการอย่างไร แต่ในตอนนี้หนังเราได้ผ่านระบบการตรวจสอบทั้งหมดแล้ว
ส่วนข้อซักถามที่ว่า การสร้างหนังต้องมองให้รอบคอบมากขึ้นมั้ยนั้น วิสูตร เผยว่า ผมมองว่าคนสร้างภาพยนตร์ควรมีเสรีภาพทางความคิด เพราะไม่อย่างนั้นเราจะเกิดความขยาดและไม่กล้าในการสร้างภาพยนตร์มากขึ้นไปอีก ผมคิดว่าระบบเซ็นเซอร์ในปัจจุบันทำหน้าที่ตรวจสอบได้ดีอยู่แล้ว และเราเองค่อนข้างจะคุ้นชินกับระบบนี้ เพราะฉะนั้นเวลาที่เราวางกรอบตัวเราเองในการคิดเรื่อง เราคิดอยู่ในกรอบที่คิดได้ เราจะไม่ลดความคิดจนเราไม่กล้าทำอะไรเลย เราคงไม่ไปถึงจุดนั้นอย่างแน่นอน
ส่วนเรื่องที่ให้เราเปลี่ยนชื่อเรื่องนั้นคงต้องขึ้นอยู่กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าได้มีการออกหนังสือ หรือว่าได้มีการพูดคุยถึงประเด็นนี้อย่างไร แต่ว่าเรื่องนี้เราได้ชี้แจงไปแล้วว่าไม่ใช่พระพูดแต่เป็นคำพูดที่ชาวบ้านไปถามพระว่าเวลาเจอผีให้ทำอย่างไร พระจะบอกว่าก็หนีซิ หรือว่าหนีเถอะโยม แล้วคำว่าหนีกับคำว่าโกยเป็นคำบ้านๆ ทั่วไปที่ใช้กันอยู่ และเป็นคำปกติที่เมื่อมารวมกันแล้วไม่ได้เป็นคำหยายคาย และไม่ได้น่าเกลียดอะไร เรากลับคิดว่าเป็นคำที่สื่อความหมายตัวภาพยนตร์ได้ดี ถ้าจะมีการเปลี่ยนชื่อ
เรื่องคงต้องมาจากการออกจดหมายของผู้ที่มีหน้าที่ ถ้าอยู่เฉยๆ เราก็คงไม่เปลี่ยน และยังคงยืนยันการฉายในวันที่ 3 สิงหาคมเหมือนเดิมครับ
ยงยุทธ ทองกองทุน เปิดเผยว่า จากสถานการณ์เมื่อวานที่สภาองค์กรพระพุทธศาสนาได้ยื่นจดหมายประท้วงต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาตินั้น ทางเราได้เรียนเชิญตัวแทนจากสภาองค์กรพระพุทธศาสนามาดูหนัง พอท่านได้ดูพบว่ามีหลายส่วนที่ไม่ถูกต้องตามที่ท่านเขียนลงไป เนื่องจากท่านได้ชมจากในหนังตัวอย่างเพียงบางส่วนเท่านั้น พอได้ชมหนังเต็มเรื่องจึงมีความเข้าใจในตัวหนังมากขึ้น ความคิดเห็นจึงเริ่มแตกต่างจากจดหมายร้องเรียน
ยงยุทธ กล่าวอีกว่า สำหรับหนังเรื่องโกยเถอะโยมเรามีตัวแทนจากกองเซ็นเซอร์มาพิจารณาเนื้อหาของหนังเรียบร้อยแล้ว และถ้าเรารู้สิ่งเหล่านี้มาก่อน เราคงทำไปตามขั้นตอน แต่ตอนนี้หนังผ่านทุกอย่างเรียบร้อยหมดแล้ว ตัวหนังได้เผยแพร่ออกไปแล้ว และตัวแทนองค์กรที่ได้ดูก็บอกว่าไม่ได้เป็นอย่างที่เค้าคิดทั้งหมดนะ หรือแม้กระทั่งผู้ชมก็ไม่ได้ติดใจอะไร นาทีนี้ในเชิงภาพรวมหนังของเราเกิดจากความตั้งใจที่จะให้ความบันเทิง บวกกับเราต้องการนำเสนอภาพของตัวพระสงฆ์ที่มีความใกล้ชิดกับคนธรรมดา เพื่อส่งเสริมพระพุทธศาสนาตามเจตนารมณ์ของผู้กำกับ จตุรงค์ พลบูรณ์ และจากเมื่อวานที่เราได้ไปออกรายการถึงลูกถึงคน SMS ที่เข้ามาค่อนข้างจะเห็นด้วยกับทางเราว่า อย่างน้อยถ้าได้ดูหนังก่อน จะรู้ว่าเราไม่ได้มีเจตนาในการทำลายพระพุทธศาสนา หรือเอาพระมาเล่นตลกทั้งสิ้นอย่างแน่นอนครับ |