“สุดเขต สเลดเป็ด”

ผู้กำกับ  “ยอร์ช- ฤกษ์ชัย พวงเพ็ชร์”  
เธอ Get ก็ Ok
ร้องโดย : เป้-อารักษ์, โก๊ะตี๋, ตุ๊กกี้, พงศ์เทพ, The Jukks
เนื้อร้อง / เรียบเรียง : The Jukks, เชาวเลข สร่างทุกข์, รังสรรค์ ปัญญาใจ ทำนอง : The Jukks สุดเขต

นักแสดง  เป้ อารักษ์, ยิปโซ-รมิตา, ตุ๊กกี้, ค่อม ชวนชื่น , โก๊ะตี่ อารามบอย , เทพ (ผู้ชายหลั่นล้า จาก 32 ธันวา), แจ๊ส ชวนชื่น, น้องคิตตี้ (กัจนฐานียา ศรีโรจวัฒนะ) ,เทพ (พงศ์เทพ อนุรัตน์ -ผู้ชายลั้ลลา) ร่วมด้วยศิลปินตัวจริงอย่าง The Jukks (เดอะจั๊ก) ศิลปินเบอร์ใหม่ของค่ายห้องเล็ก “สมอลล์ รูม” ที่แต่งเพลง “ถ้าเธอGet ฉันก็โอเค” ซึ่ง “สุดเขต” ใช้เป็นเพลงออดิชั่น 

ผู้กำกับเปิดใจ

ผู้กำกับ ยอร์ช ฤกษ์ชัย  ก็ได้เปิดใจถึงภาพยนตร์เรื่องใหม่ว่า “สุดเขต สเลดป็ด”  เป็นเรื่องราวของคนแปลกๆที่ชอบโกหกตัวเอง  ถ้าคุณบอกว่าไม่แคร์ที่ไม่มีใครเข้าใจ.... ถ้าคุณบอกว่าไม่สนว่าจะมีใครยอมรับในตัวคุณมั้ย.....ถ้าคุณบอกว่าคุณไม่ต้องการชนะ   ถ้าคุณเป็นผู้หญิงที่บอกว่าตัวเองไม่ห่วงสวย.....ถ้าคุณบอกว่าคุณอยู่คนเดียวได้โดยไม่เคยเหงาเลย.....คุณกำลังโกหก เรื่องราวของคนเหล่านี้เล่าผ่านชีวิตผู้ชายคนนึง ผู้ชายซึ่งบอกใครต่อใครว่า “ผมเป็นอินดี้พี่ไม่เข้าใจผมหรอก แต่ถึงพี่ไม่เข้าใจ ผมก็ไม่แคร์ ถึงใครไม่ยอมรับผมก็ไม่มายด์”  

หลังจากเสร็จภาพยนตร์เรื่อง 32 ธันวา ผมก็เริ่มเก็บข้อมูล เพื่อทำบทหนังเรื่องใหม่ ก็ยังคงทำหนังที่ให้คนดู ดูแล้วอารมณ์ดี เป็นอารมณ์แบบ..ค่อยๆเรียกทุกคนมานั่งใกล้ๆ และ ค่อยๆเล่า แล้วก็ขำไปด้วยกัน เป็นตลกที่ขำเรื่อยๆ หนังของผมก็ยังคงเป็นหนังรวมสัตว์ประหลาด ซึ่งคนที่เอามาเล่นก็มีความโดดเด่นบางอย่าง ที่พวกเราเรียกว่าสัตว์ประหลาดอยู่ในตัวเอง อย่าง เป้ ก็จะมาอีกแบบนึงที่ทุกคนไม่เคยเห็นเขาในมุมนี้ ,  โก๊ะตี๋ ก็เอาเขามาเปลี่ยนสไตล์ใส่หนวดเคราเฟิ้มเป็นหนุ่มฮิปฮอป พวกเราก็แซวเขาว่า เป็นสิงห์เหนือ เวอร์ชั่นช๊อต , ตุ๊กกี้ นี่ก็จะเป็นลุคที่ทุกคนไม่เคยคิดว่าเขาจะเป็นได้ แต่เขาก็ชอบมากกับลุคนี้ ซึ่งเขาได้ออกไอเดียเสื้อผ้าหน้าผมด้วย  แล้วก็ยังมีน้าค่อมที่คราวนี้ก็จะมาแปลกแหวกแนวไปอีกแบบเลย แต่ละคนก็มีคาแรกเตอร์แตกต่างกันไป แต่ก็มาอยู่รวมกันได้ใน สุดเขต สเลดเป็ด ก็ขอฝากผลงานเรื่องใหม่ของผมไว้ด้วยนะครับ ”   

