สนับสนุนโดย สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม Supported by Office of Contemporary Art And Culture ,Ministry Of Culture

หน้าแรก
ข่าว
วิจารณ์
สัมภาษณ์
บทความพิเศษ
รายงานหนังไทยในเทศกาลหนังต่างๆ
รายชื่อหนังสือและบทความเกี่ยวกับหนังไทย
รายชื่อ ที่อยู่ หน่วยงาน
 
รายชื่อหนังเก่า
 
 
 
 

   
วิดีโอคลิป (video clip)
  สหมงคลฟิลม์
  LINK: เรื่องย่อ  ที่มาของไอเดีย  งานดีไซน์เก๋ไก๋  ญี่ปุ่นตะลึง             ลิงค์ทางการ
  สารบัญหน้านี้ : แคแรกเตอร์นักแสดง
   
 

การ คัด เลือก นัก แสดง

หนังเด่น ไอเดียกระฉูด ก็ต้องมาพร้อมกับการคัดเลือกนักแสดงที่ไม่ธรรมดา ผู้กำกับ ภาคภูมิ วงษ์จินดา จึงไม่หยุดคิดที่จะสร้างความแปลก โดยการจัดการคัดเลือกและเฟ้นหานางเอกที่จะมารับบท “ มีนา” ด้วยการเปิดโอกาสให้สาวๆ ที่มีความฝันทั้งหลายได้แสดงความสามารถโดยการส่งวิดีโอคลิปของตนเข้ามาประกวดในโครงการ “ ค้นหาสาวใส นางเอกใหม่ วิดีโอคลิป” ซึ่งภาคภูมิ ได้เล่าถึงที่มาที่ไปถึงคาร์แรกเตอร์นักแสดงนำหญิงว่า

“ สำหรับการคัดเลือกนางเอกของเราต้องมีองค์ประกอบหลายอย่างมาก เพราะว่านางเอกในเรื่องต้องเป็นลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น พ่อเป็นญี่ปุ่น แม่เป็นไทย เพราะฉะนั้นหน้าตาต้องออกทางนั้น ทางญี่ปุ่น อันนี้คือโจทย์แรกที่ต้องหา ส่วนเรื่องของหน้าตาก็ต้องไม่ใช่ผู้หญิงสวยจัดมากนัก เป็นผู้หญิงเงียบๆ ไม่ค่อยพูด ไม่รู้ว่าคิดอะไร มองมาแล้วงงๆ น่าค้นหา คือเราพยายามหาคนที่มีหลายคาแรกเตอร์ พอมีโจทย์อันนี้ก็เลยส่งไปให้ครูโอ๋- เบญญภา บุญพรรคนาวิก แอ็คติ้งโคช เป็นคนช่วยหา ซึ่งเราก็เฟ้นหามาทั้งดารา ทั้งหน้าใหม่ก็มาแคสเยอะมาก ดังไม่ดังเอาหมด ก็ยังไม่ได้ที่ถูกใจสักที ”

ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับเฟ้นหาคาร์แรกเตอร์ให้ถูกใจผู้กำกับ แต่ยิ่งไปกว่านี้ ความท้าทายใหม่ที่เข้ามาก็คือโจทย์ที่แคบลงไปอีก

จริงๆ แล้ว เรามีอีกความคิดที่ว่าเราอยากได้นางเอกที่ชาวบ้านชาวช่องไม่รู้จัก เพราะไม่งั้นเดี๋ยวพอหนังออกมาปุ๊บ คนก็จะติดภาพเก่าๆ คาร์แรกเตอร์เก่าๆ เราอยากลบภาพแบบนั้น ซึ่งถ้าเราเอาดาราดังมาเล่น ไม่มีใครเชื่อแน่ๆ เราก็เลยคิดกันว่าเอาดาราใหม่แล้วกัน

จากโจทย์ทั้งหลายที่รวบรวมมา ประกอบกับความยากลำบากที่จะไปพลิกแผ่นดินหาดาวดวงใหม่ชนิดถอดด้ามและตรงคาร์แรกเตอร์ ทำให้ก่อเกิดไอเดียที่น่าตื่นเต้นในรูปแบบของการประกวดที่มี ตำแหน่งนางเอก เป็นเดิมพัน

