สนับสนุนโดย สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม Supported by Office of Contemporary Art And Culture ,Ministry Of Culture

หน้าแรก
ข่าว
วิจารณ์
สัมภาษณ์
บทความพิเศษ
รายงานหนังไทยในเทศกาลหนังต่างๆ
รายชื่อหนังสือและบทความเกี่ยวกับหนังไทย
รายชื่อ ที่อยู่ หน่วยงาน
 
รายชื่อหนังเก่า
 
 
 
 

   
ความจำสั้น..แต่รักฉันยาว
  หน้านี้ แนะนำตัวละคร และสัมภาษณ์นักแสดง
 

 

สัมภาษณ์เป้ อารักษ์

เป้-อารักษ์ อมรศุภศิริ สลัดคราบร็อกเกอร์หนุ่มสุดแนว มาสวมบท “หมอเก่ง” สัตวแพทย์หน้าใสรักษาสัตว์ ในหนังรักซึ้งๆ “ความจำสั้น..แต่รักฉันยาว” ค่าย จีทีเอช งานนี้ เป้ลงทุนไปค้นคว้าหาข้อมูลการเป็นสัตวแพทย์ เข้าคอร์สฝึกหัดการเข้าเฝือกสุนัขกับสัตวแพทย์ตัวจริง

คาแร็คเตอร์ “หมอเก่ง” ความเหมือนที่แตกต่าง
“ถ้าดูภายนอกที่ชัดที่สุดก็คงไม่เหมือนตรงทรงผม กับการแต่งกาย ลุคจึงดูต่างจากตัวจริงที่เห็นกัน แต่เรื่องปากเสีย ปากไว การเป็นคนพูดตรงๆ ก็จะคล้ายๆเหมือนกัน เพียงแต่ไม่ร้ายและแรงเท่าเก่งในเรื่อง เก่งในเรื่องประมาณขวานผ่าซากเลย ไม่มี      สัมมาคารวะ แต่ผมยังมีสัมมาคารวะ แต่ว่าเรื่องของการรักสัตว์ ไม่ค่อยตรงนะ เพราะผมไม่สามารถที่จะเข้าไปตีซี้กับสัตว์ได้อย่างนั้น คือจริงๆก็รักสัตว์ แต่ว่าจะตีซี้ได้แค่กับหมาที่บ้านเท่านั้น หมาของคนอื่นเอาไม่รอด เพราะเราไม่รู้วิธี เหมือนมันเชื่อมกันไม่ค่อยได้ บางฉากที่เราต้องโวยวายใส่มัน แล้วมันดันรู้สึกไม่ดีกับเราตั้งแต่นั้นมาเลย ทำให้มันกลัวผม ไม่ฟังผมไปเลย แม้ว่าเราจะพยายามตีซี้ เอาขนมให้ เล่นกับมันเท่าไหร่ก็ตาม และด้วยความที่มันเป็นหมาฝึก เลยสูญเสียความเป็นหมาไปเลย เรียกชื่อก็ไม่หัน เวลาเล่นกับมันเลยเหนื่อยหน่อย”

เข้าฉากกับหมาเหนื่อยกว่าง้อผู้หญิง
“เข้าฉากกับหมา หนักใจสุดแล้วครับ ยากจริงๆ เหนื่อยจริงๆ มีอยู่ซีนหนึ่ง แค่อุ้มมันมาขึ้นรถแค่เนี้ย มันไม่ให้อุ้ม มันถีบผม แต่ไม่กัด แต่มันไม่ยอม ผมต้องตีซี้ระเบิดเถิดเทิงเลย ทั้งลูบหัว ให้อาหาร แต่ยังไงก็ไม่ยอม พอสุดท้าย ญารินดามาลูบหัวมันนิดเดียวเท่านั้นแหละ ได้เลย หมามันชอบผู้หญิง เรียกว่ากว่าจะเข้าฉากกับมันได้ ยิ่งกว่าง้อผู้หญิงอีก คือง้อผู้หญิงยังง่ายซะกว่า แต่เพื่อความสมจริงเลยต้องไปดูการตรวจเช็คคนไข้ว่าเค้าทำกันอย่างไร วันที่มีการรักษา หมอก็มาทำให้ดู มาพันเฝือกให้ดู แล้วให้เราทำตาม ก็ไม่ยากมาก แต่เก่งค่อนข้างไม่เหมือนสัตว์แพทย์ทั่วไปเท่าไหร่ คือเป็นสัตว์แพทย์ที่รู้ว่าสัตว์ต้องการอะไรแค่ไหน ก็จะทำแค่นั้นไม่ได้ปลอบประโลมอะไรมาก“