ทำไมต้องเป็นเป็ด ยอร์ช ตอบว่า “ถ้าพูดถึง “เป็ด” ทุกคนก็คงพอจะทราบกันว่า เป็ดเป็นสิ่งมีชิวิตที่ทำอะไรได้ทุกอย่าง แต่มีข้อเสียคือ “ไม่ได้เรื่องสักอย่าง” คือ ....คนเขาจะเปรียบคนที่โดดเด่นว่าเป็นหงส์ มั่งอะไรงี้ เป็ดมันก็โดนเทียบกับหงส์ตลอด คือ มันเป็นด้านตรงข้ามของด้านเลิศ คือ ห่วย  สุดเขต (เป้ อารักษ์) ก็เช่นกัน สุดเขตเป็นคนจำพวกถ้าคิดจะทำอะไรก็จะทำได้ทุกอย่าง เป็นนักประดิษฐ์, เป็นนักบิด หรือว่าเป็นนักร้อง แต่ทุกเรื่องที่ว่ามาอยู่บนระดับฝีมือที่ “น้อยมากกก” ทั้งสิ้น    แต่ไม่ได้มีกฎห้ามนะ ว่าต้องเฉพาะคนที่มีฝีมือเท่านั้นจึงจะมีความฝันได้ คนที่ฝืมือห่วยๆมีความฝันได้เหมือนกัน  อย่าง สุดเขตเนี่ยเขาทำได้ทุกอย่างนะถ้าเขาคิดจะทำ เป็นคนพูดจริงจากใจ ใช้หัวใจพูด แล้วจะทะลุกลางเรื่องตลอดไม่ต้องปูทางอะไรมาก่อน คือถ้ามันเกลียด มันก็จะบอกตรงๆจากใจเลยว่า ผมเกลียดคุณ แต่คนอื่นจะพูดประโยครอบข้างเต็มไปหมดเลย แต่ไม่ยอมพูดประโยคที่อยากจะพูดซักที แต่สุดเขตมันพูดในสิ่งที่มันคิด เพราะฉะนั้นหัวใจของมันจะหล่อมาก”

ส่วนความหมายของเป็ดที่ไม่ได้เรื่องสักอย่างว่าแย่แล้ว ก็ยังเป็น สเลดของเป็ด  อีกที คิดดูสิว่าจะน่ารักน่าสงสารขนาดไหน  สุดเขต เป็นสเลดของเป็ด มันแย่กว่าเป็ดอีกนะ แต่จริงๆแล้วเป็ดที่ชื่อสุดเขตเนี่ยมันยังไม่รู้จักตัวตนของมันว่าเป็ดตัวนี้สามารถเป็นหงส์ได้ เพราะเมื่อทำอะไรมันจะตั้งใจทำทุกอย่าง”

ลักษณะการทำงาน

เรื่องนี้จะพูดถึงคนที่ชอบทำตามใจตัว  จะไม่ชอบทำตามคนอื่น หรือตามวัฒนธรรมโลก  วิธีที่ได้มาของพล็อตทั้งหมด ก็ยังเหมือนเรื่องก่อนหน้า โดยผมจะยึด 3 ส่วนเป็นหลัก นั่นคือ กระดูกหรือแกนเรื่อง สร้างโลกหนึ่งใบขึ้นมา ซึ่งผมเรียกว่าแผนที่ จากนั้นค่อย ๆ สร้างนิสัยใจคอตัวละคร แล้วผมจะได้ความชัดเจน กระดูกชัด แผนที่ชัด ตัวละครชัด ทุกอย่างก็จะไม่สะบัดมากไปเกินกว่าสิ่งวางไว้ ทำให้หนังไม่เป๋เวลาเล่าเรื่อง
หนังผมไม่สมบูรณ์ การถ่ายทำ หรืออะไรก็ตาม แต่ผมทำได้แค่นี้จริง ๆ (หัวเราะ) ผมว่าคนเรามีข้อจำกัด ถ้าเกิดว่าพยายามจะเบ่งให้ตัวเราใหญ่ขึ้น  ทั้ง ๆ ที่ตัวเราแค่เนี้ย

