GTH Present ตั๊ดสู้ฟุด ภาพยนตร์ฮาสะท้าน ยักทะจุด-ยุทธจักร แห่งปี พร้อมการกลับมาอีกครั้งของผู้กำกับตลกหน้าเป็น เจ้าของสโลแกนน่าหยิก “ ไม่เอา...ไม่พูด” จตุรงค์ มกจ๊ก หลังจากโกยเถอะโยม ผลงานกำกับภาพยนตร์เรื่องแรก กวาดทั้งรายได้และความนิยมไปแบบลอยนวล วันนี้ จงตุหละ-จตุรงค์ กำลังเนรมิตให้ความใฝ่ฝันและความบ้าคลั่งในการดูหนังเจ้าพ่อมาตั้งแต่อายุ 18 ของเขากลายเป็นความจริงด้วยการหล่อหลอมความมุ่งมั่นที่บ่มเพาะจนได้ที่ ในที่สุด ตั๊ดสู้ฟุด ก็กลายเป็นหนังเจ้าพ่อที่มีดีกรีความสนุกแบบฉุดไม่อยู่และเป็นหนังบู๊ที่ต้องสู้กันแบบสุดตุ๊ด ด้วยฝีมือกำกับภาพยนตร์ที่เข้มข้นขึ้นบวกกับบทภาพยนตร์ที่แปลกแหวกแนว ที่มีทั้งความหวานและความมันจนหลายคนอาจจะขำเคลิ้มไปแบบไม่รู้ตัว งานสร้างที่ยิ่งใหญ่สมจริงของเกาะฮ่องกงย้อนยุคทำให้เข้าถึงอารมณ์เมืองเจ้าพ่อได้อย่างแยบยล จนเกือบลืมคิดไปว่าภาพทั้งหมดถูกถ่ายทำขึ้นในเมืองไทย เสื้อผ้าหน้าผมที่สวยงามอลังการ บทบาทของนักแสดงนำที่สดใหม่แต่ใสกริ๊งจนคาดไม่ถึง และที่ขาดไม่ได้ คือการรวมตัวกันของตลกระดับแนวหน้า ที่รับประกันความฮากันมาแบบครบชุด ไม่ว่าจะเป็น จิ้ม ชวนชื่น , แมค ชวนชื่น , แฮ็ค ชวนชื่น , นุ้ย เชิญยิ้ม , โก๊ะตี๋ อารามบอย , แดนนี่ ศรีภิญโญ และนักแสดงสมทบอีกมากมาย ที่พร้อมจะสร้างความโหดที่แสนฮา ความซ่าที่แสนสวยให้เป็นที่กล่าวขวัญและสะท้านไปทุก ” วิทยายุทธ” เมื่อ “ วิทยาตุ๊ด” แผลงฤทธ
ิ์

ตั๊ดสู้ฟุด : ตำนานตุ๊ดสู้ฟัด

ณ ชุมชนแห่งหนึ่งบนเกาะฮ่องกง ในยุคที่บ้านเมืองแบ่งเป็นก๊กเป็นแก๊ง มาเฟียเดินกันเกลื่อนเมือง ธุรกิจการค้าขายทั้งที่ถูกและผิดกฎหมายถูกกุมอำนาจไว้โดยผู้มีอิทธิพล 3 แก๊ง นั่นคือ แก็งประตูผี แก๊งตรอกโรงเจ และแก๊งมังกรทอง

ความซวยมาบังเกิดกับแก๊งมังกรทอง เมื่อหัวหน้าแก๊งคนเก่าป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ และ อาเต๋าว่าที่หัวหน้าแก๊งคนใหม่โดนอริฟันแขนขาด ขวัญกำลังใจของแก๊งมังกรทองกำลังสั่นคลอน อาคุน พ่อบ้านที่คอยดูแลทุกอย่างในแก๊ง จึงต้องออกตามหา อาเทียน น้องชายที่ถูกแม่แยกไปเลี้ยงตั้งแต่เด็กๆ เพื่อให้มาสวมรอยเป็นหัวหน้าแก๊งมังกรทองแทนอาเต๋า

เรื่องราวคงไม่วุ่นวายถ้าอาเทียนไม่ได้เป็น “ ตุ๊ด”!!!

