สนับสนุนโดย สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม Supported by Office of Contemporary Art And Culture ,Ministry Of Culture

หน้าแรก
ข่าว
วิจารณ์
สัมภาษณ์
บทความพิเศษ
รายงานหนังไทยในเทศกาลหนังต่างๆ
รายชื่อหนังสือและบทความเกี่ยวกับหนังไทย
รายชื่อ ที่อยู่ หน่วยงาน
 
รายชื่อหนังเก่า
 
 
 
 

   
ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช  ตำนานสมเด็จพระนเรศวร
  มจ. ชาตรีเฉลิม ยุคล
  NARESUAN HOME  
 

“ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” ปิดกล้อง ... ฉายธันวาคมนี้ทุกโรงทั่วประเทศ

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ / ท่านมุ้ยปิดกล้อง “ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” ยืนยันพร้อมฉายธันวาคมนี้ทุกโรง ทั่วประเทศ เผยเลือกปิดกล้องด้วยฉาก “ พระมหาจักรพรรดิเจรจาหย่าศึก” กับ หงสาวดี เพราะรวมดารา รุ่นเก๋ามืออาชีพ อาทิ ศรัณยู วงษ์กระจ่าง รับบท สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ, ฉัตรชัย เปล่งพานิช รับบท สมเด็จพระมหาธรรมราชา, สมภพ เบญจาธิกุล รับบท พระเจ้าหงสาวดีบุเรงนอง, จักรกฤษณ์ อำมะรัตน์ รับบท นันทบุเรง, สันติสุข พรหมศิริ รับบท พระมหินทร, สถาพร นาควิไล รับบท พระราเมศวร, ไพโรจน์ ใจสิงห์ รับบท พระยาจักรี ฯลฯ มั่นใจข้อมูลทางประวัติศาสตร์ใกล้เคียงเรื่องจริงที่สุด หลังใช้เวลาค้นคว้าในสถานที่จริงกว่า 6 ปี รวมการถ่ายทำอีกกว่า 3 ปี ย้ำหนังดีไม่ต้องเร่งสร้าง …

          ภาพยนตร์ “ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” โดย ท่านมุ้ย – ม.จ. ชาตรีเฉลิม ยุคล เปิด กองถ่ายต้อนรับกองทัพสื่อมวลชนนับร้อยจากทุกแขนง เข้าชมสถานที่ถ่ายทำ ที่ตั้งใจสร้างกึ่งถาวรเพื่อเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวประจำจังหวัดกาญจนบุรีและเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ในอนาคต พร้อมร่วมชมฉาก “พระมหาจักรพรรดิเจรจาหย่าศึกกับหงสาวดี” ฉากปิดกล้องที่อลังการมีนักแสดงร่วมเข้าฉากมากมายทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายพม่า

          ท่านมุ้ย เปิดเผยว่า “วันนี้ปิดกล้องแต่ยังไม่ล็อกกุญแจ เพราะยังเหลืออีก 2 ฉากที่ยังไม่เสร็จ คือฉากหงสาวดีและพระที่นั่งสรรเพชรปราสาท แต่ที่เลือกปิดกล้องด้วยฉากนี้ เพราะเป็นการรวมดารารุ่นใหญ่ มืออาชีพและเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่อง ผมอยากให้ลูกหลานรู้จักประวัติศาสตร์ให้มากที่สุด ผมใช้เวลา 6 ปีในการหาข้อมูล ผมเดินทางไปในสถานที่จริง ทั้งเมืองอังวะ ตองอู เขมร ประวัติศาสตร์พม่าเหมือนกับของไทยครับต่างกันก็นิดหน่อย วันเวลาก็ตรงกับเรา มีหลายอย่างที่ไม่มีในเรา แต่มีในพม่า เช่น สมเด็จพระนเรศวรเคยอยู่พม่าแต่ไทยไม่มี ส่วนพระสุพรรณกัลยาไทยไม่มีพูดถึงเลย แต่พม่ามี” พร้อมกล่าวถึงการถ่ายทำที่ใช้เวลานานกว่า 3 ปีว่า “การสร้างหนังที่ดีจะเร่งไม่ได้ เพราะรายละเอียดมันมาก เช่น ถ้าผมจับภาพอยู่ที่ คุณหนุ่ม-สันติสุข และ คุณตั้ว-ศรัณยู 2 คน แต่จริงๆ ด้านหลังของคนทั้ง 2 คนมีทหารเป็นร้อย หนังถ้าสั้นไปเราก็จะดูไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจเรื่องผมก็เลยไม่กล้าที่จะตัดออกไป ส่วนทางด้านงบประมาณบานปลายหรือไม่ผมไม่ทราบครับ แต่ถ้าเป็นภาคเดียวบานปลายแน่นอน 2 ภาคเสมอตัว 3 ภาคเป็นกำไร 4 ภาคกำไรมหาศาล แต่ในใจผมอยากจะให้เป็น 3 ภาค ภาค 1 ตอนปฐมวัย ภาค 2 ตอนที่สมเด็จพระนเรศวรประกาศอิสรภาพ และ ภาค 3 เป็นการโจมตีต่อสู้”

