สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล
ภูมิใจนำเสนอ
ครั้งแรกกับการรวมตัวของ 3 ผู้กำกับคุณภาพแห่งยุค และ 1 มือเขียนบทหัวกะทิ
พร้อมถ่ายทอดอารมณ์หลอนระทึกโดย อนันดา เอเวอริงแฮม, บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์, อเล็กซ์ เรนเดลล์, โจ๊ก อัครินทร์ อัครนิธิเมธรัฐ , ดีเจอิ๊คคิว พีระพล เสนาคุณ หลุดสี่หลุด
งานนี้ โปรดิวเซอร์คนเก่ง ปรัชญา ปิ่นแก้ว ได้เปิดเผยถึงความแปลกใหม่และสนุกสนานของโปรเจ็คต์นี้ว่า
เราเคยดูหนังไทยที่มี 3-4 ไอเดียอยู่ในเรื่องเดียวกันมาหลายเรื่อง แต่สิ่งที่ยังไม่เคยสร้างเลยคือหนังแนวเหนือจริงที่ผมเรียกว่า Amazing Story ที่รวมเรื่องราวแปลกๆ คือไม่จำเป็นต้องเป็นแค่เรื่องผี เป็นเรื่องอะไรก็ได้ที่แปลกๆ เหนือจินตนาการหรือแนวแฟนตาซี ซึ่งก็คือโปรเจ็คต์ หลุด 4 หลุด นี้ที่ผมอยากให้มันเกิดขึ้นมาตั้งนานแล้ว
กำลังสำคัญของโปรเจ็คต์นี้เลยคือคุณเอกสิทธิ์ ไทยรัตน์ ที่เป็นนักเขียนการ์ตูนและคนเขียนบทหนังหลายๆ เรื่องที่ผ่านมา คือเขาชัดเจนมากในเรื่องของแนวทางใหม่ๆ ที่คนดูจะคาดเดาตอนจบไม่ถูก มันเป็นแนวที่เอกสิทธิ์เขาถนัด แล้วไอเดียเหล่านั้นก็ถูกพัฒนาให้กลายมาเป็นหนัง หลุด 4 หลุด เรื่องนี้ที่รวมเอาผู้กำกับที่เรารู้จักและยอมรับในฝีมือกันดีทั้งมะเดี่ยว , คุณโขม ก้องเกียรติ และก็คุณใหม่ ภวัต ทุกคนมาช่วยกันทำหนังคนละตอน และที่เซอร์ไพรซ์เลยคือเอกสิทธิ์ก็จะมากำกับเองหนึ่งตอนด้วย ซึ่งแต่ละคนก็จะมีความโดดเด่นและชัดเจนในแนวทางกำกับของตัวเอง ทำให้แต่ละเรื่องมีความสนุกในรสชาติที่ต่างกันแต่รวมอยู่ในความเป็นหนังจิตๆ ได้เป็นอย่างดี แต่ละ เรื่องแต่ละตอนมันเป็นอะไรที่เล่าเรื่องไม่ได้เลย เพราะว่ามันจะสนุกมากเลยถ้าคุณไม่รู้อะไรเลย ตั้งแต่วินาทีแรกจนกระทั่งจบ มันเล่นกับความคาดเดาของคุณ เพราะฉะนั้นผมแนะนำว่าแค่ชื่อผู้กำกับหรือที่มาของไอเดียในแต่ละตอน ผมว่าเท่านี้ก็ทำให้คุณดูหนังได้อย่างสนุกแล้ว
ส่วนตัวผมรู้สึกว่าการไปดูหนังมันเหมือนการไปเที่ยวดิสนีย์แลนด์ หนังไม่จำเป็นต้องมีสาระ แต่สิ่งที่ต้องมีคือความบันเทิงเหมือนไปดิสนีย์แลนด์ไม่ต้องมีสาระหรอก แค่มีความบันเทิงอย่างเดียว ถ้าเราอยากดูหนังผีเราก็ไปเที่ยวบ้านผีสิง ถ้าอยากดูหนังโรแมนติกเราก็ไปนั่งเรือหงส์ อยากดูแนวสืบสวนเราก็ไปเที่ยวเขาวงกต อยากดูแนวผจญภัยเราก็ไปเที่ยวล่องแก่ง อยากดูแนวตื่นเต้นก็ไปเล่นรถไฟเหาะ ยิ่งสมัยนี้มันทำมาให้เสียวมากขึ้นตีลังกาทีเกือบ 30 รอบ ความรู้สึกตอนที่ผมนั่งดูหนัง หลุด 4 หลุด ก็เหมือนนั่งรถไฟเหาะหลายๆ ชั้น ไอ้รอบสุดท้ายที่วิ่งเข้าไปในอุโมงค์มืดที่เราไม่รู้ว่าเส้นทางมันจะวิ่งอย่างไร มันก็คือคำนิยามของ หลุด 4 หลุด นี่แหละ
