สนับสนุนโดย สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม Supported by Office of Contemporary Art And Culture ,Ministry Of Culture

หน้าแรก
ข่าว
วิจารณ์
สัมภาษณ์
บทความพิเศษ
รายงานหนังไทยในเทศกาลหนังต่างๆ
รายชื่อหนังสือและบทความเกี่ยวกับหนังไทย
รายชื่อ ที่อยู่ หน่วยงาน
 
รายชื่อหนังเก่า
 
 
 
 

   
นาคปรก
   
 

แคแรกเตอร์นักแสดง

 

สมชาย เข็มกลัด รับบทเป็น ป่าน
พี่ชายของปอ ใช้ชีวิตที่กร้าน  และโชกโชนตั้งแต่อายุ 11 ขวบ ถึงจะขัดแย้งและมีปากเสียงกันบ่อยๆ กับน้องชาย แต่ป่านก็รักน้องและแม่มาก  พื้นฐานจิตใจเป็นคนดี รักเพื่อนแต่ไม่ไว้ใจคน ชอบสอนปอในสิ่งที่ตัวเองทำไม่ได้ เพื่อต้องการนำเงินมารักษาแม่ที่ตาบอด จึงร่วมมือกับสิงห์ปล้นรถขนเงิน

“สำหรับ สมชาย เข็มกลัด ที่รับบทเป็น ป่าน เราก็พยายามหาอยู่ว่า ใครที่น่าที่จะมาเล่นเป็นตัวละครตัวนี้ได้ คือตัวละครตัวนี้มีทั้งดีและไม่ดี จะเรียกว่าเป็นตัวละครที่ดีก็ไม่ใช่ จะร้ายก็ไม่เชิง จะเกือบดีก็ไม่ใช่ จะเกือบร้ายก็ไม่เชิง คือเป็นตัวละครที่สับสนอยู่ว่าทางเลือกของตัวเองว่า ตัวเองจะเลือกไปทางไหน เป็นตัวละครที่อยู่ระหว่างความดีกับความชั่วของเรื่อง” ใหม่-ภวัต ผู้กำกับพูดถึงสมชาย

“สมชาย เข็มกลัด” ชื่อนี้ไม่ต้องสาธยายอะไรให้มากมายกับช่วงเวลาเกือบ 20 ปีที่ผู้ชายคนนี้ถ่ายทอดผลงานทางด้านต่างๆ ให้พวกเราได้เห็นกัน แต่ถ้าพูดถึงผลงานภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายที่เต๋าฝากฝีไม้ลายมือไว้คงต้องย้อนไปเมื่อปีพ.ศ.2550 กับเรื่อง “โอปปาติก เกิดอมตะ” ซึ่งถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด “นาคปรก” ก็ควรจะเป็นผลงานที่ได้ลงโรงฉายให้ได้ชมต่อทันที แต่ด้วยความบังเอิญหรือฟ้าลิขิตให้ “เต๋า” และ “นาคปรก” มีความเกี่ยวโยงกัน เพราะหนังนาคปรกเองก็ต้องใช้เวลาเกือบ 3 ปีในการต่อสู้กับอุปสรรคต่างๆ นานัปการเช่นเดียวกับเต๋าเองที่ต้องเจอกับมรสุมชีวิตที่ผ่านเข้ามา และเมื่อการเดินทางไปสู่แสงสว่างของ “นาคปรก” และ “เต๋า” มาบรรจบกันอีกครั้ง ก็เป็นโอกาสที่เราทุกคนจะได้เห็นผลงานแห่งการรอคอยที่เต๋าบอกว่าไม่เสียชาติเกิดแล้วที่ได้เล่นเรื่องนี้ กับบทบาทที่เจ้าตัวยกย่องว่าดีที่สุดในชีวิตเลยทีเดียว