          ด้านนักแสดงสำคัญในฉาก ตั้ว-ศรัณยู วงษ์กระจ่าง ซึ่งรับบท “สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ” กล่าวถึงความรู้สึกที่ได้ร่วมงานกับท่านมุ้ยว่า “เข้าใจในการทำงานของท่านมุ้ย เห็นได้จากเรื่องสุริโยทัย ที่พิถีพิถันทุกองค์ประกอบ ผมรับบทเดิมครับ ทำให้เข้าใจตัวละครง่ายขึ้น การรับบทเดิมก็เหมือนการทำงานที่ต่อเนื่องครับ ในเรื่องของการแต่งตัวก็ยุ่งยากนิดหน่อยเพราะต้องทำให้สูงวัยขึ้น ฉากนี้เป็นช่วงที่เรียกว่าท้ายๆของอายุของพระมหาจักรพรรดิแล้วครับ ดีใจครับที่ท่านไว้วางใจให้รับบทบาทสำคัญแบบนี้อีกครั้ง”   นก-ฉัตรชัย เปล่งพานิช รับบท “พระมหาธรรมราชา” กล่าวว่า “การได้มากองถ่ายทำให้รู้สึกดี เวลาที่ท่านมุ้ยสั่ง กล้องเดิน แอคชั่นเราก็เล่นได้ เรียกว่าปัญหาเรื่องสุขภาพไม่มีผลต่อการแสดง แต่อาจจะมีบ้างที่ทำให้ร่างกายเราไม่เต็มร้อย พยายามทำกายภาพบ้าง ออกกำลังกายเบาๆ ประทับใจมากครับ ที่ได้ร่วมงานกับท่านมุ้ย ท่านเป็นคนที่มีความจริงจังกับสิ่งที่ท่านรัก ท่านรักหนังท่านก็จริงจังและทุ่มให้กับหนังอย่างเต็มที่”

          “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” ปิดกล้องเรียบร้อยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงบางส่วน ในด้านการถ่ายทำและการดำเนินการด้าน Post-Production โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาท่านมุ้ยได้ทยอยตัดต่อภาพยนตร์ในส่วนที่ถ่ายทำไปแล้วกว่า 50% และเมื่อเก็บรายละเอียดในขั้นตอน Post-Production ก็พร้อมที่จะนำออกฉายพร้อมกันทุกโรงภาพยนตร์ในช่วงกลางเดือนธันวาคม 2549

          ร่วมกันปลุกจิตสำนึกให้แก่แผ่นดินที่บรรพบุรุษเราหวงแหนและปกป้องรักษาด้วยชีวิต ประกาศอิสรภาพพร้อมกันทั่วประเทศ ธันวาคมศกนี้

 

ภาพชุด "ตำนานสมเด็จพระนเรศวร" เมื่อไปออกบูธที่เมืองคานส์ เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

กระโจม “ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ”
กระโจมเหล่านี้เรียกว่า Village   ปรกติจะให้ตัวแทน
แต่ละประเทศมาตั้ง   แต่ของไทยมาตั้งในนามบริษัท
พร้อมมิตร เพื่อโชว์หนัง
“ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” โดยเฉพาะ