“ คิดไปคิดมา หรือจะลองใช้วิธีให้คนส่งคลิปมาแล้วมาเลือกดูเผื่อจะเป็นทางออก มันก็เลยเกิดเป็นโครงการจัดประกวดเพื่อคัดเลือกนางเอกขึ้น ซึ่งก็มีคนให้ความสนใจเยอะมาก ส่งคลิปแคสติ้งตัวเองแนะนำตัวเองมาในเว็ปไซด์ หนึ่งในนั้นก็คือน้องน้ำหวานครับ ”

การประกวดครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมส่งคลิปวิดีโอแนะนำตัวเองจำนวนมาก ซึ่งนอกจากการประกวดเพื่อคัดเลือกนางเอก เรายังให้ผู้ชมทางบ้านได้ดูคลิปจากทางเว็ปไซต์ แล้วโหวตให้คะแนนคนที่ชื่นชอบ ซึ่งผู้ที่ได้รับตำแหน่งป๊อบปูล่าโหวตนี้ไปก็คือ น้องฮานอย วาทมาศ เจริญพันธ์ ในขณะที่น้องน้ำหวาน งามสิริ อาศิรเลิศสิริ ก็ได้กลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ของวงการหนังไทยที่คว้าบทนางเอก วิดีโอคลิป มาครอบครอง


“ หวานก็ไม่ได้คิดว่าจะได้หรอกนะคะ เพราะมั่นใจว่ามีคนหน้าตาดีกว่าหวานเยอะมาก แต่สุดท้ายได้รับเลือกก็ดีใจคะ และก็ตื่นเต้นด้วย เพราะไม่เคยเล่นหนังมาก่อน พอได้อ่านบทแล้วรู้สึกว่ามันน่าเล่นมากๆ แต่ไม่คิดว่ามันจะยากขนาดนี้ มีหลายอารมณ์ ต้องเล่นทั้งอารมณ์ที่สดใส คิกขุ อาโนเนะ เป็นตัวเราเอง เพราะเราก็สดใสอยู่แล้ว แล้วก็มีบางครั้งก็ต้องเศร้า ร้องไห้ เสียใจ ซึ่งตัวเราเองก็ไม่ค่อยจะเศร้าเท่าไหร่ แต่นี่แหละคือความท้าทาย ” น้ำหวานกล่าว

กว่าจะเป็น มีนา ที่ตีบทแตก น้ำหวานต้องผ่านการฝึกฝนอย่างหนัก และผู้อยู่เบื้องหลังจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากครูฝึกสอนการแสดง ครูโอ๋- เบญญภา บุญพรรคนาวิก (หรือครูโอ๋ แอ๊คติ้งโคชแห่งบ้าน AF ) ผู้เปรียบเสมือนผู้ช่วยข้างกายคนสำคัญของภาคภูมิ ที่เคยร่วมฝ่าฟันกำกับนักแสดงใหม่มาแล้วทั้งหมด 17 คนใน “ รับน้องสยองขวัญ ”

“ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สองแล้วที่ได้ครูโอ๋ มาช่วยเป็นแอ๊คติ้งโคชให้ ซึ่ง มันก็สืบเนื่องมาจากเรื่องแรกคือ เรา ตีโจทย์เหมือนกัน มองการแสดงเป็นเรื่องของธรรมชาติ ผมจะไม่ไปบล็อกนักแสดง พอโอ๋เข้าใจคอนเซ็ปนี้ ทุกอย่างของเรามันจะไปในมุมมองเดียวกัน เราจะให้เขาเล่นมาจากความรู้สึกนึกคิดจริงๆ อีกอย่างเขาเป็นคนที่มีจิตวิทยา สนิทกับนักแสดงง่าย เพราะเวลาคุยกับนักแสดงหรือสอนนักแสดง เขาทำตัวเหมือนเพื่อน ทำให้นักแสดงไม่เกร็ง และสบายใจ ” ผู้กำกับกล่าว

แม้จะต้องฝึกซ้อมหนัก สำหรับน้ำหวานแล้ว การเรียนการแสดงคือเรื่องที่สนุกสนานทีเดียว เธอได้เล่าให้ฟังว่า “ เรียนการแสดงค่อนข้างหนักคะ พอเรียนหนังสือที่มหาวิทยาลัยช่วงเช้าเสร็จ ปุ๊บตอนเย็นต้องไปหาครูโอ๋ ทุกเย็น ทุกวันจนถึงดึกๆดื่นๆ สนุกดีคะ ชอบครูโอ๋ และวิถีการสอนของครูโอ๋ ตอนแรกๆ หวานคิดว่า การ workshop การเรียนแอคติ้งเนี่ย คือการบอกบทมา แล้วให้เล่นตามบทเราเลย ตามฉาก ตามซีนนี้เลย แต่พอจริงๆแล้วครูโอ๋ไม่ได้สอนอย่างนั้น ครูโอ๋สอนให้เราเข้าใจ ให้เราปรับเปลี่ยนจากน้ำหวานมาเป็นมีนามากกว่า แค่นั้นเราก็สามารถเข้าถึงมีนาได้แล้ว ”