ในการทำงานร่วมกันระหว่างผู้กำกับกับนักแสดงแต่ละคนในหนังแต่ละเรื่อง การหานักแสดงมาเล่นในเรื่องนี้ เรารู้สึกสนุกมากในการที่จะชวนนักแสดงแต่ละคนมาเล่นหนังในแต่ละตอน ผู้กำกับบางคนอาจจะมีความผูกพันกับนักแสดงที่ตัวเองคุ้นเคยมา ก็เลยชวนมาเล่นเรื่องนี้ ความรู้สึกเหมือนเรื่องนี้มันเป็นการรวมเล่มที่คัดเอาแต่กะทิๆ แต่ละตอนตามลายมือของผู้กำกับแต่ละคน รวมทั้งการทำงานกับนักแสดงที่มีความสนุกของหนังแต่ละเรื่อง รู้สึกว่ามันเป็นการรวมเล่มที่ดีมากๆ ถ้าเราได้หนังสือเล่มนี้มา เราก็รีบอยากอ่านเร็วๆ เหมือนกัน
ผมว่าเรื่องนี้เป็นโปรเจ็คต์แปลกใหม่อีกโปรเจ็คต์หนึ่งสำหรับหนังไทย อย่างน้อยแนวนี้เราก็ยังไม่เคยได้ดูกัน บางคนอาจคิดไม่ถึงว่าไอเดียตรงนี้มันเป็นของคนไทยจริงๆ วิธีคิดผมมั่นใจว่าไม่เชย ท้าทายสติปัญญาของคนดูพอสมควร อยากให้คุณลองจับตาดูเรื่องนี้ เพราะมันมีความสนุกและความบันเทิงมามอบให้จริงๆ ครับ
20 มกราคม 2554 ร่วมกระจายอาการจิตหลุด ทุกโรงภาพยนตร์
จุดกำเนิด-ที่มาที่ไปของโปรเจ็คต์นี้เป็นอย่างไร เอกสิทธิ์มีคำตอบ...
โปรเจ็คต์นี้มันเป็นงานรวมเรื่องสั้น ซึ่งจริงๆ แล้วเดิมทีผมจะเขียนเป็นการ์ตูน ซึ่งเมื่อก่อนเคยมีการ์ตูนรวมเรื่องสั้น จิตหลุด ออกมา ซึ่งก็ได้ถูกพัฒนาไปเป็นหนัง 13 เกมสยอง ที่มะเดี่ยวกำกับ ทีนี้ด้วยความยุ่งของชีวิตตัวเอง มันมีงานเยอะมากทั้งงานประจำ งานเขียนบท แต่ก็ยังอยากทำเรื่องสั้นแนวหลุดๆ อยู่ ก็เลยเริ่มคุยกับพี่ปรัช (ปรัชญา ปิ่นแก้ว โปรดิวเซอร์เรื่องนี้) ว่าเป็นไปได้มั้ยว่ามันเป็นงานรวมเรื่องสั้นแต่เป็นหนังไปเลยโดยไม่มีการผ่านการเขียนการ์ตูนมาก่อน พี่ปรัชก็สนใจ แต่ตอนแรกยังไม่ได้สนใจมาก พอดีผมเล่าพล็อตต่างๆ ที่มันมีเก็บอยู่ในสต๊อกไว้แล้วบ้าง พี่ปรัชก็บอกเออ...น่าสนใจ ก็เลยเริ่มโปรเจ็คต์นี้ขึ้นมา ซึ่งผมคิดโครงเรื่องและเขียนบททั้ง 4 เรื่อง แล้วก็ขอกำกับเองหนึ่งเรื่องในตอน เกรียนล้างโลก ที่เป็นหนังเปิดเรื่อง ก็จะเป็นความหลุดอย่างหนึ่ง
ส่วนอีก 3 เรื่องที่เหลือจะถูกแจกจ่ายไปให้ผู้กำกับแต่ละคนทำซึ่งก็มีผู้กำกับในดวงใจอย่าง คุณโขม ก้องเกียรติ โขมศิริ ซึ่งผมมองว่าเขาน่าจะเหมาะกับหนังแนวตลกร้าย เขาก็จะกำกับในตอน ร้านของขวัญเพื่อคนที่คุณเกลียด โทนหนังมันจะประมาณ Fight Club แต่มันจะขี้เล่นและกวนโอ๊ยกว่า มันจะเต็มไปด้วยลูกเล่นอะไรหลายๆ อย่าง คือมันเกิดคำถามขึ้นในขณะที่ชีวิตประจำวันของผมที่เจอกับสภาพบ้านเมืองสภาพแวดล้อม ทำไมคนถึงได้แบ่งขั้วหรือเกลียดกันได้ซะขนาดนี้ ทั้งที่เราเคยรักกันไม่ใช่เหรอ แม้แต่เรื่องพื้นๆ ทั่วไปไม่ต้องใหญ่เครียดอะไรแบบนั้นก็ได้ ก็เลยรู้สึกว่ามันเหมือนประชดน่ะครับ เมื่อทำให้คนมันรักกันไม่ได้ เอางี้มั้ยเปิดร้านของขวัญสำหรับคนที่คุณเกลียดให้มันรู้ดำรู้แดงกันไปเลย คือก็เป็นแนวแบบประชดประชัน แล้วก็เป็นแนวแบบตลกร้าย ก็เข้าทางคุณโขมครับ เวอร์ชั่นที่คุณโขมทำออกมาก็น่าพอใจครับ เรารู้สึกว่าดีมาก ชอบเลยครับ
