ก้อย กับ สาม เศร้า ในชีวิตจริง
เศร้า ที่ 1 T_T เศร้า...เพียงแค่คิดว่าคนที่เรารักต้องจากไป
เศร้า ที่ 2 T_T T_T เศร้า...ถ้าทำให้คนที่เรารักต้องเสียใจ
เศร้า ที่ 3 T_T T_T T_T เศร้า...ทุกครั้งที่เห็นคนพิการ คนแก่ ที่ต้องตกระกำลำบาก
หรือภาพเหตุการณ์สะเทือนใจต่างๆ เพราะไม่อยากให้เกิดการสูญเสีย
ผู้กำกับยุทธเลิศ : หลังจากให้ลองมาแคสดู รู้สึกว่าเขามีความเก๋อยู่ในตัว cละสามารถถ่ายทอดอารมณ์ตัวละครหลังจากอ่านบทได้ดี
"ก้อยเป็นคนที่มีเทคนิคการแสดงมาก่อนเพราะเคยเป็นแอคติ้งโคชของหนังเรื่องเด็กหอ และมีเทคนิคการแสดงดีในเรื่องของการแสดงออกทางอารมณ์ แล้วบทที่ก้อยได้รับเป็นบทที่ไม่ค่อยได้พูดเยอะ คือตัวของฟ้านี่จะพูดเยอะ พูดยังไงใส่อารมณ์ยังไง ของน้ำจะเล่นยากกว่าอีกชั้นหนึ่ง คือพูดอีกอย่างในใจคิดอีกอย่าง ผมว่ามันน่าจะยากนะ แต่ทุกซีนที่ก้อยต้องแสดงออกในลักษณะแบบนี้ ก้อยทำได้ดีมากๆ จนไม่รู้จะพูดยังไง ทุกซีนที่ทำเสร็จคือ เราโชคดีมากที่เจอตัวละคร 3 แบบ สดและมีเทคนิคการแสดงแบบไม่ซ้ำ ผมบอกก้อยเหมือนกันว่า ก้อยพี่ช่วยอะไรก้อยไม่ได้นะ แต่สิ่งที่พี่อยากได้คือ พูดๆอยู่แล้วน้ำตาไหล แต่จะทำยังไงให้น้ำตาไหลแล้ว ไม่ให้ใครรู้ว่าตัวเราเองน้ำตาไหลเพราะความเศร้า ตอนถ่ายเราก็ต้องถ่ายเองอีกแล้ว เพราะมีกล้อง 2 ตัว เราถ่ายเป้อยู่ อีกตัวก็ถ่ายก้อย เราไม่เห็นว่าก้อยแสดงยังไง แต่พอตอนสั่งคัทเสร็จแล้วได้มาดูเทปที่ตากล้องอีกฝั่งถ่าย ตอนก้อยพูดอยู่ แล้วน้ำตามันไหลออกมา มันทำให้ผมรู้สึกทันทีว่า นี่ทุกคนเล่นได้ดีขนาดนี้เลยเหรอ ถ้าเล่นได้ดีคนเดียวจะไม่รู้สึกขนาดนี้เลย แต่นี่เล่นได้ดีทั้ง 3 คน มันทำให้เรารู้สึกว่า นอกจากเขาจะมีความสามารถในการแสดงแล้ว เรายังมีโชคด้วย จะบอกว่าพวกเขาไม่ทำการบ้านก็คงไม่ใช่ เขาต้องทำการบ้านมาเยอะแน่ๆ ผมไม่ได้เช็คว่าเขาทำการบ้านมากันหรือเปล่า แต่สิ่งที่พวกเขาแสดงออกมา คือสิ่งที่เราไม่ได้คาดหวัง แล้วมันก็ออกมาดีเกินคาด นักแสดงเรื่องนี้ดีเกินคาดจริงๆ ฉากของก้อยเป็นฉากที่พีคที่สุด คือเราเคยบอกก้อยว่า หนังเรื่องนี้เศร้าก็จริง แต่ว่าเราไม่ต้องการน้ำตาที่ไหลเป็นห่าฝน เราต้องการหยดเดียวอยู่ เป็นน้ำตาที่เหมือนกับว่าน้ำแบกความทุกข์มานานมาก มันแสดงออกแค่น้ำตาหยดเดียว เป็นหยดที่เจ็บปวดที่สุด หรือเป็นหยดที่ทุกข์ทรมานที่สุด แล้วเขาไม่ต้องร้องไห้ฟูมฟาย แต่ให้น้ำตาพูดแทน นั่นแหละ ก้อยก็มาพูดๆแล้วน้ำตาเขาก็ทำงานแทน เป็นฉากที่เซอร์ไพรส์และประทับใจผมมาก"