 

จากนางเอกสาวหน้าใหม่ ก็มาถึงบทบาทที่สำคัญอีกบทหนึ่ง นั่นคือบทของ “ เคน ” พระเอกของเรื่อง ตัวแทนของผู้ชายธรรมดาๆ ที่ใช้ชีวิตที่เกี่ยวพันธ์กับคลิปวิดีโอที่มาพร้อมกับความเสื่อมซึ่งไม่ต่างอะไรกับคนในสังคมปัจจุบันที่มีทั้งด้านดีและด้านร้าย และ ต้า บาร์บี้ คือคนที่ได้รับบทนี้ ซึ่งภาคภูมิ ได้กล่าวไว้ว่า

“ เราก็ให้ต้าอ่านบท เขาก็สนใจ ผมก็เลยบอกว่าลองดูๆ คือต้าเค้าเปรียบเหมือนม้าพยศ ดูแล้วมันมีอะไรน่าค้นหา การแสดงของเค้าไม่มีรูปแบบดี เราไม่รู้เหมือนกันว่าเค้าจะเล่นอะไร แต่มองว่าเค้ามีบุคลิกที่มีด้านดีก็ได้ ด้านร้ายก็ได้ มีความเป็นมนุษย์ เป็นคนธรรมดามาก มีทั้งเรื่องรัก เกลียด โมโห เค้าไม่ใช่พระเอกเทพบุตร หล่อ เพอร์เฟ็คก็เลยรู้สึกว่าน่าจะเป็นต้า ที่จะมารับบทนี้ ”

ต้า บาร์บี้ เป็นพระเอกลุคเซอร์อีกคนหนึ่งที่ห่างหายจากวงการภาพยนตร์ไปกว่า 4 ปี หลังจากที่ได้แสดงหนังเรื่องล่าสุด “Fake โกหกทั้งเพ ” ร่วมกับเพื่อนซี้อย่าง ลีโอ พุฒ และเร แม็คโดนัลด์ ดังนั้นวิดีโอคลิปจึงเป็นเหมือนภาพยนตร์เรื่องแรกของต้า บาร์บี้ กับบทบาทพระเอกอย่างเต็มตัว ซึ่งต้า บาร์บี้ ก็ได้เล่าให้ฟังถึงการตัดสินใจรับเล่นภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า

“ ทีมงานแคสติ้งเค้าโทรมาให้ลองมาแคสหนังเรื่องนี้ดู เค้าส่งบทให้ผมอ่าน ผมอ่านบทหนังมาหลายเรื่องนะ บางบทที่เค้าส่งๆ มาก็ยังไม่ถูกใจ แต่บทเรื่อง vdo clip เป็นเรื่องแรกในรอบหลายๆ เรื่องที่อ่านจบแล้วอารมณ์มัน หึหึหึ อ๋อ...อย่างนี้น่ะเอง คือพออ่านจบแล้วรู้สึกว่าเออ ตัวเราสามารถที่จะสวมบทนี้ได้โดยที่ไม่เขิน อ่านจบก็อยากเล่นเลย การตัดสินใจของผมมันก็อยู่แค่ที่ว่า ลองนึกว่าถ้าเราอยู่ในเรื่องนี้เราจะเป็นแบบนั้นได้หรือเปล่า เราจะเขินอะไรไหม พอถึงเวลาถ่ายเราก็มาดูในจอว่า ดูแล้วตัวเราเป็นธรรมชาติไหม แล้วมันจะเล่นต่อไปยังไง”

