ฉายวันที่ 22-24 กรกฎาคม ที่ลิโด้ รอบเวลา 18.15 พร้อมพบผู้กำกับ
VIDEO
ฉาย ปลายกุมภาพันธ์ 2553
โปรดิวเซอร์ ปลาเป็นว่ายทวนน้ำ
อำนวยการสร้าง ปิยะฉัตร มาลีถาวรกุล
ดำเนินงานสร้าง / กำกับ / บทภาพยนตร์ บุญส่ง นาคภู่
ดำเนินงานสร้าง / ช่วยกำกับ พงศกร เจริญรัตน์
บันทึกเสียง Sound Hut
ลำดับภาพ เอกลักษณ์ อนันตสมบูรณ์
ดนตรีประกอบ ไกวัลย์ กุลวัฒโนทัย
ออกแบบเสียง / ผสมเสียง ไพสิฐ พันธุ์พฤกษชาติ
กำกับภาพ ธีรวัฒน์ รุจินธรรม
ช่วยกำกับภาพ สมชาย วชิระจงกล
ควบคุมความต่อเนื่อง ธนสร อ่อนกลำพล
นักแสดง : เหลือ นาคภู่ ไกรสร นาคภู่ บุญส่ง นาคภู่ ธูป นาคภู่
เรื่องย่อ
หลังจากบุญชูไปใช้ชีวิตเป็นกรรมกรก่อสร้างอยู่กรุงเทพ ฯ มาหลายปี แต่ชีวิตไม่ดีขึ้น จึงกลับมาอยู่บ้านเกิดกับแม่และลูกชายวัยรุ่น ส่วนเมียนั้นหนีความยากจนกลับบ้านที่สุรินทร์เมื่อหลายปีก่อนแล้ว เขาตั้งใจว่า จะทำเกษตรกรรมแบบพออยู่พอกินไปเรื่อย ๆ จนกว่าชีวิตจะหาไม่ ทว่า หนี้สินเงินล้านหมู่บ้าน 20,000 บาท ที่เขาผัดผ่อนและพยายามลืม ๆ มันมานานนั้น ถึงเวลาต้องใช้แล้ว ดังนั้น ก่อนที่เขาจะกลายเป็นคนนอกอย่างสิ้นเชิงในสังคมชนบทหมู่บ้านเล็ก ๆ
เขาจึงต้องลุกขึ้นมาดิ้นรนด้วยเรี่ยวแรงและสติปัญญาที่มีทั้งหมดเพื่อหาเงินใช้หนี้ก้อนนี้ให้ได้ ความขาดแคลนของชนบท และความหวังเล็ก ๆ ที่ยากจะเป็นจริงได้ของแม่และลูกชายวัยรุ่น เขาจะสามารถหาเงินใช้หนี้และใช้ชีวิตอย่างพอเพียงได้หรือไม่? เป็นคำถามสำคัญของเรื่อง...
ประวัติผู้กำกับภาพยนตร์ :
ข้าพเจ้าเป็นลูกชาวนาโดยกำเนิด บวชเป็นสามเณรเพื่อเรียนหนังสือเป็นเวลา 10 ปี เรียนปริญญาตรีด้านการละคร กำลังศึกษาระดับปริญญาโทด้านภาพยนตร์ เรียนจบทำละครเวทีและรายการโทรทัศน์ต่อเนื่อง 7 ปี จึงเริ่มเข้าสู่วงการภาพยนตร์กระแสหลัก ในตำแหน่งผู้ช่วยกำกับและสอนการแสดง แต่เบื่อหน่ายในระบบ จึงออกมาทำละครเวทีอีก 2 ปี
แต่ทนเสียงเรียกร้องจากหัวใจให้ทำภาพยนตร์ไม่ไหวจึงกลับเข้าสู่วงการภาพยนตร์อีกครั้ง คราวนี้ เริ่มต้นด้วยการลงมือทำภาพยนตร์สั้นด้วยตัวเอง ภาพยนตร์สั้นเรื่องที่ 2 ตากับหลาน ได้รับรางวัลภาพยนตร์สั้นยอดเยี่ยมประจำปี 2541 ทั้งเทศกาลภาพยนตร์กรุงเทพครั้งที่ 1 และเทศกาลภาพยนตรสั้นของมูลนิธิหนังไทยครั้งที่ 2 ภาพยนตร์สั้นเรื่องที่ 2 ชาวนากลับบ้าน ได้รับรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมในเทศกาลภาพยนตร์กรุงเทพ ครั้งที่ 2 ปี 2542
หลังจากนั้น ข้าพเจ้ายังคงมุ่งมั่นทำภาพยนตร์สั้นต่ออีกหลายเรื่อง แต่ไม่เคยส่งเข้าประกวดอีกเลย ตราบจนกระทั่งปี 2546 จึงได้โอกาสทำภาพยนตร์เรื่องยาวกระแสหลักเรื่องแรก 191 ครึ่ง มือปราบแล้วป่วน ด้วยหวังว่าจะมีโอกาสได้สร้างภาพยนตร์ตามแนวทางตัวเอง แต่ก็พบว่ายากอย่างยิ่ง
ข้าพเจ้าเกิดความเบื่อหน่ายในระบบอย่างที่สุด จึงหยุดสร้างภาพยนตร์ไปนานถึง 6 ปี และหันไปสอนหนังสือ เขียนหนังสือ และศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม และปีนี้ ข้าพเจ้าอดรนทนไม่ไหวอีกต่อไป จึงรวบรวมเงินทุนก้อนเล็ก ๆ ที่สะสมมานานและทำภาพยนตร์เรื่องยาวอีกครั้งในรูปแบบภาพยนตร์อิสระเต็มตัว โดยมีความตั้งใจ คือ พยายามเป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด และนี่คือ ภาพยนตร์เรื่องยาวที่สองของข้าพเจ้า คนจนผู้ยิ่งใหญ่ (Poor people the great)
อ่านประวัติของเขาเพิ่มเติมได้ที่นี่ คนจนผู้ยิ่งใหญ่ ตัวตนที่แท้จริง ของสืบ
บุญส่ง นาคภู่