แบบเกาหลี ไม่มีดาราไทยเลย	US - Europe

กำหนดฉาย 22 ธันวาคม 2554

แนวภาพยนตร์ แอ็คชั่น – คอเมดี้

อำนวยการสร้าง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ, SHIN KANGYOUNG, สง่า ฉัตรชัยรุ่งเรือง (บริษัท สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด, บริษัท CJ Venture Investment จำกัด และ Bangkok Film Studio)

ควบคุมงานสร้าง สง่า ฉัตรชัยรุ่งเรือง, KANG SUNGKYU, สุกัญญา วงศ์สถาปัตย์

บริษัทผู้สร้าง บาแรมยู

ดำเนินงานสร้าง ศิตา วอสเบียน, LEE JONGSUK, ผศ.พิมล ศรีวิกรณ์, ธันยเชษฐ์ เอกเวชวิท, ANDREW IRWIN

ประสานงานสร้าง ธนนพ ไพบูลย์

กำกับภาพยนตร์ ปรัชญา ปิ่นแก้ว

ควบคุมฉากต่อสู้ พันนา ฤทธิไกร

ออกแบบฉากต่อสู้ วีระพล ภูมาตย์ฝน, สำเร็จ เมืองพุทธ

กำกับการต่อสู้ วีระพล ภูมาตย์ฝน

ครูฝึกสอนเทควันโด้ AN CHANG BUM

เรื่อง เกียรติ ศงสนันทน์, ธนกร พงศ์สุวรรณ, LEE JONGSUK

บทภาพยนตร์ LEE JONGSUK

กำกับภาพ ธีระวัฒน์ รุจินธรรม

ออกแบบงานสร้าง สุธรรม วิลาวัลย์เดช

แสดงนำโดย CHO JAEHYUN, YE JIWON, เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา, ญาณิน วิสมิตะนันทน์

และขอแนะนำ TAEJOO, K KIM LEE KWANHUN, KIM YIROO

เรื่องย่อ

เรื่องราวความรัก มิตรภาพ ความผูกพัน ระหว่างครอบครัวชาวเกาหลี กับครอบครัวชาวไทย เมื่อมูน(รับบทโดย โจแจฮุน) และยูน(รับบทโดย เยจีวอน) สองสามีภรรยาชาวเกาหลี ที่อดีตทั้งคู่เป็นนักเทควันโดทีมชาติ ได้ตัดสินใจเดินทางมาสร้างครอบครัวอยู่ในเมืองไทย โดยยูนเปิดร้านอาหารเกาหลี ส่วนมูนผู้ผิดหวังจากแชมป์การแข่งขันเทควันโดโอลิมปิก จึงหันมาเปิดโรงเรียนฝึกสอนเทควันโด และปลูกฝังเทควันโดให้กับลูกๆทั้ง 3 คน คือ แทยัง(รับบทโดย แทจู), แทมิ(รับบทโดย เคคิม) และแทพุง(รับบทโดย น้องยูโร-ธนเทพ) พร้อมกับตั้งความหวังแชมป์เทควันโดไว้ที่ แทยัง แต่ว่าแทยังกลับมีความใฝ่ฝันอยากเป็นนักร้อง จึงทำให้เขาทะเลาะกับพ่อและถูกทำโทษอยู่เป็นประจำ

จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เมื่อครอบครัวของมูนเข้าไปเกี่ยวข้องและขัดขวางแผนการลักลอบขโมย “กริชโบราณ” สมบัติอันล้ำค่า ที่แก๊งของซอคดู(รับบทโดย ลีควานฮุน) กลุ่มโจรผู้ก่อการร้าย ต้องการจะขโมยเพื่อมาเป็นสมบัติของตนเอง จึงเป็นสาเหตุทำให้ครอบครัวของมูนตกอยู่ในสภาวะอันตราย และถูกตามล่าจากเหตุการณ์ครั้งนั้น มูนจึงตัดสินใจพาลูกทั้ง 3 คนหลบหนี โดยนำไปฝากไว้ที่บ้านป่าของ หม่ำ(รับบทโดย หม่ำ จ๊กม๊ก) เพื่อนสนิทชาวไทยที่ทำอาชีพเป็นผู้ดูแลสวนสัตว์ และคอยให้ความช่วยเหลือครอบครัวของเขามาโดยตลอด ทั้งแทยัง, แทมิ และแทพุง จึงได้รู้จักกับ หว่าหวา(รับบทโดย จีจ้า) หลานสาวของหม่ำ ที่มีความสามารถเก่งกาจด้านมวยไทยเป็นพิเศษ และยังเป็นผู้ถ่ายทอดการต่อสู้ให้กับแทยังอีกด้วย