 

 

 

 

ภาพคัทเอาท์ของหนัง "ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่บูธสหมงคลฟิลม์

 

 

 

 

4 ภาพหลัง เป็นภาพในกระโจมของพร้อมมิตร  ซึ่งตั้งริมหาดริเวียร่า   มีการจัดตกแต่งสวยงามและหรูหรามาก  จนฝรั่งพากันขอถ่ายรูปด้วยเป็นแถว

 

ท่านมุ้ยเข้ม ถ่ายฉากสำคัญ "ประกาศอิสรภาพ ณ เมืองแครง"

           ท่านมุ้ยเข้ม! ฉากสำคัญสุด “ สมเด็จพระนเรศวรประกาศอิสรภาพที่เมืองแครง” ถ่ายทำท่ามกลางแดดเปรี้ยง ... เผยสำเร็จหรือไม่สำเร็จอยู่ที่ฉากน

         “สมเด็จพระนเรศวรประกาศอิสรภาพที่เมืองแครง” ฉากสำคัญที่สุดของภาพยนตร์ “ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” เข้มงวดเพื่อความสมจริง ทุกขั้นตอน ตั้งแต่การทำพิธี ที่ถึงขนาดต้องส่งเทียบรับท่านพราหมณ์จากในวังดูแลเครื่องบวงสรวง และการทำพิธีอย่างถูกต้องตามธรรมเนียมโบราณ นอกจากนี้ยังมีทหารนักแสดงประกอบที่ร่วมฉากสำคัญอีกนับพันคน

          หลังจากถ่ายทำฉากสู้รบที่มีความยิ่งใหญ่อลังการมาแล้วเป็นแรมปี มาถึงวันนี้การถ่ายทำภาพยนตร์ “ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” รุดหน้าไปแล้วกว่า ๗๕% คงเหลือแต่ฉากภายในที่เร่งถ่ายทำเต็มที่ โดยฉากที่สำคัญที่สุดของเรื่องคือ ฉาก “ สมเด็จพระนเรศวรมหาราชประกาศอิสรภาพที่เมืองแครง” นับเป็นช่วงเวลาที่สำคัญยิ่งของประวัติศาสตร์อยุธยา และต่อคนไทยทุกคน เพราะเป็นห้วงสำคัญที่ทำให้มีแผ่นดินไทยทุกวันนี้

      

          “ฉากประกาศอิสรภาพ ณ เมืองแครง เป็นฉากที่สำคัญที่สุดของเรื่อง เป็นฉากที่สมเด็จพระนเรศวรตัดความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับหงสาวดี ซึ่งหมายถึงการหลุดพ้นจากฐานะประเทศราชที่ขึ้นกับพม่ามากว่า ๑๕ ปี เพราะฉะนั้นต้องทำให้ดีที่สุด เราจะทำสำเร็จหรือไม่สำเร็จ อยู่ที่ฉากนี้ ผู้กองเบิร์ด-พระนเรศวรของเรา ต้องแสดงให้เต็มที่ เดี่ยวเลย ไม่มีใครช่วยเลย เป็นบทพูด ไม่ได้พูดกับใคร ต้องพูดกับเทวดาฟ้าดิน โดยเฉพาะคำพูดที่ต้องใช้สำนวนโบราณ ที่ไม่ได้ใช้อยู่ทุกวันจึงทำให้ต้องมีความประณีตมากและต้องละเอียดในทุกๆ ถ้อยคำ ส่วนด้านฉากก็ต้องให้ดูยิ่งใหญ่และสมจริงเพราะเป็นช่วงเวลาที่สำคัญยิ่งของคนไทยทุกคน