โชว์เสียงใสๆอยู่บนหน้าปัดวิทยุมาพักใหญ่ จนใครๆเรียกกันติดปากว่า ดีเจ ก้อย นอกจากความสามารถในการเป็นดีเจและพิธีกรแล้ว ก้อย-รัชวิน ยังมีความสามารถด้านการแสดงฉายแววมาตั้งแต่เริ่มเข้าวงการ ดูจากผลงานที่ผ่านมาคงพอจะบอกได้ว่าเธอเป็นนักแสดงที่ทำงานมาแล้วเกือบทุกอย่าง ไม่ว่าจะละคร ซิทคอม โฆษณา ถ่ายแบบ นักร้อง และ น้ำ คือบทบาทใหม่ล่าสุดของเธอในภาพยนตร์เรื่อง รัก สาม เศร้า คาแรกเตอร์ของน้ำจะเป็นคนนิ่งๆ เป็นผู้หญิงที่ห้าวเล็กน้อย เวลาอยู่กับเพื่อนจะธรรมดา แต่ถ้าอยู่กับคนที่เขาชอบก็จะนิ่งหน่อย และเป็นคนที่เก็บความรู้สึกไว้กับตนเองจะไม่ค่อยเปิดเผยความรู้สึกให้ใครรู้
การร่วมงานกับพี่ต้อม
เป็นครั้งแรกที่ได้ร่วมงานกับ พี่ต้อม ยุทธเลิศ สนุกมาก เพราะนอกเหนือจากเวลาทำงาน พี่ต้อมจะเป็นคนที่ตลกมาก เป็นกองที่สนุกแล้วก็ตลกที่สุด คือทุกคนก็เป็นเหมือนพี่น้องกัน พอถึงเวลาทำงานจริงก็จริงจัง ซีเรียส อาจจะดูดุนิดๆแต่ด้วยความที่พี่ต้อมมีความเป็นวัยรุ่นในใจสูง เลยเข้ากับพวกเราได้ง่าย พี่ต้อมไม่ยอมทำตัวแก่เลย วิธีการทำงานก็เลยง่ายขึ้น สื่อสารกันเข้าใจ ถ้าก้อยไม่เข้าใจก็จะถามทันที ทำให้ไม่ค่อยมีปีญหาอะไรมาก
เคยดูผลงานของพี่ต้อมมาก่อนไหม
ก็เคยหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น บุปผาราตรี กุมภาพันธ์ โกยเถอะเกย์ ซึ่งแต่ละเรื่องก็จะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง จริงๆแล้วพี่ต้อมเป็นผู้กำกับที่มีความเป็นศิลปินสูง มีหลายอารมณ์ คือไม่ใช่แค่มีอารมณ์รัก อารมณ์โรแมนติกอยางเดียว ยังมีอารมณ์ขันอยู่ด้วย นี่คือเสน่ห์ในการทำงานของพี่ต้อมพี่เขาจะถ่ายทอดออกมาในมุมของเขา ทำให้ไม่รู้สึกหวานจนเลี่ยน แต่รู้สึกว่าเป็นความรักที่ซึ้งๆเป็นหนังรักด้านสว่างในรอบ 10 ปีที่พี่เขาอยากทำ พี่ต้อมตั้งใจและทุ่มเทเกินร้อยเปอร์เซ็นต์
ร่วมงานกับเป้เป็นอย่างไร
ด้วยความที่รู้จักกันมาก่อน เลยทำให้การทำงานไหลลื่นมากขึ้น เหมือนได้พูดคุยกันมาก่อนแล้ว เลยรู้สึกเหมือนได้นำเอาความเป็นเพื่อนมาใช้ในหนัง ทำให้เราปรับตัวเข้าหากันได้ง่าย ถ้าเกิดว่าเราต้องเข้าฉากด้วยกัน แล้วมีอะไรไม่เข้าใจก็จะช่วยกัน เลยรู้สึกว่าการทำงานสบายดี
ร่วมงานกับพีคเป็นอย่างไร
เคยดูผลงานน้องใน สายลับ จับบ้านเล็ก มาก่อน ซึ่งตอนนั้นเราก็จะติดภาพความเป็นน้ำปั่นของเขา แต่พอมาเล่นเรื่องนี้ต้องเป็นสาวเซอร์ ซึ่งแตกต่างจากน้ำปั่นมาก แต่น้องเขาก็ทำได้ดี การร่วมงานกันก็ไม่มีปัญหาอะไร ส่วนใหญ่เราจะรวมตัวกันเม้าท์และกินขนมในกองถ่ายตามประสาสาวๆ
เตรียมตัวก่อนถ่ายทำอย่างไร
