“สุดเขต สเลดเป็ด”

สุุดเขต (เป้ อารักษ์) ชายหนุ่มผู้รักในเสียงดนตรี และ มีความใฝ่ฝันอยากเป็นนักร้อง หนุ่มเซอร์ที่ไม่ชอบทำตามใคร แต่ชอบทำตามใจตัวเอง โดยไม่จำเป็นแคร์ใครหน้าไหน หรือหวังให้ใครมายอมรับ

อันเด้อ (โก๊ะตี๋ อารามบอย) หนุ่มตัวสั้นต่ำต้อย ผู้มีความฝันเต็มเปี่ยม แต่ทว่าไร้ฝีมือเต็มขั้น การลิ้มรสชัยชนะจึงเป็นอะไรที่ไม่ง่ายนัก

มะยม (ยิปโซ - รมิตา มหาพฤกษ์พงศ์) สาวหมวยธรรมดา แต่ชอบทำตัวน่ารัก ด้วยสายตาแบบคนปกติมองโลก

“ ยิบโซ รับบทเป็นมะยม ซึ่งมีเพื่อนซี้คือ กิ๊บซี่ (พี่ตุ๊กกี้) แอนเดอะแก๊งค์ ที่ชอบไปกรี๊ดศิลปินเป็นชีวิตจิตใจ ตอนแรกที่ได้รู้ว่าจะร่วมงานกับพี่ตุ๊กกี้ ยิบโซเกร็งมากๆกลัวจะทำให้เขาเสียเวลาถ้าเราเล่นตามไม่ทัน แต่พอได้เจอกันจริงๆ เป็นอะไรที่ประทับใจมาก เพราะพี่เค้าให้ความเป็นกันเองและ ตัวจริงตลกมากๆ เลยทำให้ไม่มีปัญหาอะไรในการเล่นนอกจากหลุดขำ ซึ่งบางฉาก ยิบโซ ก็ไม่มีสมาธิเลย เพราะกลั้นขำไม่อยู่  สำหรับคาแรกเตอร์ของ มะยม จะแตกต่างกับนุ่นใน32 ธันวา อย่างมากตรงที่ มะยม จะไม่ห่วงสวย ไม่แอ๊บ บุคคลิกจะห้าวมาก ไม่ต้องประดิษฐ์สวย เป็นครั้งแรกที่ ยิบโซ ได้รับบทแบบนี้ คือ หน้าตา ผม ไม่ต้องมาเซ็ตให้เนี๊ยบ เป็นความสบายของตัวละครตัวนี้มาก มีแอบแรงตรงที่มีฉากตบหน้าเป้ด้วยนะ ไม่รู้จะโดนแฟนคลับของเป้ เกลียดหรือเปล่าเนี่ย

ส่วนพี่ตุ๊กกี้เขาก็จะได้รับบทที่ต้องใช้คำพูดแรงๆออกตัวเรื่องผู้ชายแรงมาก แต่ก็จะแรงแบบตลกๆนะ ฟังแล้วมันก็จะขำน่ะ มันก็เป็นคำที่วัยรุ่นพูดกันในกลุ่มเพื่อน ก็คงจะได้เห็นตัวอย่างกันไปแล้ว ยิบโซ ว่าเรื่องนี้ พี่ยอร์ช เค้าจับเอาสัตว์ประหลาดมาไว้รวมกันจริงๆนะ แต่ละคนไม่น่ามารวมกันในที่เดียวกันได้ แต่พี่ยอร์ช ทำได้ ยิบโซทึ่งพี่เค้าจริงๆ”

กิ๊ฟซี่ (ตุ๊กกี้) สาวหน้าบ้าน ๆ ที่ไม่เคยสะกดคำว่าห่วงสวย เพราะตลอดเวลาเธอไม่มีความสวยให้ห่วง

พ่อ (ค่อม ชวนชื่น) นักจัดรายการวิทยุชุมชนสุดเก๋า คุณพ่อผู้ลุ่มลึก หัวฟู หนวดเฟิ้ม ของสุดเขต ที่ให้คำสอนลูกไล่มาตั้งแต่เรื่อง “ซ่ำ” ที่ต่างคนต่างก็ตีความหมายไปต่างๆนานา, หรือเรื่องหนักๆอย่างเรื่องชีวิตที่ว่า คนแพ้แล้วยังยิ้มได้ เก่งกว่าคนชนะ แต่เพราะคุณลูกชายสุดแนวแกเจอเรื่องแพ้ๆบ่อย คุณพ่อก็เลยต้องสลับร่างงัดลีลาอ่อนหวานเข้าช่วยลูกบ้างในบางครั้ง