“ ส่วนคาร์แรกเตอร์ของ เคน จะเป็น ผู้ชายธรรมดาๆ คนนึง มีอาชีพรับซ่อมโทรศัพท์มือถือในร้านมือถือใช้ชีวิตอยู่บ้านคนเดียว ชีวิตไม่ได้หวือหวาอะไร มีเพื่อนฝูงสังสรรค์เฮฮาและเขาก็จะชอบขโมยคลิปมือถือจากลูกค้ามาแจกเพื่อนๆ ชีวิตของเขาก็จะมีทั้งด้านดีด้านเลวเป็นธรรมชาติของคนซึ่งจะมีทั้งส่วนที่เหมือนและแตกต่างจากตัวผมเอง เคนเค้าไม่ค่อยตลก เป็นคนเงียบๆ เรื่อยๆ พูดไม่ค่อยเยอะ แต่ตัวผมเป็นคนที่ คิดอะไรแล้วพูดเลย คิด – พูด ผมกับเคนก็เลยไม่เหมือนกัน แต่สิ่งที่ผมมีเหมือนกันคือ เคนมันมีจิตสำนึกของคนธรรมดาอยู่ ซึ่งผมเองก็มีจุดนั้น มีเหตุและผลอยู่ในตัว ”

ถ้าพูดถึงการเตรียมตัวด้านการแสดง ต้าก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ได้รับการแนะนำด้านการแสดงจากแอ๊คติ้งโคชระดับแนวหน้าของเมืองไทยอย่าง ครูโอ๋- เบญญภา บุญพรรคนาวิก การร่วมงานกันในครั้งนี้ได้จุดพลังและความมั่นใจในตัวของต้า บาร์บี้ พร้อมกับบทบาทใหม่ที่ยอมรับว่ายากและใช้ความสามารถด้านการแสดงมากยิ่งขึ้น

“ ครูโอ๋ช่วยเยอะมากครับ เพิ่งจะเล่นหนังเรื่องที่สองเท่านั้นเอง ผมรู้สึกว่าตัวเองยังใหม่ ครูโอ๋เค้าจะเป็นคนมาจัดระเบียบการแสดงของผมให้เข้ารูปเข้ารอย สมัยก่อนเวลาผมเล่นมันจะดูสะเปะสะปะหลุดง่าย เรื่องนี้ครูโอ๋ก็จะคอยบอกคอยเรียงความรู้สึก เรียงลำดับให้ผมอยู่ตลอด ตั้งแต่ท่าเดินอย่างท่าเดิน และครูโอ๋จะบอกว่าเวลานี้พระเอกคนนี้คิดอะไรอยู่ ทำไม เพราะอะไร แล้วพอคิดแบบนี้แล้วต้องแสดงความรู้สึกออกมายังไง อธิบายให้ผมเข้าใจความหมายว่ามันต้องเล่นมาจากความรู้สึก เอาตัวเราออกไปแล้วเอาเคนพระเอกเนี่ยออกมา บอกแนวทางบอกวิธีให้เราค้นหา ฉากไหนที่เราไม่เข้าใจอารมณ์ของตัวละคร เค้าก็จะคอยทำให้เรามั่นใจว่าเรามาถูกทางหรือเปล่า ซึ่งมันดีมากเลย”

จากสองพระ-นาง ยังมีบุคคลสำคัญอีก 2 ตัวละครที่จะมาร่วมถ่ายทอดในภาพยนตร์เรื่องนี้ นั่นก็คือ ปอ วรฐก์ ปิฏกานนท์ และดีเจโป้ง ณัฏฐพงษ์ แตงเกษม ผู้ที่จะมาเติมสีสันให้กับคาร์แรกเตอร์ด้านมืดที่เกี่ยวโยงและผูกพันกับเรื่องราววิดีโอคลิป ซึ่งผู้กำกับภาคภูมิ วงศ์จินดา กล่าวถึงการคัดเลือกคาร์แรกเตอร์ของทั้งสองคนนี้ว่า


“
เริ่มจากคาร์แรกเตอร์ของอ๊อดก่อน (รับบทโดย ปอ วรฐก์ ปิฏกานนท์ ) ผมมองว่าตัวละครตัวนี้มันเป็นคนมันๆ มีด้านมืด ไม่รู้จักดีชั่วเลย ทุกอย่างหาแต่สิ่งที่ดาร์กตลอด คาร์แรกเตอร์ของตัวก็จะต้องมีรอยสักเยอะแยะไปหมด ซึ่งปอเขามีของเขาอยู่แล้ว ทางครูโอ๋ก็เป็นคนแนะนำมาว่าเอาปอไหม เราก็เลยเออดี ใช่เลย เพราะเค้าจะเยอะอยู่แล้ว เราไม่ต้องมาเสริมสร้างอะไรเลย ทั้งรอยสัก เจาะหู โกนหัวเค้ามีครบหมด แล้ว อีกอย่างในเรื่องอ๊อดก็เป็นดีเจในผับโคโยตี้ด้วย ซึ่งก็ใกล้เคียงกับชีวิตของปอเพราะปอเขาก็ทำดีเจเปิดแผ่นตามผับอยู่แล้ว พยายามเอาคาแร็กเตอร์ของเขามาบวกกับจินตนาการของเรา ผสมผสานกัน โดยผมก็จะไม่ได้บิดปออย่างที่เขาเป็นมากนัก ”

