ท่านมุ้ยเข้ม ถ่ายฉากสำคัญ "ประกาศอิสรภาพ ณ เมืองแครง"
ท่านมุ้ยเข้ม! ฉากสำคัญสุด สมเด็จพระนเรศวรประกาศอิสรภาพที่เมืองแครง ถ่ายทำท่ามกลางแดดเปรี้ยง ... เผยสำเร็จหรือไม่สำเร็จอยู่ที่ฉากน
สมเด็จพระนเรศวรประกาศอิสรภาพที่เมืองแครง ฉากสำคัญที่สุดของภาพยนตร์ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เข้มงวดเพื่อความสมจริง ทุกขั้นตอน ตั้งแต่การทำพิธี ที่ถึงขนาดต้องส่งเทียบรับท่านพราหมณ์จากในวังดูแลเครื่องบวงสรวง และการทำพิธีอย่างถูกต้องตามธรรมเนียมโบราณ นอกจากนี้ยังมีทหารนักแสดงประกอบที่ร่วมฉากสำคัญอีกนับพันคน
หลังจากถ่ายทำฉากสู้รบที่มีความยิ่งใหญ่อลังการมาแล้วเป็นแรมปี มาถึงวันนี้การถ่ายทำภาพยนตร์ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช รุดหน้าไปแล้วกว่า ๗๕% คงเหลือแต่ฉากภายในที่เร่งถ่ายทำเต็มที่ โดยฉากที่สำคัญที่สุดของเรื่องคือ ฉาก สมเด็จพระนเรศวรมหาราชประกาศอิสรภาพที่เมืองแครง นับเป็นช่วงเวลาที่สำคัญยิ่งของประวัติศาสตร์อยุธยา และต่อคนไทยทุกคน เพราะเป็นห้วงสำคัญที่ทำให้มีแผ่นดินไทยทุกวันนี้
ฉากประกาศอิสรภาพ ณ เมืองแครง เป็นฉากที่สำคัญที่สุดของเรื่อง เป็นฉากที่สมเด็จพระนเรศวรตัดความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับหงสาวดี ซึ่งหมายถึงการหลุดพ้นจากฐานะประเทศราชที่ขึ้นกับพม่ามากว่า ๑๕ ปี เพราะฉะนั้นต้องทำให้ดีที่สุด เราจะทำสำเร็จหรือไม่สำเร็จ อยู่ที่ฉากนี้ ผู้กองเบิร์ด-พระนเรศวรของเรา ต้องแสดงให้เต็มที่ เดี่ยวเลย ไม่มีใครช่วยเลย เป็นบทพูด ไม่ได้พูดกับใคร ต้องพูดกับเทวดาฟ้าดิน โดยเฉพาะคำพูดที่ต้องใช้สำนวนโบราณ ที่ไม่ได้ใช้อยู่ทุกวันจึงทำให้ต้องมีความประณีตมากและต้องละเอียดในทุกๆ ถ้อยคำ ส่วนด้านฉากก็ต้องให้ดูยิ่งใหญ่และสมจริงเพราะเป็นช่วงเวลาที่สำคัญยิ่งของคนไทยทุกคน
แต่ถ้าถามว่าจะได้ชมเมื่อไหร่ ก็ตอบเลยครับว่าอีกไม่นานครับ เพราะขณะนี้ฉากรบเราถ่ายไปได้มากแล้ว ส่วนใหญ่ก็เหลือฉากที่ต้องแสดงอารมณ์ ส่วนการตัดต่อก็ทำไปได้มาก ด้านนักแสดงทุกคนเต็มที่กับงานมากครับ อย่างบางท่านต้องเสียสละเวลามาเพื่อภาพยนตร์เรื่องนี้จริงๆ เช่น คุณ คมน์ อรรฆเดช ที่ห่างการแสดงไปถึง ๒๐ ปี แต่ก็กลับมารับเล่นหนังของผม ทั้งๆ ที่ท่านก็เป็นผู้กำกับมีชื่อคนหนึ่ง ซึ่งเรื่องนี้สร้างความปลื้มใจให้ผม อย่างมาก ส่วนเบิร์ด ตั้งแต่เริ่มงานกันมาก็เต็มที่ตลอด พอมาถึงบทนี้เบิร์ดยิ่งให้ความสนใจมากขึ้นอีก เพราะเป็นฉากที่ต้องแสดงอารมณ์ คนเดียว แรกๆผมก็กังวลว่าเบิร์ดจะทำได้รึเปล่า แต่พอซ้อมเบิร์ดแสดงได้เยี่ยม ส่วนนักแสดงท่านอื่นๆ ก็มืออาชีพทุกคน ท่านมุ้ยกล่าว
คมน์ อรรฆเดช อดีตผู้กำกับและนักแสดงรุ่นใหญ่ ได้กล่าวถึงท่านมุ้ยว่า ท่านมุ้ยเป็นผู้กำกับที่เก่งมีความสามารถ โดยดูได้จากวิธีการกำกับและเทคโนโลยีที่นำมาใช้ โดยเฉพาะฉากวันนี้ท่านได้ศึกษามาอย่างดีก่อนที่จะถ่ายทำ ส่วนตัวผมเองดีใจและเป็นเกียรติมากที่ได้กลับมาร่วมงานกับท่านอีกครั้งหนึ่ง
พระเอกมาดเข้ม ร.อ. วันชนะ สวัสดี (เบิร์ด)
กล่าวถึงการร่วมงานกับท่านมุ้ย ว่า ท่านเป็นผู้กำกับ
ที่มีความละเอียด ประณีต พิถีพิถันมาก ท่านต้องการให้งานออกมาดีที่สุดแล้วทุกครั้งงานก็ออกมาดีจริงๆ ส่วนตัวผมวันนี้เป็นฉากที่ยากมาก เพราะต้องแสดงอารมณ์ออก
มาทางสีหน้าแววตาและคำพูด ที่สำคัญพูดยาวมาก จึงต้องมี
การซ้อมและศึกษาอย่างดี ท่านมุ้ยก็จะช่วยบอกช่วยสอนตลอดเวลา ทำให้การทำงานไม่เกร็งมากนัก
ท่านผู้กำกับได้ฝากถึงทุกท่านที่รอชมผลงานอลังการงานสร้าง เรื่องนี้มาว่า ตัวผมเองรวมถึงทีมงาน ทุกคนทุ่มเทความสามารถกันอย่างเต็มที่ ผมขอฝากภาพยนตร์เรื่อง ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ไว้ด้วย
|