เป้ ปลื้ม ญารินดาเจ๋ง!!
“ญารินดาอินกับการแสดงจนผมงงมาก แต่พอมาคุยถึงได้รู้ว่าเขาชอบดูหนัง ชอบการแสดง ฟังเพลง และชอบศิลปะอยู่แล้ว พอเล่นด้วยกันเลยโอเค เขาเหมาะกับบทฝ้ายมาก แต่ที่ลำบากผมหน่อยคือ ฝ้ายตัวสูงเกือบเท่าเก่งนี่แหละ คือมันไม่ค่อยชินเพราะที่ผ่านมาก็ได้เล่นแต่กับนางเอกที่ตัวเล็กกว่าผมตลอด แต่ต้องยอมรับเลยว่าญารินดาเก่งมาก เขาอินกับการแสดงจนผมงงมาก เราค่อนข้างสนิทกันมาก่อน เพราะเคยเจอกัน เคยแจมดนตรีด้วยกัน ผมกรี๊ดเพลงเค้ามาก คือตอนนั้นจะมองว่าเป็นผู้หญิงที่ดูเซอร์ๆ ดูติสต์ มีโลกส่วนตัว ร้องเพลงเพราะ ไม่คิดเลยว่าพอมาเล่นหนังจะกลายเป็นผู้หญิงที่อ่อนไหว และเซ็นต์ซิทีฟได้ขนาดนี้  พอมาคุยถึงได้รู้ว่าเขาชอบดูหนัง ชอบการแสดง ฟังเพลง และชอบศิลปะอยู่แล้ว พอเล่นด้วยกันเลยโอเค เขาเหมาะกับบทฝ้ายมาก

ลุงปลาทองกับป้าHi5
“ฉากแรกที่ต้องสอนพวกลุงๆ ป้าๆ เล่นคอมพิวเตอร์กัน เป็นอะไรที่ประทับใจมาก ทุกคนน่ารักมาก ฉากนั้นผมก็สอนจริงๆเลย ให้เขารู้สึกว่าเราสอนเขาจริงๆ เขาก็จะสนุกกับเราเต็มที่ สนุกมากฉากนั้น ไม่เหนื่อยด้วย แจ๋วดี คือได้แสดงกับคนอายุมากๆ แต่กลับสนุกสนานและขำกัน ตลกกันตลอด เพราะทุกคนอารมณ์ดีกันหมดเลย

“เป้” ยืนยัน!! ไม่มีวันแอบรักแฟนเพื่อน
“เก่งรักแฟนเพื่อน แต่สำหรับผมจะไม่มีทางรักแฟนเพื่อน ผู้หญิงคนไหนที่ไปเป็นแฟนเพื่อนผมมาแล้ว ผมจะไม่ยุ่งครับ ถึงเป็นแฟนเก่าก็จะไม่ยุ่งเลย สำหรับผมเรื่องนี้เป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับเด็กผู้ชาย คือมันเป็นความเชื่อของผม แต่จริงๆแล้วความรักเมื่อมันเกิดขึ้นมันก็ห้ามกันยาก ส่วนนี้ผมเข้าใจดี มันเป็นความรู้สึกและเหตุผลส่วนบุคคลครับ”

เมืองจันทบุรี สุดยอดโลเคชั่น
“ประทับใจทุกฉากที่ถ่ายในจังหวัดจันทบุรีเลย เพราะสถานที่ถ่ายทำ โลเคชั่นสวยมาก ตอนแรกที่เห็นตกใจมาก เพราะที่นั่นเป็นป่าชายเลน ผมไม่เคยเห็นป่าชายเลนจริงๆเลย พอเดินออกไปต้นไม้เต็มเลย พอเดินหลุดโค้งไป ก็เป็นทะเลโล่งๆแล้ว มันสวยมาก รู้สึกงงเลยว่ามีโลเคชั่นแบบนี้ในประเทศไทยด้วยเหรอ คือมันเป็นป่าชายเลนจริงๆ ลมก็เย็น สวยมากๆ”

พี่สินผู้กำกับอารมณ์ดี
“พี่สินเป็นคนอารมณ์ดีมาก เนี้ยบมาก ทุกฉาก ทุกซีน คือเคยร่วมงานกับพี่ต้อม พี่กอล์ฟมาก่อน แล้วพอมาเจอพี่สิน คนละแบบเลย เช่นถ่ายกล้องเดียวแต่คัทรอบตัว ตอนนั้นก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องถ่ายรอบตัว ตอนหลังถึงจะเข้าใจว่ามันเป็นการเล่าเรื่องแบบที่หนังเรื่องนี้ควรจะเป็น พี่เม้งตากล้องอยู่บนเครนตลอด ผมตื่นเต้นมากว่าหนังรักที่ถ่ายด้วยแบบนี้จะออกมาอย่างไร คือพี่สินทั้งเนี้ยบและละเอียดมาก โปรเฟสชั่นนอลมาก ไม่เคยอารมณ์เสียเลย อารมณ์ดีตลอด การดุคนของพี่สินก็น่ารักมาก ใจเย็นมาก เป็นคาแร็กเตอร์ที่ดีมากสำหรับผู้กำกับ เรียกว่าผ่านผู้กำกับมา 3 คน ก็ 3 สไตล์เลย”

เหตุการณ์อยากลืมกลับจำ
“มันมีเหตุการณ์แย่ๆ แต่ก็ยังจำได้ ไม่ลืมซักที อย่างจีบผู้หญิงคนแรกแล้วแห้ว!!! เราก็ยังอุตส่าห์จำได้อยู่ บางทีเราทำอะไรผิดพลาด อยากจะลืมทุกอย่าง แต่เรายังจำได้อยู่ดี”

เหตุการณ์อยากจำกลับลืม
“อย่างเวลาเราคบกับแฟนคนหนึ่งแล้วพอเลิกกัน เรื่องดีๆมันหายไปหมดเลย เรื่องดีๆที่เราเคยมีร่วมกันมา มันหายไปหมด เวลาเรานึกถึงเรามักนึกเรื่องดีๆเหล่านั้นไม่ออก ทั้งที่มีเรื่องดีๆมากมาย แต่สิ่งที่จำได้กลับมีแต่เรื่องไม่ค่อยดี เลยรู้สึกว่าเรื่องแบบนี้มันอาจจะดีลีดตัวมันเอง ก็รู้สึกแย่เหมือนกัน เพราะบางทีก็อยากจำอะไรได้บ้าง”