“คุ้มครับ  ผมว่าคุ้มมาก  สำหรับครั้งหนึ่งในชีวิต    มันเป็นบทที่ท้าทายทำให้ตื่นเต้นกับชีวิต ตอนที่อ่านบทก็คิดว่ามันเสี่ยงมากที่จะไม่ได้ฉาย  แต่ผมเชื่ออย่างนึงว่ามันจะต้องได้ฉาย  คืออ่านบทแล้วยังไงจะต้องได้ฉาย  ในความรู้สึกผม ผมมั่นใจมาก  ผมบอกกับทุกคนว่าต้องได้ฉาย ผมกล้าพูดว่าผมดีใจมาก  คือมีคนเคยถามผมว่า “ถ้าหนังเรื่องนี้ไม่ได้ฉาย จะเสียใจมั้ย  ผมบอกไม่เสียใจ แต่ถ้าหนังเรื่องนี้ผมไม่ได้เล่น นั่นแหละผมจะเสียใจ  แล้วมีคนเคยถามผมอีกอย่างว่า หลังจากเล่นหนังเรื่องนี้เสร็จแล้วจะเล่นอะไรต่อ  ผมก็บอกก็นั่นสิ แล้วผมจะเล่นอะไรต่อ คือมันมาสุดมากสำหรับเรื่องนี้” สมชายพูดถึงนาคปรก

ผลงานภาพยนตร์ที่ผ่านมา
- สะแด่วแห้ว (พ.ศ.2535) / มดตะนอยต่อยต้นพริก (พ.ศ.2536) / ตุ๊ต๊ะต๋อมแต๋มสุภาพบุรุษตัว ต. (พ.ศ.2537) / โลกทั้งใบให้นายคนเดียว (พ.ศ.2538) / ล่องจุ๊น ขอหมอนใบนั้นที่เธอฝันยามหนุน (พ.ศ.2539) / แตก4 รักโลภโกรธเลว (พ.ศ.2542) / มือปืนโลก/พระ/จัน (พ.ศ.2544) / สายล่อฟ้า (พ.ศ.2547) / โอปปาติก เกิดอมตะ (พ.ศ.2550)

 

 

เร แม็คโดแนลด์ รับบทเป็น สิงห์
เพื่อนนักเลงรุ่นไล่เลี่ยกันกับป่าน ผมยาวรุงรัง สักยันต์ที่ต้นแขนทั้งสองข้าง ดูดบุหรี่อยู่เกือบตลอดเวลา  กักขฬะ วู่วาม ใจเร็ว เป็นคนอารมณ์แปรปรวน มีบุคลิกสองหน้า พร้อมหักหลังทุกคน เปลี่ยนตัวเองได้ทุกสถานการณ์ เพื่อเอาตัวรอด เป็นคนโลภและเลวในสันดาน เป็นจอมวางแผนและเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม

“เรื่องนาคปรก กับ เร แมคโดนัลด์ ผมว่าเป็นบทที่น่าจะโดดเด่น น่าจะสำคัญ น่าจะดีเทลมากที่สุด เท่าที่เขาเคยเล่นหนังมา แล้วเป็นบทที่น่าสนใจ เพราะว่าอย่างตอนชวนเขามาคุยบทกัน เขาก็ตอบตกลงในครั้งแรกเลย เรเล่นเป็นหนึ่งในสามโจรที่ขโมยเงินที่ไปปล้นกันมาแล้วเอามาฝังไว้ในวัด เป็นคนที่ค่อนข้างมีความคิดน้อยที่สุดแล้ว ไม่ค่อยคำนึง ไม่นับถือ ศาสนา ชีวิตคือเงินอย่างเดียว เค้าไม่รู้ว่าอันไหนถูกอันไหนผิด เค้าไม่รู้ว่าศาสนาคืออะไรด้วยซ้ำไป ใหม่-ภวัต ผู้กำกับพูดถึงเร

“เร แม็คโดแนลด์” หนุ่มเซอร์ตัวพ่อของวงการบันเทิงไทย ที่ผ่านผลงานการแสดงมาแล้วมากมาย ซึ่งในหนัง “นาคปรก” เจ้าตัวก็ได้รับบทบาทที่รับรองว่าฉีกทุกภาพที่คุณเคยเห็นมาอย่างแน่นอน ทั้งการพลิกลุกส์จากหนุ่มเซอร์นักเดินทางกลายมาเป็นโจรสุดดิบในคราบพระ หรือจะเป็นลีลาการแสดงที่เลวสุดขั้ว ถึงขนาดหนุ่มเรยังมีหวั่นว่าถ้าหนังเรื่องนี้ได้ฉายอาจอยู่เมืองไทยเลยไม่ได้เลยทีเดียว   