          แต่ถ้าถามว่าจะได้ชมเมื่อไหร่ ก็ตอบเลยครับว่าอีกไม่นานครับ เพราะขณะนี้ฉากรบเราถ่ายไปได้มากแล้ว ส่วนใหญ่ก็เหลือฉากที่ต้องแสดงอารมณ์ ส่วนการตัดต่อก็ทำไปได้มาก ด้านนักแสดงทุกคนเต็มที่กับงานมากครับ อย่างบางท่านต้องเสียสละเวลามาเพื่อภาพยนตร์เรื่องนี้จริงๆ เช่น คุณ คมน์ อรรฆเดช ที่ห่างการแสดงไปถึง ๒๐ ปี แต่ก็กลับมารับเล่นหนังของผม ทั้งๆ ที่ท่านก็เป็นผู้กำกับมีชื่อคนหนึ่ง ซึ่งเรื่องนี้สร้างความปลื้มใจให้ผม อย่างมาก ส่วนเบิร์ด ตั้งแต่เริ่มงานกันมาก็เต็มที่ตลอด พอมาถึงบทนี้เบิร์ดยิ่งให้ความสนใจมากขึ้นอีก เพราะเป็นฉากที่ต้องแสดงอารมณ์ คนเดียว แรกๆผมก็กังวลว่าเบิร์ดจะทำได้รึเปล่า แต่พอซ้อมเบิร์ดแสดงได้เยี่ยม ส่วนนักแสดงท่านอื่นๆ ก็มืออาชีพทุกคน ” ท่านมุ้ยกล่าว

 

           คมน์ อรรฆเดช อดีตผู้กำกับและนักแสดงรุ่นใหญ่ ได้กล่าวถึงท่านมุ้ยว่า “ ท่านมุ้ยเป็นผู้กำกับที่เก่งมีความสามารถ โดยดูได้จากวิธีการกำกับและเทคโนโลยีที่นำมาใช้ โดยเฉพาะฉากวันนี้ท่านได้ศึกษามาอย่างดีก่อนที่จะถ่ายทำ ส่วนตัวผมเองดีใจและเป็นเกียรติมากที่ได้กลับมาร่วมงานกับท่านอีกครั้งหนึ่ง”

           พระเอกมาดเข้ม ร.อ. วันชนะ สวัสดี (เบิร์ด) กล่าวถึงการร่วมงานกับท่านมุ้ย ว่า “ ท่านเป็นผู้กำกับ
ที่มีความละเอียด ประณีต พิถีพิถันมาก ท่านต้องการให้งานออกมาดีที่สุดแล้วทุกครั้งงานก็ออกมาดีจริงๆ ส่วนตัวผมวันนี้เป็นฉากที่ยากมาก  เพราะต้องแสดงอารมณ์ออก มาทางสีหน้าแววตาและคำพูด ที่สำคัญพูดยาวมาก จึงต้องมี การซ้อมและศึกษาอย่างดี ท่านมุ้ยก็จะช่วยบอกช่วยสอนตลอดเวลา ทำให้การทำงานไม่เกร็งมากนัก”

          ท่านผู้กำกับได้ฝากถึงทุกท่านที่รอชมผลงานอลังการงานสร้าง เรื่องนี้มาว่า “ ตัวผมเองรวมถึงทีมงาน ทุกคนทุ่มเทความสามารถกันอย่างเต็มที่ ผมขอฝากภาพยนตร์เรื่อง “ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ไว้ด้วย”      

 

บวงสรวง "ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช"

 

          สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นประธานในพิธีบวงสรวงเปิดกล้องภาพยนตร์เรื่อง “ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ” ภายในบริเวณกองพลทหารราบที่ 9 (ค่ายสุรสีห์) ตำบลลาดหญ้า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี โดย “ ท่านมุ้ย ” ม.จ. ชาตรีเฉลิม ยุคล ผู้กำกับภาพยนตร์ จัดการถ่ายทำถวายให้ทอดพระเนตรโดย   เปิดกล้องด้วยฉากขบวนเสด็จของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เพื่อเฝ้าสมเด็จพระมหาธรรมราชา พระราชบิดา ที่เมืองอโยธยา โดยมีนักแสดงกว่า 1,000 คน ร่วมเข้าฉาก