เมื่อการต่อสู้ของสองชาติ เทควันโดและมวยไทยถูกนำมารวมเป็นหนึ่งเดียวกัน การต่อสู้เพื่อปกป้องครอบครัว คนรัก และ การเผชิญหน้าของเลือดนักสู้จึงเริ่มต้นขึ้น

เบื้องหลังการสร้าง

การสร้าง The Kick เริ่มเปิดเผยวงในเป็นครั้งแรกที่ตลาดหนังโตเกียวเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา จนกระทั่งเริ่มมีการรายงานข่าวจากตลาดเอเอฟเอ็ม

เสี่ยเจียง-สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ ประธานกรรมาการ บ.สหมงคลฟิล์มฯ ยังได้กล่าวถึงการร่วมลงทุนสร้างภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ระหว่างไทย-เกาหลีในครั้งนี้ว่า “บริษัทต้องการสร้างหนังไทยสู่ตลาดโลก และก่อนหน้านี้มีหลายบริษัทติดต่อร่วมทุนเยอะเช่นกัน แต่ตัดสินใจร่วมทุนกับเกาหลีเป็นเรื่องแรก โดยมั่นใจว่าหนังไทยแอ็คชั่นของ ปรัชญา ปิ่นแก้ว จะสร้างชื่อเสียงก้องโลกและทำให้ต่างประเทศรู้จักหนังไทยมากขึ้น เราเห็นว่าวัยรุ่นไทยชอบดูหนังเกาหลีกันเยอะมาก และเชื่อว่าการสร้างหนังครั้งนี้ชาวเกาหลีจะต้องหันมาดูหนังไทยเพิ่มมากขึ้น โดยการร่วมลงทุนสร้างกว่า 100 ล้านนำนักแสดงไทยและเกาหลีร่วมแสดง ซึ่งตอนนี้เพิ่งเริ่มเปิดกล้องไป และคาดว่าจะเข้าฉายกลางเดือนพฤษภาคมปีหน้า ฉายพร้อมกันทั้งไทยและเกาหลี”

ปรัชญา ปิ่นแก้ว ผู้กำกับเปิดเผยว่า “สำหรับภาพยนตร์เรื่อง THE KICK จะเป็นภาพยนตร์แนวแอ็คชั่น ที่แตกต่างจากภาพยนตร์เรื่อง องค์บาก, ต้มยำกุ้ง และช็อคโกแลต เนื่องจากเป็นภาพยนตร์ร่วมทุนสร้างระหว่างไทยและเกาหลี เราจึงมีการนำศิลปะการต่อสู้ของทั้งมวยไทย และ เทควันโด มาผสมกันจนกลายเป็นในรูปแบบแอ็คชั่นแนวใหม่ มีการนำลีลาการเต้นสไตล์ K-POP ของเกาหลีเข้ามาใส่ในท่าการต่อสู้ ด้านนักแสดงของไทยเราก็มี หม่ำกับจีจ้า และนักแสดงของเกาหลีที่มีชื่อเสียงอย่าง โจแจฮุน กับเยจีวอน หรือจะเป็นนักแสดงหน้าใหม่ที่เราคัดเลือกมาจาก K-Tigers กลุ่มนักเทควันโดที่มีชื่อเสียงของเกาหลีคือ แทจู และเคคิม ทั้งคู่เป็นถึงแชมป์เปี้ยนเทควันโดและมีความเก่งที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ ในส่วนของทีมงานสร้างเรามีทีมงานแอ็คชั่นคุณภาพทั้งไทยและเกาหลี และโทนของภาพยนตร์เรื่องนี้จะออกมาแนวใสๆน่ารัก ที่ใส่เนื้อหาเรื่องความรัก ความผูกพันของครอบครัวเข้าไปด้วย รวมถึงอารมณ์ตลก ความสนุกสนานเฮฮา จึงมีทั้งความเป็นแอ็คชั่น และความเป็นคอเมดี้สอดแทรกในภาพยนตร์เรื่องนี้ครับ”