เตรียมตัวค่อนข้างเยอะ เช่นเรื่องของทรงผม จากที่เคยไว้ผมยาวก็ต้องตัดสั้น นี่เป็นครั้งแรกที่ตัดผมสั้นขนาดนี้ ในส่วนของการทำงานก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับผู้กำกับและวิธีการแสดงที่ผู้กำกับต้องการ อาจจะแตกต่างจากที่เคยเล่นมาเพราะพี่ต้อมจะเป็นคนที่ชอบอะไรน้อยๆ เล็กๆ คือพี่เขาจะพูดอยู่เสมอว่าไม่ต้องแสดงอารมณ์เยอะ เอาให้น้อยที่สุด ซึ่งบางทีเราอิน จนทำให้อารมณ์มันเยอะเกินไป ก็เลยต้องปรับให้ลดลงเพื่อให้พอดีกับสิ่งที่พี่ต้อมต้องการ
ต้องเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง
ต้องปรับและเปลี่ยนเยอะเพราะเป็นการรับบทนำครั้งแรกและตัวละครค่อนข้างที่จะห่างไกลจากตัวเรา น้ำเรียนอยู่มัณฑศิลป์ ม.ศิลปากร เราก็ต้องไปศึกษาว่าเด็กมัณฑศิลป์ใช้ชีวิตกันยังไง แต่งตัวยังไง มีทัศนคติยังไง รวมถึงการทำความเข้าใจบท บทเราก็จะอ่านซ้ำไปซ้ำมาเพื่อให้เข้าใจและรู้สึกเป็นตัวละครนั้นให้ได้จริงๆ คือเราต้องตัดความเป็นตัวเองไปค่อนข้างเยอะ เลยต้องทำการบ้านหนัก ถ้ามีตรงไหนไม่เข้าใจก็จะถามพี่ต้อมทันที
ฉากที่พายุ สารภาพความในใจกับฟ้า
ก่อนหน้านั้น ฟ้ากับน้ำ อยากจะพิสูจน์อะไรบางอย่างกับพายุ ก็เลยเรียกพายุมาที่โรงพยาบาล เป็นจุดเริ่มต้นให้ฟ้าถามพายุว่า คิดอะไรกับฟ้าหรือเปล่า มีคนเขาอยากรู้ ซึ่งคนๆนั้นก็คือน้ำ พายุก็สารภาพว่าคิด ซีนนั้นเป็นซีนที่ความรู้สึกมันอัดแน่นอยู่เต็มห้อง มันมีความอึดอัด และกดดันเกิดขึ้น ฟ้าตั้งคำถามขึ้นเพราะแค่อยากถามๆดู แต่ไม่ได้คิดอะไร ในขณะที่พายุก็บอกความรู้สึกจริงๆกับฟ้า ในขณะเดียวกันน้ำก็รอลุ้นอยู่ว่าพายุจะคิดอะไรกับฟ้าจริงๆหรือเปล่า ทันทีที่พายุสารภาพกับฟ้าหัวใจของน้ำตกไปอยู่ที่ตาตุ่มแล้ว มันพูดอะไรไม่ออก เพื่อนที่เราแอบชอบมาตลอดก็แอบชอบเพื่อนเราอีกที มันเป็นสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เหมือนกับว่าขณะที่เราได้ยินพายุสารภาพกับ ฟ้า ใจมันหายไปเลย เหมือนโลกทั้งโลกมันหยุดนิ่งและเราก็ไม่สามารถแสดงความรู้สึกอะไรออกมาได้เลย ทำได้ก็แค่ยืน นิ่ง เงียบ ตอนนั้นเราก็ยังไม่แน่ใจว่า ฟ้า จะรู้สึกอะไรกับพายุหรือเปล่า คือสถานการณ์ตอนนั้นทั้ง 3 คน ก็ตกใจ ฟ้าเองก็ไม่คิดว่าพายุจะรู้สึกอะไรกับฟ้า น้ำเองก็ไม่คิดว่าพายุจะชอบฟ้าขึ้นมาจริงๆตัวพายุเองก็ไม่คิดว่าตัวเองจะกล้าพูดออกไป มันเป็นความรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของทั้ง 3 คน ในที่สุดน้ำเป็นคนที่ได้สติและบอกให้พายุออกไปจากห้องและหลังจากนั้นน้ำก็ถามฟ้าว่า ฟ้าจะเดือดร้อนอะไรถ้าหากว่าไม่ได้คิดอะไรกับพายุ แต่คำตอบที่น้ำได้รับคือ ท่าทีที่ไม่แน่ใจของฟ้าและสายตาที่เราเห็นความหวั่นไหวของตัวละครตัวนี้ โดยที่ฟ้าไม่ต้องพูดอะไรออกมา แค่นั้นน้ำก็รู้แล้วว่าฟ้ารู้สึกอะไรบางอย่างกับพายุเหมือนกัน
