เป้ กับ สาม เศร้า ในชีวิตจริง
เศร้า ที่ 1 T_T เศร้า...ถ้าต้องเสียคนรัก หรือ ของที่เรารักไป
เศร้า ที่ 2 T_T T_T เศร้า...เมื่อทำในสิ่งที่ต้องการไม่ได้ เช่น เล่นคอนเสิร์ตได้ไม่ดี
เศร้า ที่ 3 T_T T_T T_T เศร้า...เมื่อคนที่เรารักเสียใจ เขาเสียใจเราก็เสียใจด้วย
ผู้กำกับยุทธเลิศ : ผมเริ่มต้นจากการหาตัวพายุ พระเอกของเรื่องก่อน ซึ่งก็ได้ เป้ อารักษ์ มารับบทนี้ เขามีบุคลิกภายนอกตรงกับตัวละครที่ผมเขียน และหลังจากมีโอกาสได้ดูผลงานการแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกของเขา คือ บอดี้
ศพ # 19 ผมรู้สึกว่าคนนี้คือ พายุ ในแบบที่ผมอยากจะให้เป็น
"เห็นเขาเป็นยังไงก็เป็นอย่างนั้น คือไม่ได้มีมุมลึกลับหักมุมอย่างที่คิด ซึ่งมันเป็นคาแรคเตอร์ที่ดูง่าย และเหมาะกับคนที่ชื่อพายุ เวลาทำงานด้วยกันเขาก็เป็นอย่างนั้น คืออะไรก็ได้แต่เป็นคนที่ตั้งใจทำงาน สนใจงานมาก เขาเล่นหนังเรื่องนี้ไม่เคยเกิน 3 เทค ส่วนใหญ่แค่ 2 เทค นอกนั้นเทคเดียวผ่าน ไม่รู้ว่าเล่นเรื่องแรกกี่เทค แต่พอมาเล่นเรื่องนี้เขาทำการบ้านมาดีมาก จังหวะแม่น สิ่งที่พูดกับสิ่งที่คิดตรงกัน มีอารมณ์เป็นธรรมชาติ ถือว่าเขาถ่ายทอดได้ดีมาก"
เป็นหนุ่มนักดนตรี หน้าเซอร์ ขาเดฟ (มาก) แห่งวง Slur ได้ไม่นานอนุภาพความหล่อก็พุ่งตรงเข้าตาผู้กำกับจนถูกฉกตัวมารับบทนำในภาพยนตร์เรื่องแรก บอดี้..ศพ#19 และด้วยความสามารถทางการแสดงที่มาแรงพอๆกับความสามารถด้านดนตรีบวกกับคาแรคเตอร์ที่เซอร์โดนใจเด็กแนว และโดนใจผู้กำกับแนวๆอย่าง ต้อม-ยุทธเลิศ เข้าอย่างจัง เขาจึงถูกเลือกให้รับบท พายุ หนุ่ม มัณฑนศิลป์ อารมณ์วู่วาม ที่รักการเล่นดนตรี และมีใจให้เพื่อนรัก ในภาพยนตร์เรื่องที่ 2 ของเขา รัก สาม เศร้า ผมรับบท พายุ นักศึกษาศิลปากรที่เพิ่งจบ เป็นคนนิ่งๆ ชอบเล่นดนตรีและรับจ๊อบเล่นตามผับ พายุแอบชอบฟ้า ตั้งแต่ตอนเรียนอยู่คณะเดียวกัน แต่ฟ้ามีแฟนที่คบกันมานานอยู่แล้วหลังจากเรียนจบมีเหตุการณ์ที่ทำให้พายุตัดสินใจบอกความในใจกับฟ้า และการตัดสินใจของเขาทำให้เกิดเรื่องราวต่างๆขึ้นมากมาย
การทำงานกับพี่ต้อม
ตอนเจอกันครั้งแรก ผมก็เกร็ง แต่พอทำงานด้วยกันไปเรื่อยๆพี่ต้อมเป็นคนตลกมาก การโค้ชของเขาคือไม่ได้โค้ชหน้ากอง แต่จะมาโค้ชโดยการตั้งวงคุยกันก่อนเข้าฉากมากกว่า พี่ต้อมก็จะบอกว่าตัวละครตัวนั้นเป็นแบบนี้ แบบนั้น พอเริ่มถ่ายพี่ต้อมจะเป็นคนเครียดๆและดูเป็นคนดุมากคนหนึ่ง แต่ทุกคนในทีมที่เคยทำงานมาด้วยกันก็จะเข้าใจและเกรงใจพี่ต้อมมาก พอสั่งคัตท์ พี่ต้อมก็จะกลับมาตลก เฮฮาเหมือนเดิม การทำงานก็สนุกมากครับ