รักครั้งแรก แต่ไม่ใช่รักครั้งเดียว
“อยากให้คนมาดูหนังเรื่องนี้กันเยอะๆ มันเป็นหนังที่มีความรักความอบอุ่น และมีความสนุกด้วยแน่นอน จะไม่ได้ร้องไห้เพราะโศกเศร้า แต่จะร้องเพราะความอิ่มเอม ประทับใจ ดูแล้วออกมาก็จะมีความรู้สึกว่า มีความสุข เหมือนเป็นการสอนคนเราอย่าไปยึดติดกับอดีต สำหรับรักครั้งแรก มันก็แค่รักครั้งแรก แต่ไม่ใช่รักครั้งเดียว ความรักมันมีได้เรื่อยๆ มีได้หลายรูปแบบจริงๆ เพราะความรักมันไม่มีจุดจบ เพราะฉะนั้นอย่าไปยึดติดกับมันมากนะครับ”

เกิด                                        2  กันยายน  2527
พี่น้อง                                     2 คน (มีน้องสาว)
การศึกษา                             จบการศึกษาจากคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยมหิดล
ผลงาน                                    ถ่ายแบบ, ถ่ายโฆษณา, มือกีตาร์ วง Slur          
                                    
ภาพยนตร์เรื่อง บอดี้..ศพ#19, รัก|สาม|เศร้า     

 

ญารินดา บุนนาค รับบท ฝ้าย

สาวมาดเซอร์ ญารินดา บุนนาค ขอพักไมค์ชั่วคราว เปิดตัวกับการแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิต กับบทฝ้าย อาชีพ   ภูมิสถาปนิก คือจะทำเป็นคนจัดสวน มีบุคลิกที่ลุยๆ วิถีชีวิตจะแอ็คชั่น จะใช้ชีวิตเดินทางไปตามที่ต่างๆบ่อยๆ เป็นคนแอ็คทีฟ เป็นสาวมั่น แต่จะโก๊ะๆ จำโน่นจำนี่ผิด เป็นคนรักสัตว์มาก พอเจอสัตว์จะอ่อนระทวย กลายเป็นคนหวานมากๆ แต่พอกับมนุษย์ด้วยกันจะมีนิสัยแข็งๆ

 รักต้นไม้ เอาใจหมา
“ตอนแรกนึกว่าใกล้เคียงเหมือนกัน แต่พอได้มาเล่นจริงๆแล้ว แตกต่างกันเยอะ คือฝ้ายลุคจะแข็ง แต่ข้างในอ่อนไหวมาก ลืมไม่ลง แต่ตัวเราจริงๆจะสงบนิ่ง เจอเรื่องอะไรมาแป๊บเดียวก็หายเศร้า แต่ส่วนที่ค่อนข้างเหมือนเลยคือจะชอบต้นไม้ เรียนมาด้านสถาปัตย์เหมือนกัน ดังนั้นเรื่องวิชาชีพของตัวละครก็ตรงกับชีวิตจริงเลย แล้วที่บ้านก็มีหมาเยอะเหมือนกัน เราก็เล่นกับมันแบบลุยๆ ส่วนฝ้ายรักสัตว์ แต่จะประพฤติกับมันแบบหวานมากคือยิ่งกว่าลูกซะอีก”

จุดเปลี่ยนของชีวิต
“เรื่องนี้มีการเวิร์คช็อปการแสดง ซึ่งนี่ถือเป็นจุดเปลี่ยนของเราเลย เรียกว่าตาสว่างขึ้นมาเลย ตอนเรียนมัธยมจะชอบเล่นละครเวที ตอนนั้นเราก็มีเรียนการแสดง แต่ไม่เข้าใจ พอมาเวิร์คช็อปกับแอ็คติ้งโค้ชในเรื่องนี้ รู้สึกตื่นตาตื่นใจ และน่าสนใจมาก เพิ่งเข้าใจว่าการแสดงมันยากมาก เราต้องมีสมาธิ และต้องควบคุมจิตตัวเองค่อนข้างสูง ถือว่าเป็นการเริ่มต้น พอได้มาทำเราอยากเรียนรู้ต่ออีกเยอะ คืออยากเรียน เป็นศาสตร์ที่เราไม่เคยนึกถึงอย่างจริงจัง พอได้ลองทำแล้วกลับชอบมาก

ปลื้มเป้ ให้ยืมกีต้าร์
“เป้น่ารักและแนวมาก เป็นคนมีน้ำใจมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว คือครั้งแรกที่เจอกัน นานมากแล้ว ตอนที่วงเสลอไปเล่นคอนเสิร์ตงานเดียวกัน ตอนนั้นกีต้าร์เราเจ๊ง แล้วเป้เดินมาจากไหนไม่รู้ เข้ามาบอกว่าเอากีต้าร์ผมมั้ย ซึ่งตอนนั้นเราไม่เคยรู้จักเป้มาก่อนเลย มาถึงก็ช่วยต่อสายกีตาร์ให้ ประทับใจผู้ชายคนนี้มาก เป้เป็นคนทุ่มเท ทำงานหนักมาก ไม่ค่อยดูแลตัวเองเท่าไหร่ และก็จะเป็นคนที่หลับเยอะมาก ว่างเป็นหลับ เผลอแป๊บเดียว เป้หลับแล้ว แต่พอตื่นขึ้นมาก็ทำงานได้ทันที มีความสามารถพิเศษมาก”