 

“ ส่วนตัวของน้าเก้ง (รับบทโดย ดีเจโป้ง ณัฏฐพงษ์ แตงเกษม ) คาร์แรกเตอร์ค่อนข้างแรงเหมือนกัน ไม่ได้คิดถึงโป้งเลยนะ ตอนแรกอยู่นอกเหนือความรู้สึกมากๆ ห่างไกลจากคาร์แรกเตอร์ที่วางเอาไว้เยอะมาก ซึ่งก็คิดไม่ออกว่าเค้าจะเล่นได้รึป่าว ตอนที่ครูโอ๋เค้าแคสติ้ง เค้าจะมาให้พี่ตัดสินใจ เราก็ โอ้ ! หน้าแบบนี้นะ ! น้าเก้งเรา ไม่ได้ ! (หัวเราะ) ในเรื่องคือ บทแรงมาก ต้องเป็นเจ้าของผับ ที่เป็นป๋าๆ หน่อย แล้วมีเรื่องธุรกิจใต้ดินด้วย ยังไงก็ไม่ใช่ ไม่ใช่จริงๆ จนกระทั้ง โป้งเค้าก็ฝากบอกทางโอ๋มา อย่าเพิ่งตัดสินเค้าอย่างงั้นได้ไหม ขอโอกาสเค้าหน่อย เค้าจะแคสมาให้ดู แล้วเค้าก็ทำเทปแคสมาให้ เค้าก็โมตัวเอง เป็นลุคน้าเก้งเรียบร้อย พอเราเปิดเทปดู เอ้ย ! ได้นี่ งงเลย ยังไม่ได้เจอตัวจริง แต่พอเราเห็นเค้าเล่นให้เราดูแล้วเราชอบเลย รู้สึกดี แล้วก็ไม่ผิดพอมาเล่นจริงๆ ก็ได้อย่างที่เราอยากได้ เค้าตีบทแตก สงสัยตัวตนจริงๆ เค้าเป็นอย่างงั้น ที่เห็นอยู่คงเป็นภาพลวงตา ทำตัวเป็นแอ๊บแบ๊วปากหวาน ”

CAST

เผ่าพล เทพหัสดิน ณ อยุธยา ( ต้า บาร์บี้ )

เคน ผู้ชายธรรมดาที่มีกิเลส ตัณหา ไม่ต่างไปจากผู้ชายทั่วไป เพราะนอกจากการหารายได้ด้วยการเป็นช่างซ่อมโทรศัพท์มือถือแล้วเขายังมีงานอดิเรกยอดฮิต คือการสะสมคลิปหลุดของคนอื่น ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะขโมยคลิปของลูกค้าที่นำโทรศัพท์มือถือมาซ่อม

“ ไม่มีใครไปนึกถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นตามมาถ้าคลิปมันหลุดออกไปสู่สาธารณะ คุณอาจบอกว่าคุณเป็นคนที่ไม่คิดอะไรเลย ไม่แคร์ แต่ที่แน่ๆมันเป็นเรื่องเสื่อมเสียกับความรู้สึกคนแล้วล่ะ เรื่องนี้หยิบมุมบางอย่างของสิ่งที่มันกำลังหมกมุ่นอยู่ในสังคมมาเล่าให้ฟัง เทคโนโลยีสมัยนี้มันตามทันคนหมดแล้ว มือถือมันก็ถ่ายได้แล้ว เรื่องนี้กำลังบอกว่าเทคโนโลยีมันมันพัฒนาแล้ว แต่คนยังใช้ไม่เป็น ยังไม่มีสำนึกในการใช้ บางทีมันก็กลายเป็นดาบสองคมกลับมาทำร้ายตัวเราเอง”