ฉากแอ็คชั่นจากมือออกแบบสามท่าน พันนา ฤทธิไกร, วีระพล ภูมาตย์ฝน กำกับแอ็คชั่นจากภาพยนตร์เรื่อง ช็อคโกแลต, ดื้อสวยดุ ล่าสุดกับภาพยนตร์เรื่อง ต้มยำกุ้ง 2 และ AN CHANG BUM (อานชังบอม) หัวหน้าโค้ชทีมเทควันโดแห่งค่าย K-Tigers สมาคมเทควันโด สุดยอดแห่งการแสดงเทควันโดจากประเทศเกาหลี ี่ร่วมกันคิดและนำศิลปะการต่อสู้ทั้งสองชาติมาผสมผสานกันอย่างลงตัว คงความเป็น REAL ACTION ที่โดดเด่น แตกต่างจากภาพยนตร์แอ็คชั่นอื่นๆทั่วไป

วีระพล กล่าวว่า “ภาพรวมของ THE KICK ยังคงความ REAL ACTION เหมือนเดิม ด้วยความพริ้วไหวของเทควันโด ยิ่งทำให้เป็นเรียลแอ็คชั่นที่สวยงามขึ้น เราจะต้องรู้ว่าตัวแสดงมีความสามารถพื้นฐานมามากแค่ไหน แล้วเราก็เอาความสามารถพื้นฐานอันนั้นมาพัฒนาต่อกับดีไซน์แอ็คชั่นที่เรามีไว้ครับ อย่างตัวพระเอกแทจูก็เป็นเทควันโดอยู่แล้ว เราก็มาปรับอาวุธ ปกติจะใช้เตะอย่างเดียว เราก็นำศอกเข่าของมวยไทยเข้าไปปรับใช้กับท่าต่างๆที่เป็นท่าพิเศษของเทควันโด ผลออกมาก็คือเขาทำออกมาได้ดี ความสามารถของแทจู เขาสามารถเตะได้ต่อเนื่องหลายๆที เตะทีนึงได้เป็นสิบๆคน ท่ากระโดดหมุนตัวกลางอากาศ 900 องศาแล้วเตะ หรือสไตล์การเต้น K-POP ของเกาหลี เรานำมาประยุกต์จนกลายเป็นท่าแอ็คชั่นที่ฉีกจากรูปแบบเดิมๆ หรืออย่างเคคิมความสามารถเขาฉีกขาได้ 180 องศา ซึ่งหาได้ยากมากที่จะมีคนทำได้ ก็นำมาปรับให้เขาถีบทะลุกระจก ถีบหน้าผู้ร้าย และสำหรับจีจ้าที่เราเน้น คือ คงความเป็นศิลปะมวยไทยที่หนักแน่น แต่มีการนำอาวุธการต่อสู้เข้ามาใช้ในเรื่องนี้ คือ อาวุธไม้ง่าม ที่นำช่วยในการต่อสู้ และมีความยากจึงต้องใช้เวลาฝึกพอสมควรครับ”