“ตอนที่ตัดสินใจเล่นเรื่องนี้เพราะอ่านบทแล้วมันส์มาก มันดูดิบเถื่อนและบ้ากว่าทุกเรื่องที่ผมเล่นมา แล้วก็รู้สึกเชื่อมั่นและมั่นใจในสิ่งที่หนังต้องการจะเล่า ต้องการจะให้คนดูเข้าใจ ผมคิดว่าบ้านเรายังไม่มีใครกล้าคิดหรือกล้าทำอะไรที่แตกต่างแบบนี้ออกมา คือวิธีการเล่าเรื่องมันแรงและชัดเจน ส่วนในเรื่องก็รับบทเป็นสิงห์ เป็นโจรที่ปลอมตัวมาเป็นพระ เป็นคนเลวในสันดาน ความท้าทายของผมคือไม่เคยเล่นบทแบบนี้มาก่อน เพราะบทสิงห์จะไกลจากตัวผม ต่างจากเรื่องอื่นๆ ที่ค่อนข้างใกล้ตัว อีกทั้งยังได้ร่วมงานกับคุณสมชาย คุณทราย ก็เป็นอะไรที่น่าสนใจ ตัวพี่ใหม่เองก็เคยร่วมงานกันมาก่อน ก็เป็นอะไรที่เราแฮปปี้ ยังไงก็อยากให้ไปดูหนังกันก่อนที่จะไปพิพากษาว่ามันดีหรือไม่ดี ควรฉายหรือไม่ควรฉาย อย่างตัวผมจะบ้าจะแรงยังไงต้องไปดูในหนัง ก็หวั่นเหมือนกันว่าพอคนไปดูแล้วผมอาจอยู่เมืองไทยไม่ได้เลยเหมือนกัน” เร พูดถึงนาคปรก

ผลงานภาพยนตร์ที่ผ่านมา
- ฝันบ้าคาราโอเกะ (พ.ศ.2540) / รักออกแบบไม่ได้ (พ.ศ.2541) / คนจร (พ.ศ.2542) / FAKE โกหกทั้งเพ (พ.ศ.2546) / ธิดาช้าง (พ.ศ.2547) / SIX หกตายท้าตาย (พ.ศ.2547) / คนเห็นผี10 (พ.ศ.2548) / โอปปาติก เกิดอมตะ (พ.ศ.2550) / หนีตามกาลิเลโอ (พ.ศ.2552) / ห้าแพร่ง (พ.ศ.2552)

 

 

ปิติศักดิ์ เยาวนานนท์ รับบทเป็น ปอ
ชายหนุ่มวัยเบญจเพสบุคลิก เงียบ  น้องชายของป่าน เป็นคนเชื่อมั่นในความคิดจนดูเหมือนหัวแข็ง รักแม่ และพี่ชาย  อดทน ไม่ยอมคน ใจเย็น เพราะโตมากับแม่ จึงมีด้านอ่อนโยน และเห็นใจผู้คน เข้ามาร่วมปล้น เพราะถูกป่านหลอกให้มาขับรถ เป็นคนนำเงินไปซ่อนในวัดและเป็นคนเดียวที่รู้ว่าเงินซ่อนอยู่ที่ไหน

“เต้เนี่ยเราชอบการแสดงของเขาอยู่แล้วส่วนหนึ่ง เราก็เลยลองเสี่ยงลองชวนเค้ามาคุยดู ปรากฏว่าเค้าก็ตอบตกลง ซึ่งเล่นเป็นปอในเรื่อง ปอเป็นตัวละครที่เรียกว่า จับพลัดจับพลูเข้ามาอยู่ในกลุ่มของสามโจรที่เข้าไปปล้น ส่วนที่ดีของเขาก็มีเป็นธรรมดา แล้วก็เป็นตัวละครที่เลือกทำในสิ่งที่ถูก ที่ควรจะเป็น คือปอจะรู้สิ่งไหนควรทำสิ่งไหนไม่ควรทำ และควรเลือกที่จะทำสิ่งไหน และควรเลือกที่จะเดินทางไปทางไหน” ใหม่-ภวัต พูดถึงเต้

“ปิติศักดิ์ เยาวนานนท์” นักแสดงหนุ่มคมเข้มที่แจ้งเกิดอย่างเต็มตัวจากหนังเรื่อง “ไอ้ฟัก” ก่อนที่จะมีผลงานหนังออกมาสู่สายตาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกับผลงานเรื่องล่าสุดนี้เชื่อเหลือเกินว่าใครที่ได้ดูหนุ่มเต้ในมาดโจรสุดเข้มประกบกับสองนักแสดงคุณภาพอย่าง “เต๋า-เร” คุณอาจต้องยกนิ้วให้กับชั้นเชิงในการแสดงอารมณ์ที่เข้มข้นกว่าเรื่องไหนๆ อย่างแน่นอน