ร่วมงานกับพีคเป็นอย่างไร
น้องพีคดูภายนอกเหมือนจะเซ็กซี่ แต่ความจริงแล้วน้องเขาเด็กมาก ช่างพูด ช่างคุย ร่าเริงสดใส เป็นคนน่ารักโดยธรรมชาติ บางครั้งเวลาเข้าฉากก็มีตื่นเต้นบ้าง แต่เขาแสดงเก่งมากครับ ตั้งใจทำงานและตรงเวลามาก
ร่วมงานกับก้อยเป็นอย่างไรบ้าง
เขาเป็นคนตลกโดยธรรมชาติอยู่แล้ว ทำงานด้วยแล้วไม่เครียดสบายๆ ฉากไหนที่ผมเล่นไม่ได้เขาก็จะคอยแนะนำตลอด แต่พอเวลาเขาเล่นไม่ได้ ผมจะคอยแกล้งจนถูกไล่ให้ไปไกลๆตลกดีครับผมชอบกวนเวลาที่เขาต้องใช้สมาธิ
พายุ กับ เป้ ต่างกันตรงไหน
เป้จะพูดจายิ้มๆและชอบหัวเราะ แต่พายุจะพูดจาแบบนิ่งๆขรึมๆหน่อย คือมองภายนอกคล้ายกัน แต่ถ้าได้คุย 2 คนนี้ต่างกันมากครับ
แสดงหนังเรื่องนี้ต่างจากเรื่องก่อนอย่างไร
ต่างจากเรื่อง บอดี้..ศพ#19 มาก เพราะว่าเรื่อง บอดี้ฯ ถ่ายเหมือนฮอลลีวู้ด เล่น 20-30 ครั้ง คือเวลาถ่าย กล้องจะรับหน้า รับข้าง รับบนหัว รับใต้ตัว คือซีนหนึ่งก็จะใช้เวลาเยอะมาก แต่เรื่อง รัก สาม เศร้า ถ่ายทำแบบยุโรป สวีดิช กล้องจะนิ่งๆ รับหน้า มุมกว้าง มุมแคบ จบ แต่ว่าคาแรคเตอร์ในเรื่อง บอดี้ฯ จะเป็นตัวผมมากกว่าถึงจะยากเพราะมีฉากที่ต้องแสดงอาการกลัวค่อนข้างเยอะ แต่ผมกลับรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนพูดจาแบบนั้น ในขณะที่พายุจะพูดจาอีกแบบหนึ่ง และ รัก สาม เศร้า จะเน้นที่คำพูดและสายตามากกว่าผมจะจับอารมณ์ของพายุได้จากวงสนทนาของพี่ต้อมมากกว่าอยู่หน้าเซ็ทเพราะพี่ต้อมจะไม่ได้โค้ชอะไรมาก ขอแค่พูดให้ถูกเล่นให้ถูกก็พอ พี่เขาจะคมมากเขารู้ว่าจะตัดต่อยังไง ถ่ายทำแค่ไหน
เตรียมตัวก่อนมารับบทพายุอย่างไร
อ่านบทและทำความเข้าใจหลายรอบมาก เพราะเรื่องนี้ไม่มีการ เวิร์คชอป ไม่มีแอ็คติ้งโค้ช ด้วย ใช้วิธี เวิร์คชอป โดยการเรียกไปนั่งคุยกันเรื่องทั่วๆไป ซึ่งก็ไม่เกี่ยวกับบทเท่าไหร่ แต่มันโอเคนะ พอเราเข้าใจว่าพายุมันพูดจาอย่างนี้ รู้สึกแบบนี้ ทำให้เราทำงานง่ายขึ้น บทมันไม่โหดร้ายอะไรมากมันอยู่กับความจริงมากกว่า
ต้องไปม.ศิลปากรเพื่อดูชีวิตของนักศึกษาที่นั่นหรือเปล่า