           จุดเด่นของภาพยนตร์เรื่อง “ ตำนานสมเด็นพระนเรศวรมหาราช ” คือสถานที่ถ่ายทำที่ท่านมุ้ยได้ทุ่มเทเต็มที่กับงานสร้างฉากอย่างยิ่งใหญ่อลังการ โดยเนรมิตพื้นที่ป่ากว่า 1,500 ไร่ ที่กาญจนบุรี ให้เป็นเมืองอยุธยา , หงสาวดี พร้อมทั้งสถานที่สำคัญของทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งท่านมุ้ยให้รายละเอียดเกี่ยวกับการก่อสร้างฉากว่า ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2546 จนถึงปัจจุบัน ใช้งบประมาณในการนี้ราว 200-300 ล้านบาท เพื่อให้มีความยิ่งใหญ่สมจริง การสร้างฉากและอุปกรณ์ประกอบฉากอย่างพิถีพิถัน ทั้งงานสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมของฝ่ายไทยและฝ่ายพม่า โดยได้ศึกษาค้นคว้าข้อมูลอย่างละเอียดเพื่อการออกแบบจัดทำและสร้างอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด งานที่เกี่ยวกับพม่าบางส่วนได้จัดหามาจากพม่าโดยตรง และการสร้างฉากแบบกึ่งถาวรนี้สามารถจัดให้เป็นพื้นที่เช่าเพื่อใช้ในการถ่ายทำภาพยนตร์หรือละคร ทั้งจากผู้สร้างภายในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของไทย และสามารถพัฒนาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวได้ในอนาคต

           “ เหตุที่เลือกกาญจนบุรีเป็นสถานที่ถ่ายทำ เพราะสอดคล้องกับประวัติศาสตร์ที่เป็นเมืองหน้าด่านที่สำคัญ ในการสกัดกั้นทัพพม่าก่อนที่จะเข้าถึงอยุธยาได้ เป็นเส้นทางเดินทัพทั้งทางบกและทางน้ำ มีเหตุการณ์สำคัญหลายเรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่ในยุคสมัยของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ประกอบกับทำเลที่ตั้งเหมาะสมมาก และที่สำคัญคือเราได้รับการสนับสนุนจากกองทัพบกเป็นอย่างดี ด้วยความพร้อมและศักยภาพทุกด้าน ทั้งพื้นที่ กำลังพล ตลอดจนอุปกรณ์และเครื่องมือต่างๆ ที่ช่วยให้การก่อสร้างดำเนินไปด้วยดี ” ท่านมุ้ยกล่าว

           สำหรับเทคนิคการก่อสร้างฉากและอุปกรณ์ประกอบฉากนั้น “ ท่านมุ้ย ” เปิดเผยว่าได้นำเทคโนโลยีและวิธีการใหม่ๆ มาใช้แบบเดียวกันกับเรื่อง The Lord of the Rings โดยจัดให้ทีมงาน “ นเรศวร ” ไปฝึกงานที่นิวซีแลนด์ และยังมีผู้เชี่ยวชาญมาฝึกสอนให้ในเมืองไทยด้วย

           ภาพยนตร์เรื่อง “ นเรศวร ” สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสมหามงคลที่ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 72 พรรษา   เป็นภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์เรื่องยิ่งใหญ่ที่แสดงถึงความโดดเด่นในด้านความกล้าหาญ ความอดทน ความเสียสละ ตลอดจนพระปรีชาสามารถในยุทธศาสตร์การรบที่ทำให้ประเทศไทยดำรงเอกราชตราบจนทุกวันนี้ อันเป็นพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ชาวไทยทุกคนควรตระหนักด้วยจิตสำนึกในความรักชาติ และมีความกตัญญูรู้คุณ พร้อมที่จะตอบแทนคุณของแผ่นดินไทย )

 

   

Everything you want to know about Thai film, Thai cinema
edited by Anchalee Chaiworaporn อัญชลี ชัยวรพร   designed by Nat  
COPYRIGHT 2004 http://www.thaicinema.org. All Rights Reserved. contact: ancha999 at gmail.com
By accessing and browsing the Site, you accept, without limitation or qualification, these copyrights.
If you do not agree to these copyrights, please do not use the Site.