ฉากนี้ยากไหม
ยากมากเพราะมันเป็นซีนที่ถ้าใครเจอสถานการณ์อย่างนี้ เชื่อว่าคงเข้าใจว่ามันรู้สึกยังไง มันพูดไม่ออก ทำอะไรไม่ถูก แล้วเราก็ไม่สามารถแสดงความรู้สึกของเราออกไปได้ เราต้องเก็บความรู้สึก กดมันไว้ให้ลึกที่สุด และใช้ความมีสติของเราเป็นที่ตั้ง บางทีมันก็ยากกว่าการแสดงอารมณ์ออกมาตรงๆ ก็เป็นอีกหนึ่งซีนที่ค่อนข้างยากพอสมควร อีกซีนที่ยากก็คือซีนที่น้ำและฟ้าได้พูดความรู้สึกจริงๆที่มีต่อกัน เพราะที่ผ่านมาน้ำกับฟ้าไม่เคยพูดความรู้สึกออกมาเลย ต่างคนต่างไปคิดเองว่าอีกคนหนึ่งจะรู้สึกยังไง พอได้มาเปิดเผยความรู้สึกต่อกัน มันจึงมีหลายสิ่งหลายอย่างพรั่งพรูออกมา แต่มันก็แสดงถึงมิตรภาพของเพื่อน และได้พบว่าทั้ง 2 คน รักกันมาก คนดูจะได้เห็นว่ามิตรภาพของฟ้ากับน้ำที่รักกันและก็พร้อมที่จะเสียสละให้กันเป็นอย่างไร ถึงแม้ว่าจะจบด้วยน้ำตาแต่ก็เป็นน้ำตาของความซาบซึ้งใจมากกว่าความเศร้า
ความเศร้ามีอยู่หลายรูปแบบ แต่ รัก สาม เศร้า เป็นความเศร้าแบบซึ้งๆ หลายคนอาจจะมองว่าต้องจะต้องซึ้งจนน้ำตาท่วมจอแน่ แต่ก้อยเชื่อว่าในความเศร้ามันมีรอยยิ้มเจอปนอยู่ พอดูหนังเรื่องนี้จบคุณจะรับรู้ได้ถึงความอบอุ่บระหว่างเพื่อน รวมถึงมิตรภาพที่ยิ่งใหญ่ของความเป็นเพื่อนด้วย
ถ้ามี รัก สาม เศร้า เกิดขึ้นในชีวิตจะทำอย่างไร
ถ้าเกิดขึ้นจริงเราคงยินดีที่จะให้เพื่อนของเรามีความสุข ถ้าเขา 2 คนจะรักกันเราก็ไม่ควรไปขวาง
ก้อยเป็นคนที่ค่อนข้างประนีประนอม แล้วก็รู้สึกว่าความสัมพันธ์แบบ สาม เศร้า
มันเป็นความสัมพันธ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ถ้าไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเดินออกไป
ความสัมพันธ์มันก็คงคาราคาซัง ไม่มีความสุข ไม่มีประโยชน์
เพราะว่าสุดท้ายความรักมันก็เป็นเรื่องของคน 2 คน ต้องมีคนหนึ่งที่ยอมเจ็บ ถ้าเราเป็นคนเดินออกไปแล้วเราทำให้อีก 2 คนมีความสุขกับเรื่องที่เกิดขึ้นเราก็ควรจะทำ
ประวัติ
เกิดวันที่ 18 มกราคม 2527
พี่น้อง 3 คน (มีพี่สาว 2 คน)
การศึกษา ปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย
น้ำหนัก 42 กิโลกรัม
ส่วนสูง 163 เซนติเมตร
เริ่มเข้าวงการ ปี 2545
ผลงานที่ผ่านมา -พิธีกรรายการ Teen Center
-ถ่ายแบบนิตยสาร
-โฆษณารังนก สกอต
-โฆษณา ทวิสตี้ ฯลฯ
-มิวสิควีดีโอเพลง หรือแค่ขำๆ ของ เป็ก ผลิตโชค
-ละครชิทคอม เรื่อง บ้านนี้มีรัก
-ภาพยนตร์เรื่อง เขาชนไก่
-DJ คลื่น FAT Radio
-พิธีกรรายการ C U 2
-อัลบั้ม School Of Lucks (Lucks Music999) |