“ปอก็จะเป็นคนที่คล้ายๆ ผมครับ เค้าจะเป็นคนที่คิดเยอะ คิดหลายเรื่อง คิดได้หลายมุมมอง  มันมีหลายทางที่จะให้เค้าเลือกมาก  เลยเหมือนกับว่าเค้าเป็นคนที่ค่อนข้างไม่มั่นใจในตัวเอง  แต่สิ่งที่เค้าทำลงไปเมื่อเค้าตัดสินใจแล้ว คือเขาอย่างเต็มที่เลยนะ  คาแร็กเตอร์ของปอเป็นคนที่เรียกว่าตกกระไดพลอยโจร เรื่องราวของพี่ชายที่ไปทำมาดันมาเกี่ยวข้องกับเราโดยไม่ได้ตั้งตัว คือในเรื่องนี้ตัวละครแต่ละตัวจะว่าไปมันก็มีอยู่จริงในสังคม แต่ว่าคุณจะเป็นแบบไหนต้องไปดูเอา” เต้-ปิติศักดิ์ พูดถึงนาคปรก

ผลงานภาพยนตร์ที่ผ่านมา
ไอ้ฟัก (พ.ศ.2547) / ซุ้มมือปืน (พ.ศ.2548) / กระสือวาเลนไทน์ (พ.ศ.2549) / มะหมาสี่ขาครับ (พ.ศ.2550) / อีส้มสมหวัง (พ.ศ.2550) / อีส้มสมหวังชะชะช่า (พ.ศ.2552)

 

ทราย เจริญปุระ รับบทเป็น น้ำผึ้ง
น้ำผึ้งเป็นเมียสิงห์ มีอาชีพเป็นหญิงขายบริการ กร้านโลก ไม่ยอมคน ขี้โวยวาย น้ำผึ้งขอบตาช้ำ เพราะใช้ยาตลอดเวลา เป็นคนย้ำคิดย้ำทำ เจ้าอารมณ์ ไม่ศรัทธาในสิ่งใดนอกจากเงิน และยอมทำทุกอย่างแม้แต่การเอาตัวเข้าแลกเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ต้องการ

“มาถึงตัวละคร น้ำผึ้ง ก็ได้ทรายมาเล่น ถือเป็นร่วมงานครั้งที่ 2 คือหลังจากที่ได้คุยกันกับทีมงาน ผมก็เลยบอกว่า ตัวละครตัวนี้นอกจากที่จะต้องมาเล่นเป็นโสเภณีแล้ว เราอยากได้การแสดงที่แน่นด้วย ซึ่งเราก็เลยมองไปที่ทราย ลองส่งบทไปให้ทรายอ่านดู คืออ่านแล้ว เขาก็ชอบ ก็ตอบโอเค ซึ่งตัวละครที่ทรายเล่นจะเข้ามาเติมเต็มเรื่องราวในหนัง ที่ทำให้เกิดจุดพลิกผันขึ้น เชื่อว่าหลายคนต้องอึ้ง และทึ่งกับความกล้าของทรายในการแสดงในเรื่องนี้” ใหม่-ภวัต ผู้กำกับพูดถึง ทราย

“ทราย เจริญปุระ” นักแสดงสาวที่แจ้งเกิดอย่างเต็มตัวในฐานะนางเอกร้อยล้านในหนัง “นางนาก” หลังจากนั้นเป็นต้นมาชื่อเธอก็ก้าวมาเป็นนักแสดงคุณภาพที่น่าจับตามองไม่ว่าจะเป็นงานหนัง งานละคร หรือแม้แต่งานเพลง จะเรียกได้ว่าเธอมีเลือดของศิลปินอยู่ก็คงไม่ผิด ซึ่งในผลงานเรื่องนี้ทรายเองก็ขอรับบทบาทที่ท้าทายและสำคัญที่สุดในอาชีพนักแสดงกับบทบาทโสเภณีจอมโลภ ที่เธอเองยอมรับว่าแรงและพลิกทุกบทบาที่เธอได้รับมา รับรองว่าคุณจะได้อึ้งกับ “ความกล้า” ของเธอในครั้งนี้อย่างแน่นอน