ผมว่าเราต้องซื่อสัตย์กับสิ่งที่เราเป็นทั้งความคิดและฝีมือ อย่างผมมีปัญญาแค่ทำหนังตลกเล็ก ๆ ก็จะทำไอ้เล็ก ๆ นี่แหละให้ดี  ให้คนนั่งคุยกัน  หรือถ้ามีผี คงไม่จำเป็นต้องวิ่งหนีผี  ก็จับคนมานั่งใกล้ผี พอแล้วแค่นี้ เพราะบางทีความใหญ่อาจจะขวางจังหวะอะไรบางอย่าง จนทำให้มันย้วยในการเล่นมุขตลก
คำคมเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งในหนังของเขา  แม้หลายคนมองว่าออกจะเลี่ยน ฤกษ์ชัย ใน “สุดเขตเสลดเป็ด” ก็ยังมีอยู่ อาทิ ชอบตำรา แต่ไม่ชอบตาราง, ชอบแต่งตัว แต่ไม่ชอบแต่งตาม, ชอบทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ …แต่ไม่ชอบทำในสิ่งที่คนอื่นชอบ

“ผมน่ะจะถนัดคิดมากกว่า เพราะคิดที่ไหนก็ได้  นั่งในส้วมก็คิดได้ ไม่ต้องใช้อุปกรณ์อะไรนี่ครับ หัวมันพาไปหมดเลยทุกที่ทุกเวลา  จะยากก็ตอนเขียน แต่เหนื่อยสุดก็คือตอนถ่ายทำ  มุกต่าง ๆ ก็ได้มาจากคนรอบตัว  เจอคนที่อยากเล่าเรื่องอะไรสักเรื่อง  ผมต้องหาให้เจอก่อนว่า เขาอยากเล่าเรื่องนี้เพราะอะไร บางคนก็อยากเล่าเรื่องตลกให้คนรักฟัง ไม่ใช่เพราะอยากให้คนหัวเราะหรอก แต่เพราะอยากให้ตัวเองรู้สึกพิเศษขณะอยู่ต่อหน้าผู้หญิง อยากสนิทกันมากขึ้น  คนจะมองว่าลิเกอันนี้ผมก็น้อมรับ  จะชม หรือด่า ผมชอบนะ เพราะหนังผมมีความเป็นลิเกจริง ๆ แล้วก็รู้สึกว่ามันไทยดี ส่วนตัวไม่ได้หวังว่ามันต้องเป็นสากล ตรงนั้นผมไม่แคร์เลยนะ ถ้าวันหนึ่งวันใดหนังของผมได้โกอินเตอร์  ผมก็อยากให้คนได้หัวเราะเพราะความเป็นลิเกนี้แหล่ะ”

ฤกษ์ชัยยืนยันเสมอว่าหนังเขาไม่ได้มีสาระมากมาย  และไม่ได้ยิ่งใหญ่ขนาดนำเป็นแบบอย่างที่จะนำไปใช้ในการดำเนินชีวิต  “คนที่ดูหนังผม แล้วรู้สึกว่าได้สาระ นั่นแสดงว่าคุณเป็นคนมีสาระ  เห็นอะไรในหนังก็จับไปเป็นสาระซะหมด  ทั้ง ๆ ที่มันไม่มีอะไรเลย  อย่าลืมสิว่าชีวิตจริงของแต่ละคน เอาไปเปรียบกับตัวละครในหนังไม่ได้หรอก  เพราะปมปัญหาไม่เหมือนกัน  ส่วนใครที่บังเอิญมีปมเหมือนตัวละครของผม อันนี้ก็ช่วยไม่ได้  เพราะผมจะไม่รับผิดชอบใคร  อย่ามาทำตาม  แต่ถ้าใครเป็นแฟนหนังของผม จะรู้ดีว่าหนังผมมันค่อนข้างเลอะเทอะ  คนจะไม่ถือสา แยกออกไหม ไม่รู้  แต่รู้ว่ามันคือเรื่องเลอะเทอะ เรื่องขำ ๆ ฮา ๆ ทำตามมึงก็ซวย แต่ที่บางคนไปจับเป็นสาระของหนังได้  ก็เพราะตอนที่ผมคิดกระดูกหนัง  ผมต้องทำให้โลกมันมีชีวิตชีวาของมันเอง