ดิฉันกำลังจะรายงานข่าวเทศกาลหนังเมืองคานส์ให้ฟังในวันนี้ หลังจากเจอโรคเลื่อนมาอยู่เรื่อย ปีนี้ไม่ทราบเป็นอะไร เหนื่อยมาก
แต่ไม่คิดว่าพอเปิดอีเมลปุ๊บ ก็เจอข่าวร้าย และต้องมาเขียนรำลึกถึงพี่เชิดในยามนี้แทน
ดิฉันรู้จักพี่เชิด หรือถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ พาตัวเองให้พี่เชิดรู้จักเมื่อปี 253 9 เพราะคนส่วนใหญ่จะต้องรู้จักพี่เชิดอยู่แล้ว และสถานที่ที่ทำให้เรารู้จักกันก็คือหน้าห้องแถลงข่าวที่เมืองคานส์นี้เอง
ดิฉันไปเมืองคานส์ครั้งที่สอง ปีที่ตัวเองยังคงเป็นศิลปินเดี่ยว เพราะไม่มีคนในวงการหนังไป ยกเว้นก็สหมงคลฟิลม์ที่ไปซื้อหนังฝรั่งมาฉายในเมืองไทย
แต่คนไทยคนแรกที่ดิฉันได้รู้จักที่เมืองคานส์ คือ เขา
เชิด ทรงศรี
นาทีแรกที่ดิฉันเห็นพี่เชิด รู้สึกแกคุ้นหน้าคุ้นตา และเปิ่นเข้าไปทักแกเป็นภาษาอังกฤษเพราะเข้าใจว่าเป็นผู้กำกับจากแถวบ้าน You look like a famous Thai director.
พี่เชิดบอกว่า Well, what is his name?
ตอนนั้นดิฉันอยู่ในอาการมึน เวลาอยู่ในเทศกาลหนังเมืองนอก จะต้องใช้เวลานานที่จะนึกถึงอะไร สักครู่ แกก็หัวเราะ หันไปพูดกับคนผู้หญิงคนหนึ่ง ๆ เป็นภาษาไทย
น้องคนนี้มาจากเมืองไทย
ฉันงง ก่อนจะตั้งสติได้อีก
อ้าวที่จริง แกก็คือเชิด ทรงศรี ตัวจริงนั่นเอง และผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ นั่นก็คือ จันนิภา เจตน์สมมา พี่แจ๊ดนั่นเอง
พี่เชิดยังคงมาเมืองคานส์อีกหลายปีหลังจากนั้น พร้อมกับความจริงบางอย่างที่คนส่วนใหญ่จะไม่รู้ก็คือ พี่เชิดมาที่นี่ในฐานะสื่อ มีเพียงปีแรกปีเดียวเท่านั้นที่เขามาในฐานะผู้กำกับ ด้วยเหตุผลที่ว่าจะได้ดูหนังเยอะ ๆ ไม่ต้องไปยืนขอตั๋ววันละหลายครั้ง
เพราะฉะนั้นชื่อของหนังสือพิมพ์อย่าง ไทยรัฐ และข่าวสด อยู่ในบัญชีรายชื่อสื่อของเมืองคานส์ด้วยนักข่าวที่ชื่อเชิด ทรงศรี มานานหลายปี
เพิ่งจะขาดไปในปีนี้เอง
ในบรรดาผู้กำกับที่ชอบดูหนังที่สุด คงจะไม่มีใครรักหนังเท่าพี่เชิดในความรู้สึกของดิฉัน อ้าว มีผู้กำกับคนไหนล่ะที่ติดดิน ขนาดยอมมาที่นี่ในฐานะสื่อมวลชน
หลายครั้งที่เราเจอกันในช่วงพัก เราก็จะหยุดคุยกันถึงหนังเรื่องโน้นเรื่องนี้ และสิ่งที่ดิฉันได้เจอก็คือ ความคิดของพี่เชิดต่อหลังเรื่องหนึ่ง ๆ เป็นแง่มุมที่ดิฉันไม่รู้ มันเป็นทรรศนะของผู้รู้เรื่องการทำหนังอย่างจริงจัง จนดิฉันอดที่จะเอ่ยปากไม่ได้ว่า โห นี่สมกับเป็นเป็นแง่มุมของผู้กำกับ ดูตัวเองโง่ไปเยอะเลย
แง่มุมของพี่เชิด ไม่ว่าจะเป็น Crash (โดยเดวิด โครเนนเบิร์ก) เป็นหนังที่อันตรายต่อคนดูมาก (เพราะในเรื่องตัวละครจะเสพสมกันทุกครั้งด้วยการขับรถชนกัน) หรือไม่ก็ Russian Ark ก็น่าสนใจในเรื่องมุมกล้องนะ หนังแบบนี้ต้องซ้อมมาอย่างดีเหมือนละครเวที
พี่เชิดเป็นคนที่สองที่มีรายชื่อในคานส์ในฐานะสื่อมวลชนจากไทย และที่สำคัญ พี่เชิดเธอรักการเขียนด้วย พอเจ้ย อภิชาติพงศ์ได้รับรางวัล Un Certain Regard จาก Blissfully Yours เธอรีบรายงานกับเมืองไทยเลย
ดิฉันจำได้อีกเช่นกัน ปีนั้นดิฉันหิ้วแขนที่หัก จนต้องดามตั้งแต่หัวไหล่ถึงนิ้วมือ มีแต่พี่เชิดกับฟิลิป เชียห์ เพื่อนผู้จัดเทศกาลหนังสิงคโปร์เท่านั้นที่คอยช่วยเหลือฉันตลอด .....ในสภาพพิการแบบนั้น
ดิฉันเคยขอพี่เชิดว่าอยากเขียนถึงเขาในฐานะนี้ ในฐานะคนรักหนังแท้ ๆ พี่เชิดตอบมาว่า เอาไว้ค่อยเขียนตอนขึ้นสวรรค์แล้ว
และไม่น่าเชื่อว่า ดิฉันต้องเขียนถึงพี่เชิดในช่วงเวลานี้จริง ๆ
เท่ากับที่ต้องขอโทษพี่เชิด ที่ไม่รู้ว่าพี่เชิดป่วยหนัก จนกระทั่งมาถึงที่นี่ และมีใครบางคนมากระซิบที่ข้างหู
ดิฉันเขียนอะไรไม่ออกแล้ว ขอเพียงเราทุกคน ร่วมไว้อาลัยให้กับการจากไปของพี่เชิด อีกครั้ง คนรักหนังที่แท้จริง |