ไม่ต้องดูเลยครับ ผมมีเพื่อนอยู่ศิลปากรเยอะ และผมก็เคยไปเที่ยวเล่นที่ศิลปากรบ่อย ตอนถ่ายทำ ผมยังไปนั่งเล่นที่หอเพื่อนที่เป็นเด็กศิลปากรเลย ก็เลยไม่ต้องศึกษาอะไรมาก ผมรู้อยู่แล้วว่าพวกเขาใช้ชีวิตกันยังไง
เคยดูผลงานของพี่ต้อมที่ผ่านมาบ้างไหม
ดูทุกเรื่องครับ ยกเว้นหนังผี (บุปผาราตรี) ผมดูตั้งแต่มือปืนโลกพระจันทร์ ที่จี๊ดสุดคงเป็นเรื่องกุมภาพันธ์ เป็นหนึ่งในหนังไทยที่ผมชอบมากที่สุดเรื่องหนึ่ง สุดยอดจริงๆ
ได้ร่วมกับพี่ต้อมรู้สึกอย่างไร
พอรู้ว่าจะได้ร่วมงานกันก็ดีใจมากครับ พอเจอครั้งแรกก็ตื่นเต้นมาก แต่พอถ่ายทำเสร็จแล้วก็อยากร่วมงานกับพี่ต้อมอีก พี่ต้อมและทีมเขาโปรฯมาก ทุกคนจะเหมือนมือขวาของพี่ต้อมทุกคน สั่งอะไรเขาก็จะรู้ฟิวกันหมด ทีมนี้สนิทกันมากๆ เวลาทำงานก็จะสนุกสนาน ความสุขตรงนั้นมันก็เผื่อแผ่มาที่ผมด้วยเพราะพี่ๆเขาเทคแคร์ผมดีมาก
ฉากจูบของ ฟ้า และ พายุ
ฉากนี้ยากมาก เพราะผมไม่เคยจูบใครที่ไม่ใช่คนรัก แล้วก็ไม่เคยจูบกับใครเพราะการแสดงมาก่อน ฉากนี้มันเกิดขึ้นหลังจากที่พายุบอกความในใจกับฟ้าไปแล้ว ฟ้าก็พยายามจะรู้ว่าพายุชอบเขาจริงหรือเปล่า เหมือนเป็นวิธีเช็คความจริงใจของฟ้า ตอนถ่ายก็เขินครับ หลายเทคเหมือนกัน
รัก สาม เศร้า เป็นภาพยนตร์รักเรื่องแรกของผม โดยส่วนตัวผมชอบดูหนังแนวดราม่าอยู่แล้วพอมีโอกาสได้มาเล่นก็ดีใจมาก ผมตั้งใจและทุ่มเทเต็มที่ ที่สำคัญหนังเรื่องนี้เเป็นหนังรักด้านบวกในรอบ 10 ปีของพี่ต้อมด้วย และใครที่อยากดูผมในคาแรกเตอร์ธรรมดาบ้างก็ลองเข้าไปชมกันนะครับ รับรองว่าหนังเรื่องนี้สนุกและซึ้งจริงๆ
ถ้ามี รัก สาม เศร้า เกิดขึ้นในชีวิตจะทำอย่างไร
ผมคงต้องเลือกคนใดคนหนึ่ง คนที่เรารู้สึกดีกับเขามากๆ
ผมจะเลือกคนจากความรู้สึกมากกว่าเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง
อีกคนหนึ่งก็ควรที่จะทำใจให้ได้ ช่วงแรกเขาอาจจะทำใจไม่ได้ แต่เวลาจะช่วยให้ความรู้สึกเขาดีขึ้น
มันไม่ใช่เรื่องโหดร้าย แต่เป็นเรื่องของความรู้สึกที่ต้องอยู่บนพื้นฐานของความจริงมากกว่า
ประวัติ
เกิดวันที่ 2 กันยายน 2527
พี่น้อง 2 คน (มีน้องสาว)
การศึกษา ปี 4 คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยมหิดล
น้ำหนัก 63 กก.
ส่วนสูง 178 ซม.
เริ่มเข้าวงการ ด้วยการถ่ายแบบ
ผลงานที่ผ่านมา -ถ่ายแบบนิตยสาร,
-ถ่ายโฆษณา Cute press,
-มือกีตาร์ วง Slur,
-นักแสดงนำ ภาพยนตร์เรื่อง บอดี้..ศพ#19 |