ซีนเด็ดโดนใจ
“จริงๆชอบทุกอันเลย เราสนุกมาก แต่ฉากที่ถ่ายทำที่ป่าโกงกาง จ.จันทบุรี สวยมาก มีซีนถ่ายทำที่เป็นเรือตกปลาหมึก ฉากที่เก่งกับฝ้ายขึ้นเรือไปตอนฟ้าสาง ท้องฟ้าสีสวยมาก รู้สึกบรรยากาศมันโรแมนติกมาก แล้วก็เป็นเพราะว่าเราสองคนค่อนข้างสนิทกัน เพราะรู้จักเป้มาหลายปีแล้ว เลยเล่นได้ ทำให้การถ่ายทำหนังเรื่องนี้สนุก พอได้มาเล่นด้วยกันก็ยิ่งสนุก และเป้ก็น่ารักอยู่แล้ว แต่ก็มีบางซีนที่หนักใจ เพราะเรื่องนี้ค่อนข้างเล่นเป็นผู้หญิงขี้แย ต้องร้องไห้เยอะมาก ซีนหนักใจเลยไปตกอยู่ที่การต้องร้องไห้ เพราะปกติถ้าเกิดร้องไห้ก็จะชอบร้องไห้แบบไม่ให้ใครเห็น จะหลบไปร้องคนเดียว แต่พอถ่ายหนังต้องมาร้องไห้ให้ทีมงานที่ยืนอยู่รอบๆกว่า 30 คนดู  

มันเลยยากมาก อย่างฉากที่ต้องร้องไห้เรื่องหมา เพราะเห็นหมาถูกทรมาน เลยต้องใช้วิธีหลับตาให้ทุกคนในโลกหายไป ตอนแรกก็เครียดเหมือนกันไม่รู้ว่าจะร้องไห้ได้หรือเปล่า แต่สุดท้ายก็ร้องออกมาเอง ทั้งน้ำตา น้ำมูกออกมาหมด และเพราะต้องถ่ายหลายเทค เรียกว่าต้องร้องจนน้ำตาแห้งเลย”

เรียนรู้จากลุงกับป้า
ทุกคนเล่นเก่งมาก รู้สึกเหมือนได้เรียนรู้อะไรเยอะ คุณป้าก็เสียงเพราะมาก เป็นนางเอกจริงๆ ตอนอยู่ในกอง คุณป้าจะคอยสอนให้พูดชัดๆช้าๆ สอนออกเสียงต่างๆเพราะคำพูดหรือเสียงที่เปล่งออกมามันสำคัญมากในการสื่ออารมณ์ ส่วนคุณลุงก็เป็นพระเอกมาก ร่วมงานแล้วรู้สึกดีมาก

ร่วมงานกับผู้กำกับ
น่ารักมาก รู้สึกดีตลอด ไม่กดดัน แล้วก็ไม่เครียดเลย คือนอกจากจะสอนเราแล้ว ยังทำให้เราได้เห็นมุมมองที่เรานึกไม่ถึง รายละเอียดต่างๆ เหมือนเป็นครูเลย ส่วนบรรยากาศกองถ่าย ทุกคนน่ารัก อารมณ์ดีมาก บรรยากาศมันเป็นมิตรมาก   ใจดีต่อกัน เป็นสิ่งที่ดีมาก

เหตุการณ์ อยากจำกลับลืม อยากลืมกลับจำ
คือจะไม่ค่อยมีอะไรพวกนี้เท่าไหร่ เพราะจริงๆเป็นคนขี้ลืม แล้วก็จะลืมไปโดยอัตโนมัติอยู่แล้ว อย่างถ้าเป็นเรื่องร้ายๆก็จะเศร้าแป๊บเดียว พอเวลาผ่านไปเราจะลืมหมดเลย ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน สมองมันลบทิ้งไปหมดเองเลย แต่ว่าไม่ได้ตั้งใจว่าฉันต้องลืม ฉันอยากลืม เพราะว่าเรื่องเศร้าๆมันก็จะสอนใจ เป็นบทเรียนเรา ไม่ได้รู้สึกว่าต้องผลักดันตัวเองให้ออกจากอดีต

ข้อคิดจากหนัง
เป็นเรื่องของการให้โอกาส การเริ่มต้นใหม่ คือเราควรให้โอกาสตัวเอง ไม่ใช่โอกาสแค่เรื่องความรักเท่านั้น คือการที่เราเปิดโอกาสเริ่มต้นอะไรบางอย่างมันไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นตอนเด็กๆ เพียงแค่เราอยากทำอะไรสักอย่าง หรือรักใครสักคน มันจะเกิดขึ้นตอนเราอายุ 20 หรือ 70 ก็ได้ น่าจะให้โอกาสตัวเองหลายๆครั้ง คนส่วนใหญ่ไม่ได้ทำ หรือลงเอยกับอะไรสักอย่าง เป็นเพราะเราปิดกั้นตัวเอง แต่เรื่องนี้ให้กำลังใจ ทุกคนมีโอกาส ความเป็นไปได้มีสำหรับทุกคน เราสามารถเริ่มต้นใหม่กับอะไรทุกอย่างได้เสมอ  อย่างตอนนี้เพิ่งเปิดโอกาสให้ตัวเองเข้ามาเล่นหนัง ซึ่งมันน่าสนใจมาก เราเริ่มชอบมัน อยากทำให้เก่งมากขึ้น”