แล้วก็ตอน คืนจิตหลุด เรื่องนี้ก็ได้ พี่ใหม่ ภวัต พนังคศิริ มากำกับ มันจะเป็นตอนที่ค่อนข้างจริงจังซีเรียสเหมือน นาคปรก ที่พี่เขาทำ แต่มันจะออกแนวหลอนระทึกขวัญอย่างมาก เป็นเรื่องของแบดบอย 3 คนกับสถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งมันเป็นเรื่องความระทึกขวัญที่ผมเชื่อว่าคนดูจะไม่สามารถคาดเดาอะไรได้เลยจากหนังเรื่องนี้ มันเป็นหนังไซโคแบบหนักๆ
เรื่องสุดท้ายก็เป็นของ มะเดี่ยว ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล กับตอน ฮูอากง ก็จะเป็นตอนที่สนุกแบบหลุดโลกกันไปเลยออกฮาๆ รั่วๆ แต่ยังอยู่ในพื้นฐานของความจิตหลุด มะเดี่ยวบอกไม่มีสาระ แต่จริงๆ แล้วในความที่ไม่มีสาระ มันมีสาระซ่อนอยู่ โอเคเลย ดูแล้วก็สนุกมากครับ
คือทั้ง 4 เรื่องมันจะอยู่ภายใต้คอนเซ็ปต์ของความหลุด เล่นกับจิตของมนุษย์ น่าจะเป็นความสนุกใหม่ๆ สำหรับวงการภาพยนตร์อีกครั้งหนึ่งครับ
แค่เครดิตผู้เขียนบทผสมชื่อชั้นผู้กำกับคลุกเคล้าการแสดงของทีมนักแสดงมากฝีมือก็รับรองถึงความน่าสนใจของโปรเจ็คต์ได้เป็นอย่างดีในระดับหนึ่งแล้ว และเมื่อยิ่งบวกความแปลกแหวกแนวของเนื้อหนังที่หลุดกรอบเดิมๆ ออกไป มันก็ยิ่งการันตีถึงความสนุกและคุณภาพของเนื้องานได้ดียิ่งขึ้นไปอีก
คือ หลุดสี่หลุด หลายคนอาจจะมองว่ามันเป็นหนังรวมเรื่องสั้น อย่างเช่นพวกหนังผี ผมอยากจะบอกว่าอย่าเพิ่งคิดแบบนั้น มันอาจจะเป็นการรวมเรื่องสั้นเหมือนกัน แต่เป็นเรื่องสั้นที่ไม่ธรรมดาเลย ได้ผู้กำกับและนักแสดงคุณภาพมากมายที่มาช่วยสร้างสีสันให้หนังเรื่องนี้ ส่วนโครงเรื่องผมรับประกันเลยว่าแปลก แต่ไม่ได้แปลกจนดูไม่รู้เรื่องนะ มันเหมือนหนังรสชาติใหม่ๆ ที่เรายังสนุกกับมันได้ครับ มีทั้งหลอนระทึก ทั้งลุ้นจนแทบหยุดหายใจ ทั้งตลก บางครั้งมาสามอารมณ์พร้อมๆ กัน ทั้งตลก ทั้งลุ้น ทั้งน่ากลัว มันเหมือนกับว่าถ้าคุณดูหนังเรื่องนี้จะเหมือนกับคุณเล่นกับอารมณ์คุณอยู่ เหมือนนั่งรถไฟเหาะตีลังกา ประมาณนั้นเลย มันเป็นแนวเพี้ยนๆ จิตหลุดครับ เป็นแนวแปลกๆ เน้นสนุกสนุกที่รสชาติแบบแปลกๆ เพี้ยนๆ หน่อยตรงที่ขุดด้านมืดบิดๆ เบี้ยวๆ ของคนออกมาตีแผ่ให้มันสนุก แล้วก็รู้สึกว่าเออ...จริง เราเห็นด้วย คนดูอาจจะมีบางแง่มุมคล้ายตัวละครในเรื่องก็เป็นได้ครับ