คือในฐานะที่เราเป็นนักแสดง คืออย่างที่บอกว่าเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีใครเขียนบทแบบนี้ คือถ้าจะมีบทของผู้หญิงหากิน อย่างน้อยเธอต้องมีคุณงามความดีอะไรบ้าง ทำเพื่อแม่ หรือมีลูกอยู่ข้างหลัง หรือมีความจำเป็นที่ต้องทำงานแบบนี้ แต่ตัวน้ำผึ้งในนาคปรกเนี่ย ทำทุกอย่างเพื่อตัวเอง เพื่อเงิน มันยากตรงนี้เลย คือเล่นยังไงคนดูก็ไม่สงสาร มันไม่ได้มีข้ออ้างให้กับตัวเอง คือถูกบังคับนะ ในเมื่อเป็นตัวละครที่คนดูไม่สงสารอยู่แล้ว เราก็เล่นให้เต็มที่ไปเลย คือไม่ต้องมีมุมน่ารัก ไม่มีมุมอ่อนโยน ถ้าเล่นให้คนดูรู้สึกหมั่นไส้นั่นแหละเป้าหมาย ถ้าเรามัวไปกั๊ก จะแรงก็ไม่แรง มาห่วงน่ารักอ่อนโยน เรื่องราวของหนังที่ปูมาทั้งหมดก็จะดูไม่น่าเชื่อถือ ทำไมคนกลุ่มนี้ถึงมีความโลภอะไรมากมายขนาดนี้ อย่างน้ำผึ้งก็คือผู้หญิงหากินตรงๆ เลย คือส่วนตัวก็เคยได้รับบทที่แรงมาบ้าง อย่างเล่นละครเรื่องแรกก็โดนข่มขืนแล้ว (ละครเรื่อง ล่า) แล้วเราก็เล่นมาหลายบทบาท บู๊ก็เล่นแล้ว ผีก็เล่นแล้ว หวานๆก็เล่นแล้ว ก็เลยอยากเล่นเรื่องนี้ คนก็ถามว่าแรงไปป่าว ไม่กลัวเสียลุกส์หรอ แต่ในฐานะนักแสดงทรายคิดว่านี่คือโอกาสที่ดีมาก มันมีมิติหลายอย่างที่เราอยากเล่น

ผลงานภาพยนตร์ที่ผ่านมา
นางนาก (พ.ศ.2542) / เฮี้ยน (พ.ศ.2546) / SIX หกตายท้าตาย (พ.ศ.2547) / ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตอน องค์ประกันหงสา (พ.ศ.2550) / ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตอน ประกาศอิสรภาพ (พ.ศ.2550) / บ้านผีสิง (พ.ศ.2550) / กระสือฟัดปอบ (พ.ศ.2552) / สามพันโบก (พ.ศ.2552)

 

 

สะอาด เปี่ยมพงษสานต์ รับทเป็น หลวงตาชื่น
ภิกษุชราผู้บวชอยู่ภายใต้ร่มกาสาวพักตร์นานหลายทศพรรษา เคยเป็นเกจิดังที่มีชื่อด้านไสยศาสตร์และวิปัสสนา เป็นผู้สำรวมทั้งวาจา  เท่าทันแต่เมตตา ภายนอกดูแข็งแรงกระฉับกระเฉง สงบเงียบอยู่เสมอ จนกระทั่งเผชิญหน้ากับโจรร้ายทั้งสาม ที่เข้ามาในวัด

 

รัชนู บุญชูดวง รับบทเป็น นวลเพ็ญ
หญิงกลางคนตาบอดสนิททั้งสองข้าง ผมสีดำแซมเทาดอกเลา เป็นแม่ของปอกับป่าน รักลูกตามวิสัยแม่ สมถะ และอยู่อย่างเรียบง่าย  เหนี่ยวใจอยู่ในพระธรรมคำสอน รักและห่วงปอเพราะเป็นลูกชายคนเล็ก จนป่านคิดไปว่าแม่ไม่รัก มีความหวังที่จะได้เห็นชายผ้าเหลืองของลูกทั้งสอง ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงความฝันก็ตาม

   

Everything you want to know about Thai film, Thai cinema
edited by Anchalee Chaiworaporn อัญชลี ชัยวรพร   designed by Nat  
COPYRIGHT 2004 http://www.thaicinema.org. All Rights Reserved. contact: ancha999 at gmail.com
By accessing and browsing the Site, you accept, without limitation or qualification, these copyrights.
If you do not agree to these copyrights, please do not use the Site.