อาเทียนจะสามารถแอ๊บแมนแล้วลุกขึ้นมาบู๊แอ๊คชั่นได้อย่างอาเต๋าหรือไม่

วิชามวยนารีของอาเทียนจะนำพาแก๊งให้อยู่รอดได้จริงหรือ

แก๊งมังกรทองภายใต้การนำของมาเฟียตุ๊ดจะมีสภาพเช่นไร...

“ แก๊งตรอกโรงเจ” คุมบ่อนไพ่นกกระจอก กำถั่ว และเต๋าปั่น มี อาเฟย ( จตุรงค์ มกจ๊ก ) เจ้าพ่อขาโหดที่ชอบกินแตงโมเป็นชีวิตจิตใจเป็นหัวหน้าแก๊ง

“ แก๊งประตูผี” คุมกิจการร้านเหล้าและหอนางโลมทั้งหมด มี เสิ่นปอ( อาเกรียง – เกรียงศักดิ์ เหรียญทอง ) เจ้าพ่อผู้มีลูกสาวสวยผิดพันธุกรรมเป็นหัวหน้าแก๊ง

“ แก๊งมังกรทอง” คุมตลาดทั้งน้อยใหญ่ มี หม่าหย่งให่( จิ้ม ชวนชื่น ) เจ้าพ่อชราที่กำลังทุกข์ทรมานด้วยโรคอัลไซเมอร์เป็นหัวหน้าแก๊ง

จากโกมเถอะโยย-โกยเถอะโยม จนมาถึง ตั๊ดสู้ฟุด
จงตุหละ-จตุรงค์ หนังของเขาไม่เคยหยุดนิ่ง (แม้กระทั่งชื่อ)

“ ผมคิดจะทำเรื่อง ตั๊ดสู้ฟุด เป็นเรื่องแรก แต่สเกลงานมันใหญ่กว่า เลยคาดว่ายังไม่น่าจะทำได้เพราะเพิ่งเริ่มกำกับหนัง ก็เลยหันมาทำเรื่อง โกยเถอะโยม ไปก่อน เพราะเนื้อหาเป็นเรื่องง่ายๆ เรื่องของชาวบ้านเจอผี แล้วพระมาช่วย สเกลงานมันก็ไม่ใหญ่มากนัก งบประมาณก็น้อยกว่า แต่ตั๊ดสู้ฟุดงบสูงกว่า ทำยากกว่า แต่อยากทำมากกว่า เพราะผมถนัดหนังแนวนี้ เพราะชอบดูหนังจีนมาก ผมเป็นแฟนหนังฮ่องกงมาตั้งแต่มีเครื่องเล่นวิดีโอใหม่ๆตอนนั้นอายุประมาณ 18 ปี ได้ดูเรื่องเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นหนังจีนชุดของฮ่องกงที่ไม่ใช่สไตล์ฟันดาบ แต่นักแสดงในเรื่องจะใส่สูทดูเป็นสากล ผมดูมาแทบทุกเรื่อง อย่างหนังของเฉินหลง หนังของ เจ็ท ลี หนังของ โจว ชิง ฉือ ผมดูหมด ที่สำคัญผมเป็นแฟนทีมพากย์พันธมิตรด้วย เลยอยากทำอะไรที่ไม่เหมือนใคร และเรื่องนี้รับรองว่าไม่มีทางเหมือนใครอย่างแน่นอน เนื้อเรื่องมันเกิดในฮ่องกง นักแสดงทุกคนชื่อจีนหมด ทุกอย่างที่มีในหนังฮ่องกงจะมีอยู่ในหนังเรื่องนี้ไม่ว่าจะเป็นฉากใหญ่ๆอย่างฉากบ่อนคาสิโน ฉากเล่นไพ่ที่พอเปิดไพ่มาแล้วคนที่แพ้หัวเราะก่อน ถ้าใครเป็นคอหนังฮ่องกงก็จะเห็นว่าผมได้รวบรวมเอาสิ่งที่สนุกๆในหนังฮ่องกงมาไว้ในหนังเรื่องนี้ทั้งหมด