เกิด :                                           6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2523
อาชีพ :                                        นักร้อง, อาจารย์, พรีเซนเตอร์โฆษณา
แนวเพลง :                                     ป็อปร็อก
การศึกษา :                                   ศึกษาระดับประถมที่โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย
และต่อระดับมัธยมที่โรงเรียนประจำในประเทศอังกฤษ

จากนั้นจึงมีผลงานเพลงอัลบั้มแรกกับสังกัดแกรมมี่ อัลบั้ม ญารินดา เมื่อปี 2544 ด้วยภาพลักษณ์สาวผมสีชมพูและบทเพลงติดหู ‘พลาดไปแล้ว’

หลังจากออกอัลบั้มแรก กลับไปศึกษาต่อคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ ที่สหรัฐอเมริกา (Cornell University) และกลับมาเป็นอาจารย์พิเศษสอนวิชา ศิลปะนิยมเพื่อการสื่อสาร ที่คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตั้งแต่ปลายปี 2547

เธอหายหน้าจากวงการไปนาน ก่อนจะกลับมาอีกครั้งในมาดใหม่ที่ยังดูมาดมั่นเช่นเคย ในปี 2549 กับอัลบั้ม Try to be Nice พร้อมบทบาทของสถาปนิกสาวและศิลปินในค่าย Small Room และยังเป็นพรีเซนเตอร์ให้ภาพยนตร์โฆษณาชุด เป๊ปซี่แม็กซ์ ร่วมกับดาราดังคนอื่นอีกหลายท่าน

 

กฤษณ เศรษฐธำรงค์ รับบท ลุงจำรัส

กฤษณ เศรษฐธำรงค์ รับบท ลุงจำรัส เข้าวงการครั้งแรกเมื่ออายุ 41 ตอนนั้นมีคนมองเห็นแววให้มาถ่ายรูป แล้วก็เรียกไป แคสติ้ง เริ่มจากตัวประกอบธรรมดาๆ จนได้รับโอกาสรับบทนักแสดงนำในเรื่องนี้

คนแก่หัวใจหนุ่ม
“ผมมาแคสบทลุงจำรัส  พออ่านบทครั้งแรกก็รู้สึกว่าอยากเล่นเลย ก็คิดว่าเราน่าจะเล่นได้นะ พอเขาเรียกมาแคส เอาบทมาให้ท่อง ประมาณชั่วโมงกว่าเข้าไปแคส เราก็ทำเต็มที่ มีทั้งอารมณ์เศร้า ซึม หลายอย่าง พยายามเต็มที่ บทนี้คล้ายๆกับตัวผมเลย ตรงที่มีนิสัยใจคอในแบบที่เป็นคนแก่แต่หัวใจคนหนุ่ม เป็นคนสนุกสนาน แต่ถ้ามีเรื่องหรือปัญหาอะไร ก็มักจะซ่อนความเจ็บปวดไว้ข้างในไม่ให้ใครเห็น อย่างเสื้อผ้าในเรื่องที่แต่ง ก็คัดเลือกมาคล้ายๆกับที่ผมแต่งในชีวิตจริงเหมือนกัน คือเรียกว่าบทนี้ค่อนข้างคล้ายตัวผม พอรู้ผลว่าได้เล่น ยอมรับว่าดีใจมาก ที่คุณสิน และ จีทีเอช มองเห็นแวว คุณสินสอนเทคนิคการแสดงได้ดีมาก ตอนนั้นไม่คิดเลยว่าตัวเองจะได้เล่น เพราะมีคนมาแคสติ้งเยอะมาก ”

เข้าฉากวันแรก
“เป็นฉากในห้องเรียนคอมพิวเตอร์ ที่มีเป้ซึ่งเป็นครูสอนคอมพิวเตอร์เข้ามาสอนเราเป็นวันแรก คือเราต้องแสดงเป็นหัวโจก ค่อนข้างเกเร ครูเข้ามาสอนครั้งแรกก็แซวครูเลย วันนั้นก็เล่นไปตามบท ไม่มีความกลัวอะไร ซึ่งเป้เองก็เล่นได้เก่งมาก จริงๆแล้วสำหรับเรื่องคอมพิวเตอร์นี้ผมเล่นไม่เป็นเลย อยากจะเล่นเป็นเหมือนกันแต่เราก็แก่แล้ว จะว่าไปมีโอกาสได้เล่นคอมพิวเตอร์ก็จากหนังเรื่องนี้แหละครับ”