ประวัติ

ต้า บาร์บี้ นักร้องนำขวัญใจวัยรุ่นวงบาร์บี้ ผู้คร่ำหวอดกับวงการเพลงทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลัง ด้วยรูปร่างหน้าตาบวกกับมาดเซอร์ ทำให้ต้ามีโอกาสได้เริ่มงานแสดงร่วมกับเพื่อนซี้ ลีโอ พุฒ และ เร แมคโดนัลด์ ในภาพยนตร์เรื่อง “Fake โกหกทั้งเพ” นอกจากนี้ยังมีผลงานพรีเซ็นเตอร์โฆษณาและงานพิธีกร ปัจจุบันเป็นพิธีกรร่วมในรายการวาไรตี้แหวกแนว กระตุกต่อมคิด “ พุด-ต้า-เร” ของบริษัท ไอดี โปรเจคต์ ที่ออกอกาศทางทีไอทีวี

งามสิริ อาศิรเลิศสิริ (น้ำหวาน)

มีนา นักศึกษาสาว ปี 1 คณะจิตรกรรม ลูกครึ่ง ไทย – ญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ตัวคนเดียวในกรุงเทพฯ ภายนอกเธอคือเด็กผู้หญิงที่สดใส น่ารัก แต่ลึกๆก็แอบซ่อนความอ่อนแอไว้ภายในจนไม่อาจทนต่อสิ่งเลวร้ายที่เข้ามากระทบได้ และเมื่อวันหนึ่งเธอต้องตกมาเป็นเหยื่อของคลิปวิดีโอที่ไม่อาจหาคำตอบได้ แล้วเธอจะรับมือกับมันได้อย่างไร....

“ บทมีนาก็มีทั้งความยากความง่าย มีหลายอารมณ์มากๆ ต้องเล่นทั้งอารมณ์ที่สดใส คิกขุ อาโนเนะ เป็นตัวเราเอง เพราะเราก็สดใสอยู่แล้ว แล้วก็มีบางครั้งก็ต้องเศร้า ร้องไห้ เสียใจ ซึ่งตัวเราเองก็ไม่ค่อยจะเศร้าเท่าไหร่ แต่นี่แหละคือความท้าทาย หวานได้อ่านบทแล้วรู้สึกว่ามันน่าเล่นมากๆ ซึ่งก่อนที่จะถ่ายทำพี่เพื่อนผู้กำกับก็ให้หวานไปเรียนการแสดงกับครูโอ๋ทุกวันถึงดึกๆ ดื่นๆ ช่วงถ่ายทำก็ยังไปเวิร์คชอปอยู่เลย ก็สนุกดีคะ ทำให้เราเข้าใจเรื่องการแสดง และสามารถเข้าถึงคาร์แรกเตอร์ของมีนาได้ ”

ประวัติ

นางเอกสาวหน้าใหม่แกะกล้องที่มาจากโครงการ “ ค้นหาสาวใส นางเอกใหม่ วิดีโอคลิป” ที่ทางทีมงานคัดเลือกผ่านคลิปที่ส่งเข้าประกวดกว่าร้อยคลิป ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่คณะจิตวิทยา ชั้นปีที่ 1 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เคยผ่านการถ่ายแบบลงหนังสือ และงานโฆษณา รวมถึงงานพิธีกรรายการวัยรุ่น

- โฆษณา ทาโร่ - โฆษณาซีเรค ทูน่า - ถ่ายภาพนิ่งโฆษณา แอคคิววิว

- พิธีกรรายการ ”U School” ที่ออกอากาศทางช่องทรูวิชั่น

ณัฏฐพงษ์ แตงเกษม (ดีเจโป้ง)

 

เสี่ยเก้ง หรือ น้าเก้ง เจ้าของผับผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ฉาว หมกมุ่นอยู่กับการสะสมและเผยแพร่คลิปหลุด ความมีอิทธิพลและร่ำรวยทำให้เขาไม่เคยขาดผู้หญิงข้างกายที่พร้อมจะปรนเปรอตัณหาและอารมณ์