หลังจากเขียนบทเสร็จแล้วนำไปเสนอผู้บริหาร GTH ก็อนุมัติ จากนั้นเราลุยทำงานกันอย่างเต็มที่ เรื่องนี้งานโปรดักชั่นค่อนข้างยากเพราะต้องทำให้ตลาดที่ จ.จันทบุรี กลายเป็นบรรยากาศแบบฮ่องกงย้อนยุค ถ้าเป็นแฟลต เป็นอพาร์ตเม้นท์ โลเคชั่นมันยังคล้ายคลึงกับปัจจุบันบ้าง แต่นี่ไม่ได้เลย แทบทุกมุมของฉากหลุดไม่ได้ อย่างบ้านของทั้ง 3 แก๊งในเรื่องคือ แก๊งประตูผี แก๊งมังกรทอง แก๊งตรอกโรงเจ มันก็จะแตกต่างกันทั้ง 3 แก๊ง แก๊งหนึ่งคุมบ่อนการพนัน แก๊งหนึ่งคุม กิจการร้านเหล้าและหอนางโลม อีกแก๊งคุมตลาด ลักษณะของบ้านก็ต้องแตกต่างกัน เราไปได้บ้านอยู่หลังหนึ่ง อยู่แถวเยาวราช ใช้เป็นบ้านของเสิ่นปอหัวหน้าแก๊งประตูผี ที่คุม กิจการร้านเหล้าและหอนางโลม เป็นบ้านสไตล์จีนที่มีเก๋งจีนที่สวยมาก เหมือนกับสถานที่ที่ฝึกวิทยายุทธ รอบๆเป็นบ้านแล้วตรงกลางเป็นสระว่ายน้ำดูสวยไปหมดเลย อย่างฉากในบ่อนคาสิโนก็ได้วังเทเวศน์ ที่เซตข้างในให้เป็นคาสิโนขนาดใหญ่สวยสมจริง เรื่องนี้ภาพมันจะสวยมาก จะไม่มีตั้งกล้องนิ่งๆ ภาพมันจะเคลื่อนไหวตามนักแสดง แล้วนักแสดงจะมีมูฟเม้นท์อยู่ตลอดเวลา เพราะเป็นหนังจีนที่เป็นจีนฮ่องกง จะยืนนิ่งๆแช่ๆไม่ได้ ต้องมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดทั้งเรื่องเลย ตั๊ดสู้ฟุดคือหนังบู๊ตลกที่พลิ้วไหว ”

หนังในฝันและความยากที่ต้องเจอ

“ สำหรับผมสิ่งยากที่สุดเลยก็ตรงที่ต้องทำหนังออกมาให้คนดูเขาชอบ ให้คนดูสนุกไปกับมุขตลกที่เราใส่ไปในหนัง ถ้านักแสดงเล่นไม่ได้จังหวะมันก็ไม่ขำ เพราะฉะนั้นนักแสดงบางคนที่ไม่ใช่นักแสดงตลก เขาก็ไม่ค่อยเข้าใจจังหวะตลก เราก็ต้องทำจังหวะให้มันดี ตรงนี้สำคัญที่สุด โจทย์คือตลก ทุกฉากต้องตลก แล้วถ้าฉากไหนไม่ตลกมันก็ใช้ไม่ได้ ตลกในที่นี้ไม่ใช่ตลกนอกเรื่อง มุขอยู่ในเรื่องหมดแล้ว ฉะนั้นทุกอย่างต้องทำให้เหมือน บางคนทำไม่เหมือนก็ต้องทำให้เหมือน มันยากตรงนี้ แต่ผมก็อยากให้ทุกคนได้ลองเข้าไปสัมผัสหนังตลกสไตล์กังฟูตุ๊ดที่ผมภูมิใจนำเสนอครับ