อินไปกับตัวละคร “ลุงจำรัส”
“คุณนิดเป็นนักแสดงรุ่นพี่มาก่อน เป็นนางเอกรุ่นเก๋าที่ผมชื่นชอบมาก คุณนิดช่วยผมเรื่องการแสดงได้มาก คอยช่วยรับส่งอารมณ์ให้ตลอด ทำให้ผมเล่นได้ง่ายขึ้น อย่างฉากสุดท้ายของเรื่อง ที่เกิดขึ้นที่บ้านลูกชาย เป็นฉากที่ป้าต้องมาบอกกับเราว่าจะตัดสินใจกับชีวิตตัวเองอย่างไร จะเลือกเดินทางไปทางใด ฉากนี้มันยากมากในความรู้สึก ยากมากสำหรับทั้งคู่เลย คือยากทั้งอารมณ์ที่ต้องเล่น เป็นอารมณ์ที่เราต้องอดกลั้นความรู้สึกต่างๆเอาไว้ และเพราะหนังที่ต้องถ่ายเจาะทีละคนอีก เรื่องนี้ผมอินมากจากเรื่องราวที่เราเล่นมา คือในความรู้สึกเราเป็นลุงจำรัสแล้ว จนมาถึงฉากนี้ทำให้น้ำตามันไหลออกมาเอง มันซึ้งจริงๆ แล้วคุณนิดก็เล่นได้ดีมากๆ แล้วก็ช่วยส่งอารมณ์ให้ผมได้มาก ทำให้ฉากนี้ผ่านไปได้ด้วยดี ประทับใจมากครับ”

นักแสดงรุ่นเด็ก เป้ และญารินดา
“เจอกันบ่อยครับช่วงหลังๆ คือเป้เจอกันตั้งแต่ รัก|สาม|เศร้า แล้ว รู้สึกว่าวัยรุ่นสมัยนี้มีความรู้ที่ดี เทคนิคการแสดงที่ดี ได้เข้าฉากกับเป้บ่อย เป้เล่นเก่งมาก ตอบโต้กันได้ดี ส่วนญารินดา เล่นดีมาก ก้าวหน้าแน่ๆ แถมยังนิสัยดี สุภาพ ข้างในเขามีคุณภาพ ความคิดอ่านเป็นผู้ใหญ่ พอเข้าฉากด้วยกันรู้สึกเลยว่าเขาเล่นดีจริงๆ

ร่วมงานกับผู้กำกับ
“ผู้กำกับไม่เครียด ทำให้นักแสดงทำอารมณ์ได้ดี กองถ่ายนี้น่ารักมาก ทำให้ทุกคนเล่นแล้วไม่ซีเรียส ช่วยเหลือกัน เข้ากันได้หมด เป็นทีมที่คุ้นเคย

เหตุการณ์ที่อยากลืมแต่กลับจำมันได้ขึ้นใจ
“คงเป็นเรื่องที่เราต้องเจ็บช้ำมากๆ ในชีวิตจริงของคนเราเรื่องที่เราอยากลืมมากที่สุดคือเรื่องที่เราทำผิด แต่เราลืมมันไม่ได้ เรายังคงจำมันได้ดี มันเป็นบทเรียนสำคัญในชีวิต ที่เราลืมไม่ได้เพราะเราทำเอง และไม่มีสิทธิ์ที่จะลืม”

เหตุการณ์ที่อยากจำแต่กลับลืม
“เป็นช่วงเวลาที่ดีๆในชีวิต ที่เราเผลอไม่ใส่ใจ ไม่จดจำมันไว้ แต่กลับจำเรื่องราวสิ่งที่เจ็บปวด สิ่งที่ทำร้ายตัวเองได้อย่างดี จะมาจำได้อีกทีก็ตอนที่เราได้เห็นช่วงเวลาดีๆของคนอื่นแล้วนึกถึงตัวเองว่าเราก็เคยผ่านมันมาแต่เราไม่ใส่ใจมันเอง อย่างตอนช่วงเวลาที่ผมไปอยู่ที่ต่างประเทศ ตอนอยู่ที่ญี่ปุ่น เป็นช่วงเวลาที่ไม่อยากลืม มันดีมาก เพราะตอนนั้นผมป่วยแต่ก็มีเพื่อน คนที่ทำงานด้วยกันช่วยกันดูแล รู้สึกดีมาก แต่พอกลับมาเมืองไทยก็ค่อยๆลืมช่วงเวลาเหล่านั้นไป อาจเป็นเพราะความเป็นอยู่ของเรา มันทำให้ลืมอะไรบางอย่างที่ดีๆไป เพราะเราต้องเดินไปข้างหน้า เจอสิ่งใหม่ๆแปลกๆอยู่ตลอด”

สิ่งที่อยากจะจดจำมันไว้ได้ตลอดชีวิต
“อยากจะจำช่วงเวลาที่ไปทำงานที่ประเทศเบลารุส ตอนนั้นไปทำงานโรงแรม ทำด้านเครื่องดื่ม แต่เกิดป่วยต้องผ่าไส้ติ่งด่วน แต่ดันเป็นช่วงสมัยสงคราม อิรัก อิหร่านพอดี ทุกวันนี้ยังจำได้ เป็นเหตุการณ์ที่ทรมานใจ เจ็บตัว และลำบากมาก คิดถึงบ้าน แล้วลูกก็ยังเล็กอยู่ คือเราต้องนั่งรถพยาบาลข้ามทะเลทรายไปในตอนกลางคืน 4 ชั่วโมง แล้วเราก็ผ่านเหตุการณ์ไปได้ด้วยดี ตอนนั้นถึงขั้นมองท้องฟ้าว่าประเทศไทยอยู่ตรงไหน เพราะเวลาที่เราเจ็บป่วย หรือกำลังแย่ เราจะคิดถึงบ้านมาก”