AN CHANG BUM โค้ชฝึกสอนเทควันโดและผู้ออกแบบท่าเทควันโดแห่งค่าย K-Tigers (KOREAN TAEKWONDO WORLD PERFORMANCE) สมาคมเทควันโด ที่มีชื่อเสียงโด่งดังและมีดีกรีเป็นถึง แชมป์เปี้ยนเทควันระดับโลก ซึ่งนับว่าเป็นสุดยอดการแสดงเทควันโดจากประเทศเกาหลี และทำการแสดงโชว์มาแล้วกว่า 50 ประเทศทั่วโลก เช่น อเมริกา, ฝรั่งเศส, ญี่ปุ่น, ฮ่องกง ทั้งยังได้ร่วมทำการแสดงโชว์เปิดงานโอลิมปิกที่ประเทศจีน อีกด้วย ผ่านเวทีการแข่งขันมามากมายจนได้รับฉายาว่า “WONDER CHAMPION” เล่าถึงความโดดเด่นที่ถูกออกแบบให้สอดคล้องตรงกับคาแร็คเตอร์ตัวละครในภาพยนตร์ครั้งนี้ว่า

“จุดแรกเลยที่สำคัญคือต้องใส่ความเป็นเทควันโดลงไปในตัวแสดง เช่น ตัวที่เป็นพ่อ มูน บุคลิกดูสุขุม ต้องแสดงออกมาให้เห็นถึงความเป็นเทควันโดที่หนักแน่น เข้มแข็ง และเสน่ห์ของเทควันโดอย่างชัดเจนครับ รองลงมาคือ ลูกชาย แทยัง จุดเด่น คือ ท่าเตะที่ดูสง่างาม หวือหวา สามารถหมุนตัวเตะกลางอากาศได้ 900 องศา ลูกสาวแทมิ แสดงโดย เคคิม ซึ่งเป็นแชมป์ท่ารำเทควันโดโชว์มาก่อน ก็จะมีท่าเตะที่ออกแนวสวยงาม รวมถึงตัวแม่ ยูน จะมีบุคลิกสนุกสนาน ตลก เก่งทำอาหารและใส่ลีลาของท่าเทควันโดลงไปตอนโชว์ฝีมือทำอาหาร ซึ่งทั้งหมดจะต้องถ่ายทอดท่าทางที่สง่างาม ความสวยงามของท่าเตะเทควันโด ที่หาดูได้ยากและไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน ถือว่าเป็นโชคดีที่เราจะได้ชมท่าเตะที่หลากหลายของเทควันโด ซึ่งถือเป็นเสน่ห์ของเทควันโดจริงๆครับ”

ฉากแอ็คชั่นไฮไลท์

• ฉากแอ็คชั่นไม้ง่าม อาวุธพิเศษของจีจ้า

ฉีกรูปแบบแอ็คชั่นเดิมๆของจีจ้า ด้วยอาวุธไม้ง่าม ผสมผสานลีลามวยไทยที่ดุดัน และหนักแน่น ซึ่งความยากอยู่ที่ การใช้ไม้ง่ามในการล็อคแขน ล็อคขาผู้ต่อสู้ ที่ต้องใช้ระยะเวลาในการฝึกซ้อมเป็นเดือน เพื่อความแม่นยำของจังหวะ เราจะได้เห็นแอ็คชั่นไม้ง่าม ปะทะแก๊งโจรถึง 10 คน

“อาวุธไม้ง่าม เป็นอาวุธที่หาได้ตามธรรมชาติ สอดคล้องกับบุคลิกของหว่าหวาในเรื่องนี้ ที่เป็นผู้หญิงชอบอยู่กับธรรมชาติ เห็นสิ่งรอบตัวก็สามารถหยิบขึ้นมาเป็นอาวุธและพร้อมจะสู้ได้ทันที ในการใช้ไม้ง่ามเป็นอาวุธการต่อสู้ไม่ใช้เรื่องที่ง่าย ทั้งตอนซ้อมและตอนถ่ายมีการเปลี่ยนไม้ง่ามกันบ่อยมาก เพราะบางจังหวะที่ต้องสู้กัน แล้วไม้แข็งแรงไม่พอก็จะหักได้ทันที เราต้องรู้จังหวะ น้ำหนักของไม้ง่าม เพราะมันมีง่ามแยกออกไป จะแตกต่างจากไม้พองหรือดาบที่มันจะเป็นก้านเดียวกันค่ะ”

• ฉากแอ็คชั่น ผสมลีลามวยไทย เทควันโด และเต้น K-POP