ปัดหวะ-ประวัติ จตุลูน พลละบง-จตุรงค์ พลบูรณ์

เป็นคนโพธาราม จ.ราชบุรี พ่อ แม่ ขายของตามตลาดนัด เป็นเด็กวัดโพธารามอยู่ 3 ปี เพราะตาบวชเป็นพระ เสาร์ อาทิตย์ ต้องไปช่วยพ่อ แม่ ขายก๋วยเตี๋ยว ถั่วงอก เต้าหู้ เลือดหมู ฯลฯ เมื่อปี 2524 หนีออกจากบ้าน เพราะความลำบากและออกจากโรงเรียนตอน ม.3 เพราะเรียนไม่ได้เรื่อง ตัดสินใจไปอยู่กับวงดนตรีลูกทุ่ง วงศรชัย เมฆวิเชียร ที่กรุงเทพฯ เพราะฝันอยากจะเป็นนักร้อง แต่ได้เป็นแค่หางเครื่อง ทำงานค่าตัววันละ 60 บาท ก็เลยลองฝึกตลกในวง จนได้เป็นตลกสมใจ เริ่มเล่นตลกครั้งแรก จนถึงปัจจุบันครบ 22 ปีเต็ม

ปี 2549 หันมาทำหนังเรื่องแรก คือเรื่อง โกยเถอะโยม ปี 2550 เริ่มทำหนังเรื่องที่ 2 คือเรื่องตั๊ดสู้ฟุด เป็นหนังสไตล์กังฟูตุ๊ดที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการเป็นคนชอบดูหนังมาตั้งแต่เด็กและเป็นคนบ้าหนังจีนมาก เมื่อตอนอายุ 20 ปี ซื้อ VDO ได้เครื่องแรกก็เลยเช่าหนังจีนชุดของเฉินหลง โจชิงฉื่อ มาดู อย่างบ้าคลั่ง ดูเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ก็เลยคิดว่าถ้าได้ทำหนังจะทำหนังจีนแบบเฉินหลง โจซิงฉือ ตอนนั้นคิดเรื่องนี้ไว้แล้วแต่ยังไม่ทำเพราะคิดว่าต้องทำยากแน่ๆเนื่องจากเราไม่เคยทำหนังมาก่อน (เคยแต่เล่น) ก็เลยทำหนังผีตลกที่สเกลงานไม่ยากไปก่อน เลยเป็นที่มาของ โกยเถอะโยม แต่ตอนนี้พร้อมแล้วกับหนังที่ใฝ่ฝันและอยากทำมาตลอดชีวิต คือ ตั๊ดสู้ฟุด

มีหลายสงสัยว่า ผมเป็นตลกมาทำหนังทำไม เป็นกระแส เป็นแฟชั่นหรือเพราะหนังตลกได้เงิน ที่หนักไปกว่านั้นคือคิดว่าผมใช้ชื่อตัวเองเฉยๆจริงๆแล้วมีคนกำกับให้ (น่านคิดกันไปถึงโน้น) คนที่ถามแบบนี้คงคิดว่าหนังเรื่องหนึ่งทำกันง่ายๆจึงไม่อยากไปอธิบายให้เขาฟังว่าหนังเรื่องหนึ่งขั้นตอนเป็นอย่างไรถ้าจะให้อธิบายรายละเอียดคงต้องใช้เวลาเป็นวัน เลยปล่อยให้เป็นไปตามความคิดของแต่ละบุคคล

ปัจจุบันผมยังเป็นนักแสดงตลกอยู่ และจะยึดอาชีพกำกับหนังเป็นอีกหนึ่งอาชีพ ควบคู่ไปกับการเขียนบทหนังให้กับตัวเอง (รับจ้างด้วยถ้ามีคนจ้าง) และอีกหนึ่งอย่างที่ทำแต่ไม่มีรายได้คือ เป็นที่ปรึกษามุขให้กับเพื่อนๆผู้กำกับ นักแสดง ที่อยู่ในวงการ จนเพื่อนๆเรียกผมว่า “ ไอ้บ้าพลังมุข”