ฝากถึงหนัง…ฝากถึงแฟนๆ
“ถ้าผมไม่ได้เป็นนักแสดงของเรื่องนี้ ผมคงต้องไปดูแน่ๆ หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของชีวิตคู่ 2 วัย เป็นหนังที่ดูฉีกแนวออกไป และก็รู้สึกดีใจมาก ที่ได้มีโอกาสมาเล่นเรื่องนี้ รู้สึกเลยว่าบทนี้น่าเล่น คือเล่นเป็นคู่รักที่อายุมาก ที่มีความรักบวกกับความเข้าใจมากกว่ากับความรักของเพื่อนต่างวัย เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของความรัก กับเทคโนโลยีที่คนแก่อยากเข้าไปให้ถึง เพียงเพราะอยากเพิ่มความใกล้ชิดกับคนทั้ง 2 คน รับรองว่าเป็นหนังที่ดูแล้วจะรู้สึกอิ่มเอมใจแน่ๆครับ”

ประวัตินักแสดง
เกิด                                             14 กันยายน 2496
อายุ                                             55 ปี
ประวัติการทำงาน(นอกวงการ)           รับราชการเป็นทหารอากาศ อดีตนักฟุตบอลทอ. ด้านอาหารและเครื่องดื่ม
ประวัติการทำงาน(ในวงการ)             เริ่มจากเอ็กซ์ตร้าหนังโฆษณาเครื่องดื่มชูกำลัง, กระดาษดับเบิ้ลเอ, เอ็มเค สุกี้, ธนาคารกรุงไทย ฯลฯ  ภาพยนตร์ เรื่อง ขุนแผน, นเรศวร, เป็นชู้กับผี, รัก|สาม|เศร้า

 

ศันสนีย์  วัฒนานุกูล   รับบท  ป้าสมพิศ

ศันสนีย์ วัฒนานุกูล
          
ศันสนีย์ วัฒนานุกูล อดีตนางเอกดังจากช่อง 4 บางขุนพรหม ผู้รับบทพจมานคนที่ 2 กับผลงานล่าสุด ภาพยนตร์เรื่อง “ความจำสั้น แต่รักฉันยาว” ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 25 ปี โดยรับบทเป็น  ป้าสมพิศ ผู้หญิงสูงอายุที่ไม่ปล่อยให้ตัวเองแก่ มีใจเป็นสาวอยู่ตลอดเวลา แล้วไม่ใช่สาวธรรมดา แต่เป็นสาวเปรี้ยวทันสมัยด้วย เพราะว่าจะดำเนินชีวิตเหมือนกับวัยรุ่นสมัยนี้คือ        กินอาหารฟาสฟู้ดได้ เล่นอินเตอร์เน็ต เข้าแชทรูม ทำทุกอย่างที่วัยรุ่นทำ

บทร้องไห้สุดหิน!!
“คืออ่านแล้วอยากเล่นเลย ตอนที่มาแคสติ้งก็มาด้วยความรู้สึกที่ชอบบทมาก แล้วก็ลุ้นว่าจะได้เล่นหรือเปล่า พอรู้ว่าได้เล่น รู้สึกดีใจมากค่ะ ซึ่งบทนี้ค่อนข้างยาก เพราะปกติเราไม่เคยเล่นหนังหรือละครที่มีบทร้องไห้เลย สมัยก่อนที่เล่นละครก็จะเล่นเป็นนางเอกที่เข้มแข็ง ไม่มีร้องไห้ เป็น พจมาน หรือ อังศุมาลิน ก็จะเป็นนางเอกที่เข้มแข็ง พอมาเล่นเรื่องนี้ แล้วยิ่งเป็นหนังด้วยเลยยิ่งยาก ถ้าละครเราเล่นไปเรื่อยๆอารมณ์ก็จะต่อเนื่อง แต่หนังจะเป็นคัทๆ มาเจาะเป็นคำๆ คือเราต้องเล่นแบบนั้นซ้ำๆบ่อยๆ จนนบางครั้งมันหมดแล้ว น้ำตามันไม่มา ร้องไม่ออกแล้ว แล้วยิ่งในเรื่องนี้ต้องร้องไห้บ่อยหลายครั้ง เลยรู้สึกว่ายาก  มันต้องออกมาด้วยอารมณ์ของบทที่เราเล่น เพราะเราอินกับบท แต่ก็ต้องทำแบบนี้หลายเทค เพราะต้องมีการเจาะถ่ายคำพูดต่างๆ ซึ่งทำให้มันยากมากขึ้นไปอีก จนบางครั้งก็ยังแอบมีความรู้สึกว่าเราน่าจะยังเล่นได้ดีกว่านี้ หลังถ่ายฉากที่ต้องร้องไห้เสร็จ ก็จะปวดหัว จะรู้สึกตึงๆที่ตรงหัวมาก แล้วก่อนเล่นก็จะเครียดมาก เพราะเราไม่เคยเล่นร้องไห้มาก่อน ก็ไม่รู้ว่าจะเล่นได้มั้ย เลยเครียด แต่ผู้กำกับก็จะทำให้เราไม่เครียดตลอด ทำให้เราอารมณ์ดี” 

แนะเทคนิคการแสดงให้ เป้-ญารินดา        
จริงๆน้องๆเขามีความสามารถทางด้านการแสดงที่ดีอยู่แล้ว เราก็จะแนะนำบ้าง เช่นสอนให้พูดให้ชัดๆและช้า เพราะเด็กสมัยนี้จะพูดเร็ว พอพูดเร็วแล้วอารมณ์มันไม่ได้ อารมณ์ของเสียงมันไม่ได้ เราก็จะบอกเค้า เพราะเวลาที่เข้าฉากด้วยกัน มันต้องช่วยกัน