“ไม่ใช่ว่าผมเก่งอะไรหรอก เพียงแต่กับยอร์ช เราร่วมงานกันมาหลายเรื่อง พอมาเจอกันอีกมันก็เลยไม่ต้องจูนกันใหม่ เรียกว่ารู้ใจกันแล้ว ส่วนเรื่องบทมันก็เหมือนสุดเขตนั่นแหละ ดูลูกชายให้ดูที่พ่อ กวนตรี...(น)เหมือนกัน แต่จริงๆเขาเป็นคนห่วงลูก รักลูกมากนะ เพียงแต่เขาเป็นคนกวนๆ ประหลาดๆ วิธีการสอนมันก็เลยกวนไปด้วย พ่อในเรื่องจะเป็นนักจัดรายการวิทยุ เวลาจัดรายการมันก็ต้องมีลีลาการพูดที่ดุเด็ดเผ็ดมัน กวนๆ  ก็เลยเป็นคาแรกเตอร์ เป็นคำพูดที่จะสอนลูกแบบนี้  แล้วก็มีสอนโดยการแสดงเป็นแม่เขา เพราะจัดละครวิทยุไปด้วย มันก็เป็นมุมที่พ่อใช้หัวใจพูดกับลูกแล้วแหล่ะ เวลาเล่นหนังกับยอร์ช เขาจะให้ผมได้ลองเล่นในบทบาทและ รูปลักษณ์ที่ต่างๆกัน เรื่องนี้เขาให้ใส่วิกติดหนวดเฟิ้มเลย ก็เป็น ค่อม อีกแบบหนึ่งที่ผมก็ชอบนะครับ”

ก้อง (รัฐ - ศิรัฐ วิทยถาวรวงศ์) เพิ่งคว้ารางวัล CLEO’S SCREAM หนุ่มหล่อที่สาวกรี๊ดมากที่สุด....มารับบทฮีโร่สุดหล่อขวัญใจ “ยิปโซ

โตโร่ (โทนี่ รากแก่น) เทพบุตรสุดเฟี้ยวเปรี้ยวสไตล์หนุ่มกิมจิ นักร้องบอยแบนด์คู่ดูโอจากวง “วายโซลวะ” ศิลปินชื่อดังที่สาวๆคลั่งไคล้

“โทนี่” ต้องซุ่มฝึกลีลาท่าใหม่สไตล์เค-ป๊อบนานกว่า 3 เดือนกว่าจะเป็นโตโร่ที่สมบูรณ์แบบได้อย่างนี้  “มันไม่เหมือนกันเลย ท่าเต้นบีบอย จะฟรีสไตล์มากกว่า เราจะสามารถสะบัดแขนไปมาคิดท่ามั่วได้หมด แต่มาเต้นท่าแบบเค-ป๊อบครั้งนี้ต้องเป๊ะมาก เพราะเขาคิดมาให้แล้วว่าแขนต้องเท่านี้ หยุดตรงนี้ อย่างนี้ มันเป็นเรื่องของการโพสต์ ของพวกเส้นของร่างกาย อย่างบางทีก้มมากเกินไป หรือบิดมากเกินไป มันก็ไม่ใช่ท่าของเขาแล้ว ตอนแรกรู้สึกว่ายากมาก และไม่มั่นใจ ผมก็จะพยายามสร้างความมั่นใจให้ตัวเองด้วยการเรียนให้เต็มที่ทุกคลาส เอาให้ได้มากที่สุด ถ้ามันไม่ถูกต้องอย่างไร อาจารย์ก็จะบอกเลย แต่ว่ายากมากจริงๆ มันจะมีป๊อบปิ้งการกระตุ้กกล้ามเนื้อ การแยกส่วน แล้วก็มีแอนิเมชั่น, การเต้นป๊อปปิ้งยากสุด เพราะมันใช้ประสาทเยอะ เราต้องปรับให้มาก มีสมาธิ เพราะการเต้นบีบอยมันแทบเอามาประยุกต์ใช้อะไรไม่ได้เลย”

โตโต้ (พงศ์เทพ อนุรัตน์ -ผู้ชายลั้ลลา) ตัวพ่อของความลั่นล้า หน้าตาไม่หล่อ ท้องไม่ลอนกล้าม แต่เขาสามารถลั่นล้าได้ทุกเวลา

แหบ (แจ๊ส ชวนชื่น) เด็กแว๊นผู้อหังการ์ที่กล้าประกาศตัวว่าข้าประกาศตัวว่าข้าคือ วีรบุรุษนักบิด ทั้งยังกอบกู้เกียรติศักดิ์ศรีให้สาว ๆ ที่นั่งซ้อนท้าย พร้อมพ่วงมงกุฎให้ซะสวยวิ้ง