“ ผมสวมบทบาทเป็นน้าเก้งซึ่งต้องเป็นเจ้าของผับ เบื้องหลังค้ายา บ้าผู้หญิง หลีสาว ซึ่งตัวผมจริงๆ ไม่ได้เป็นอย่างงั้น ตัวผมเรียบร้อยครับ กล้าพูดนะครับ … แต่ทีแน่ๆ เล่นเรื่องแรกตื่นเต้นครับ เหมือนกับเวลาแบบจีบสาวครั้งแรกเลย โดยเฉพาะเวลาที่ได้เข้าฉากกับสาวๆ เพราะเรื่องนี้ต้องเล่นเป็นแบบเจ้าพ่อ ซึ่งจะมีสาวๆ ในคอนโทรลเยอะ ซึ่งบางคนก็ใส่บิกินนี่..โอ้ว ! ก็สนุกสนานกันไป ก็ถือว่าเป็นบทที่ค่อนข้างมีสีสันมัน ไม่ได้เลวสุดๆ ยังมีด้านของความสนุกสนานมาเจือปนอยู่ด้วยในตัวละครตัวนี้ครับ ”

ประวัติ

ดีเจเสียงหล่อ คารมทะเล้น ผู้โด่งดังจากการจัดรายการวิทยุของคลื่น Hot Wave ในช่วง “ สามแยกปากหวาน” จนกลายเป็นแก๊งค์สามแยกฯ ที่โด่งดัง จนถึงขั้นมีทอร์คโชว์เป็นของตัวเองโดยใช้ชื่อว่า “ สามแยกปากหวานโชว์” นอกจากนี้ยังเคยเป็นพิธีกรอารมณ์ดีแห่ง “Five Life” ทางช่อง 5 ปัจจุบันยังทำงานที่ใช้เส้นเสียงทั้งงานอัดสปอตวิทยุ งานพากษ์เสียง และดีเจประจำคลื่น 89 Banana FM.

วรฐก์ ปิฏกานนท์ (ปอ)

อ๊อด ดีเจเปิดแผ่นตามผับที่บ้าการถ่ายคลิป ดูคลิป รักความสนุกสนาน HAVE FUN เป็นอาชีพ ใช้ชีวิตที่โลดแล่นไปกับความมึนเมาและแสงสียามค่ำคืน ทั้งเหล้า ยา และผู้หญิง การลากสาวๆ กลับบ้านหลังเลิกงานจึงเป็นกิจวัตรประจำวันของอ๊อด รวมถึงการถ่ายคลิปบนเตียงของตนกับบรรดาสาวๆ ไปอวดเพื่อน

“ แม้จะเล่นเป็นดีเจเปิดแผ่นเหมือนตัวจริง แต่นิสัยส่วนตัวของผมเวลาที่ผมทำงานเป็นดีเจผมจะไม่คุยกับใคร ผมจะนิ่งและผมก็จะมิกซ์เพลงจริงๆ ส่วนอ๊อดในเรื่องนี้ จะเจ้าชู้ชอบป้อใส่สาวคนนู้นที คนนี้นี้ แต่ผมไม่เคย ซึ่งผมรู้สึกว่า มันน่าจะมีคนอย่างนี้อยู่จริงๆ เป็นดีเจแล้วชอบเอาสาวกลับบ้าน ถ่ายคลิปไม่ถ่ายคลิปนี่ผมไม่รู้นะ อย่างน้อยมันต้องมี่คนที่คิด เพียงแต่ไม่กล้าแสดงออกเฉยๆ ”

ประวัติ

พิธีกรประจำรายการ Academy Fantasia ที่มาพร้อมกับเอกลักษณ์รอยสักเต็มตัวและยังเป็นผู้อยู่เบื้องหน้าเบื้องหลังของวงการเพลงสไตล์เฮาส์ (เพลงมิกซ์ล้ำๆ ที่มักเปิดในคลับเฮาส์) ด้วยการริเริ่มเปิดค่ายเพลง VooDoo Records ในเครือ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ และออกอัลบั้มเพลงเป็นของตัวเองโดยมีชื่อเรียกในวงการว่า “ ดีเจ กาแลคติก โซว์ ” ปัจจุบันยังใช้ความ สามารถด้านดนตรีมิกซ์เพลงตามผับ และเป็นพิธีกรรายการ Inside News, Stand Up for I Am และ Academy Fantasia ที่ออกอากาศทางช่องทรูวิชั่น

 

   

Everything you want to know about Thai film, Thai cinema
edited by Anchalee Chaiworaporn อัญชลี ชัยวรพร   designed by Nat  
COPYRIGHT 2004 http://www.thaicinema.org. All Rights Reserved. contact: ancha999 at gmail.com
By accessing and browsing the Site, you accept, without limitation or qualification, these copyrights.
If you do not agree to these copyrights, please do not use the Site.