ซีนประทับใจ
คือฉากของแม่กับลูก เป็นซีนระหว่างแม่กับลูก ซีนที่แม่ต้องตัดสินใจบอกอะไรบางอย่างกับลูก เป็นบทสนทนาที่เรารู้สึกประทับใจมาก เป็นประโยคที่ทำให้เรารู้สึกในใจจริงๆ เพราะชีวิตจริงเราก็มีลูก ถ้าเค้าเอ่ยปากหรือพูดอะไรแบบนี้ออกมา แสดงว่ามันสุดๆแล้ว เราก็เลยรู้สึกอินกับฉากนี้มาก

ออน เอ็มเอสเอ็น
จริงๆแล้วเล่นคอมพิวเตอร์ ไม่เป็นเลย แค่เปิดคอมพิวเตอร์ยังไม่เป็นเลย เรื่องนี้เลยเป็นครั้งแรกที่ได้เห็น ได้จับคอมพิวเตอร์แบบเต็มๆ อย่างมีคนถามว่าเรามีอีเมล์หรือเปล่า เรายังบอกว่าเดี๋ยวเอาเบอร์อีเมล์ของลูกแทนแล้วกัน คือยังนึกว่าอีเมล์เป็นเหมือนเบอร์โทรศัพท์อยู่เลย

เหตุการณ์อยากจำกลับลืม
ส่วนมากจะเป็นช่วงวัยเด็ก เพราะเราอยากจะจำว่าคุณพ่อหน้าตายังไง เพราะคุณพ่อเสียตั้งแต่เด็กๆ แล้วก็ช่วงเวลาที่เล่นกับพวกพี่ๆเล่นกันยังไง คือเวลาที่พี่ๆเค้ามาเล่าให้ฟังว่าตอนเด็กๆเราซนยังไง เราเลยอยากจำได้ แต่เรากลับลืมมัน

กำลังใจสำหรับคนที่อยากเริ่มต้นใหม่
“คือชีวิตคนเรามันยาว อย่างรักครั้งแรกของหนุ่มสาวมันลืมยาก แต่เวลามันจะช่วยให้เราลืมไปได้เอง ผ่านไป 1 ปี 2 ปี อาจยังไม่ลืม แต่พอนานๆไปก็จะลืมไปได้ เพราะมันมีเหตุการณ์ต่างๆเข้ามาในชีวิตเรา เพราะฉะนั้นอย่าไปฝังใจกับสิ่งนั้นให้มากจนมันทำลายชีวิตเราเอง เพราะชีวิตเราต้องดำเนินต่อไป ชีวิตเรา เราต้องอยู่ให้ได้ ต้องคิดถึงคนรอบข้างเพราะยังมีคนรอบข้างที่ยังต้องเสียใจกับเราด้วย สิ่งแรกที่รักคือต้องรักชีวิตของตัวเอง เราต้องอยู่ให้ได้เพื่อตัวของเราเอง มันมีโอกาสที่จะพบอะไรใหม่ๆในชีวิตอีกเยอะ อาจจะเจอสิ่งใหม่ๆที่ดีกว่าก็ได้ ไม่มีใครรู้

ฝากถึงแฟนๆที่คิดถึง
“หนังเรื่องนี้ทำให้เราได้ความรู้สึกดีๆ คือมันเป็นเรื่องที่สามารถเป็นไปได้ในชีวิตประจำวัน ในชีวิตเราเรื่องความทรงจำมันค่อยๆเลือนหายไปได้ ทั้งๆที่เราอยากจะจำมัน แต่มันกลับลืม สำหรับเรื่องนี้ทั้งชื่อเรื่อง แล้วก็ตัวพล็อตหนังมันดีมาก แล้วมันก็เป็นสิ่งที่เราต้องเจอในชีวิตจริงด้วย อีกอย่างคือส่วนตัวก็ไม่ได้เล่นหนังมานานแล้ว มีหลายๆคนถามหาเหมือนกัน แต่คราวนี้กลับมาเล่นแล้ว ได้เป็นนางเอกตอนแก่ด้วย เลยอยากจะให้ช่วยไปชมกัน สำหรับเรื่องนี้ก็ทุ่มเต็มที่ พยายามให้หนังเรื่องนี้ออกมาดีที่สุด แล้วก็รู้สึกภูมิใจกับหนังเรื่องนี้มากด้วยค่ะ”

ศันสนีย์  วัฒนานุกูล   
เกิด                                              14 พฤศจิกายน 2488
อายุ                                              63 ปี
ประวัติการทำงาน                             เข้าสู่วงการปี 2512 ที่บริษัทไทยโทรทัศน์(ช่อง 4 บางขุนพรม)
เป็นนางเอกละครเรื่อง เจ้าสาวคืนเดียว, บ้านทรายทอง, คู่กรรม, รักประกาศิต ฯลฯ
                                                   พากย์เสียงการ์ตูนเรื่อง โดราเอมอน พากย์เป็นเสียง โนบิตะ

   

Everything you want to know about Thai film, Thai cinema
edited by Anchalee Chaiworaporn อัญชลี ชัยวรพร   designed by Nat  
COPYRIGHT 2004 http://www.thaicinema.org. All Rights Reserved. contact: ancha999 at gmail.com
By accessing and browsing the Site, you accept, without limitation or qualification, these copyrights.
If you do not agree to these copyrights, please do not use the Site.