|
จารุภัทร ธนาฐิตากร ตัวแทนไทยไปเรียนหนังที่ปูซานปีนี้ |
Gihun Song, ผู้รับผิดชอบฝ่ายต่างประเทศของ Asian Film Academy กล่าวไว้ว่า ปีนี้มีผู้สมัครค่อนข้างมาก มาจากทั่วเอเชียเลย มีทั้งนักเรียนหนังหรือคนทำหนังรุ่นเยาว์ มีผู้สมัครรวมทั้งสิ้น 143 คน จากประเทศไทยมีจำนวน 15 คน ปีที่แล้วมีผู้สมัครจากไทยเพียงคนเดียวเท่านั้น พร้อมกันนี้ทาง AFA ก็ได้กล่าวขอบคุณ www.thaicinema.org ที่ช่วยเผยแพร่ข่าวมาตลอด : )
เราหวังว่าปีหน้าจะมีผู้สมัครจากเมืองไทยมากขึ้น เขากล่าวทิ้งท้ายไว้
หลังจากที่เราได้ลงข่าวไปเมื่อหลายเดือนก่อน เรื่องโครงการอบรมทำหนังกับผู้กำกับชั้นนำของเอเชียในเดือนตุลาคมนี้ ี้ในระหว่างเทศกาลหนังปูซาน หรือที่รู้จักกันดีในนามว่า Asian Film Academy นั้น ในที่สุดเราก็ได้ตัวแทนฝ่ายไทยแล้ว
จารุภัทร ธนาฐิตากร เป็นนักศึกษาปริญญาโทปี 2 ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยเลือกศึกษาวิชาเอก ศิลปะและการออกแบบสื่อ อายุ 27 ปี ก่อนหน้านี้ไม่ได้มีประสบการณ์ทำหนังโดยตรง แต่เคยได้รับการคัดเลือกเข้าโครงการเรือเยาวชน และเคยไปเรียนภาษาญี่ปุ่น
จารุภัทรให้สัมภาษณ์ทางไกลกับ www.thaicinema.org ว่า เธอได้ทราบข่าวเรื่องทุนนี้จากเว็บไซต์รุ่นของภาควิชาการสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยผู้ที่ไปโพสต์ลงข่าวคราวไว้ก็คือ Krittanut Legwuttigarn หรือน้องโน้ต ตัวแทนไทยที่ได้รับทุนไปเข้าอบรมเมื่อปีที่แล้วนี้เอง
จารุภัทร หรือน้องโบ ไม่เคยมีพื้นฐานความรู้ทางการผลิตภาพยนตร์มากนัก เธอจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากสาขาการสื่อสารมวลชน คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ วิชาเอกวิทยุกระจายเสียง ได้ลงวิชาการใช้กล้องบ้าง เฉพาะวิชาที่เกี่ยวข้องกับการผลิตสื่อโทรทัศน์
ตัวแทนไทยคนล่าสุดกล่าวว่า เธอไม่เคยทำหนังมาก่อน จนกระทั่งมาลงวิชา Audio & Visual เมื่อเทอมที่แล้ว หนึ่งในวิชาระดับปริญญาโทที่เธอกำลังศึกษาอยู่ หนังสั้นที่เธอทำร่วมกับเพื่อนอีก 2 คนมีชื่อว่า ใคร ฆ่าประชา มีความยาวเพียง 10 นาที โดยใช้กล้องดิจิตัลที่พากเพียรจากการทำงานเป็นล่ามมาซื้อในราคาเพียง 25,000 บาทเท่านั้น
ใคร ฆ่าประชา ดูเผิน ๆ แล้วจะเป็นเรื่องราวการสืบสวนสอบสวนของยามประจำหมู่บ้าน 2 คน ที่ไปพบศพนายประชานอนอยู่ แทนที่จะรอให้ตำรวจมาเก็บหลักฐานและสืบสวนคดี ยามทั้งสองกลับยึดโน้ตบุ๊คของนายประชาไปเพื่อทำการสืบคดีเอง หนังได้สัมภาษณ์บุคคลที่เกี่ยวข้องหลายฝ่าย แต่ท้ายที่สุดก็พบความจริงบางอย่างจากข้อมูลในโน้ตบุ๊คที่นายประชาทิ้งไว้นั่นเอง แต่สิ่งที่จารุภัทรและเพื่อน ๆ ต้องการเสนอให้เห็นอันตรายของสื่อ (ดูโหลดคลิปได้ที่ http://pracha.netimage.co.th/)
หนังเรื่องนี้ใช้เงินลงทุนไม่ถึง 500 บาท
จารุภัทรกล่าวว่า ปรกติเป็นคนดูหนัง แต่ก็เป็นหนังทั่วไป เช่น หนังไซไฟบ้าง หนังแอ็คชั่นบ้าง ไม่ชอบดูหนังอาร์ต เพราะดูแล้วก็ไม่เข้าใจนัก
ในการสมัครเพื่อชิงทุนครั้งนี้ น้องโบกล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องส่งผลงานเป็นหนังก็ได้ แต่เผอิญเธอมีผลงานอยู่เรื่องหนึ่งพอดี เธอได้เขียนแนะนำตัวเพียง 2 หน้าตามที่ได้กำหนดไว้
อย่างไรก็ตาม หลังจากการซักถาม เห็นได้ชัดว่าจารุภัทรมีจุดเด่นอย่างหนึ่งที่ทำให้เธอชนะคู่แข่งไปได้หลายคน เธอเป็นคนถนัดทางด้านเสียง วิชาเอกก็เลือกเรียนด้าน soundscape คือ การศึกษาเสียงที่อยู่รอบ ๆ ตัว ที่เราได้ยินทุกวันนี้ มีการเปลี่ยนไปตามยุคสมัยด้วย และในใบแนะนำตัวของเธอก็ได้ระบุอย่างชัดเจนว่าต้องการจะเน้นเรื่องเสียงในหนัง พร้อมทั้งตั้งคำถามว่าทำไมหนังส่วนใหญ่จึงเน้นภาพมากกว่าเสียง
จารุภัทรไม่ได้ตั้งความหวังมากนักว่ากลับมาจะได้ทำงานทางด้านหนังโดยตรง แต่ถ้ามีโอกาส ก็อยากจะเน้นในเรื่องการทำเสียงของภาพยนตร์มากกว่าส่วนที่เป็นภาพ
เว็บหนัง "ใครฆ่าประชา" http://pracha.netimage.co.th/
เว็บสาขาสื่อศิลปะและการออกแบบสื่อที่เธอกำลังศึกษาอยู่ http://www.mediaartsdesign.org/ |