สนับสนุนโดย สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม Supported by Office of Contemporary Art And Culture ,Ministry Of Culture

หน้าแรก
ข่าว
วิจารณ์
สัมภาษณ์
บทความพิเศษ
รายงานหนังไทยในเทศกาลหนังต่างๆ
รายชื่อหนังสือและบทความเกี่ยวกับหนังไทย
รายชื่อ ที่อยู่ หน่วยงาน
 
รายชื่อหนังเก่า
 
 
 
 


   

แนะนำนักแสดง

  LINK : หน้าแรกของหนัง
   
 

วิทวัส สิงห์ลำพอง

ชื่อเล่น: บอล
รับบท: ป้อม
เกิด
12 มีนาคม 2531
สูง
178 ซม.
น้ำหนัก
62 กก
การศึกษา 
จบชั้น ม. 6 จากโรงเรียนอัสสัมชัญ ธนบุรี ปัจจุบันเรียนอยู่รามคำแหง ปี 1
งานอดิเรก 
เล่นเกม  สะสมหนังสือการ์ตูน Boom  อ่านหนังสือ  เล่นฟุตบอล  ไอซ์สเก็ต  สเก็ตบอร์ด  ทำอาหาร
ประสบการณ์ - งานโฆษณา ขนมปาร์ตี้ ดินสอสีมาสเตอร์อาร์ต   น้ำมันเครื่องคาลเท็กซ์
       - Magazine Ad. Honda
       - ถ่ายแฟชั่นนิตยสาร Ice, Staff, Grosho, Cheeze, Center Point Magazine

บอล :
หนุ่มฤดูร้อน ที่กลับชอบความหนาว เพราะรู้สึกถึงความโรแมนติก และความอบอุ่นซึ่งกันและกันได้
ช่วงเวลาอากาศเปลี่ยนแปลง เหมือนกับเวลาที่เปลี่ยนไป บางทีเราต้องเลือกอะไรใหม่ๆให้ชีวิตบ้าง
ความรัก คือความห่วงใย สั้นๆได้ใจความ ครอบคลุมทุกอย่าง
เคยแอบชอบรุ่นพี่ แต่ไม่กล้าบอกจนวันหนึ่งตัดสินใจจะบอก ก็สายเกินไป ได้แต่ต้องทำใจ เลือกเพื่อนสนิท เพราะ รักครั้งแรก อาจไม่ใช่สำหรับเราก็ได้

          หนุ่มหล่อโรแมนติก สไตล์เจป๊อบ ที่ชอบดูละครทีวีเพราะติดจากแม่ที่ต้องเปิดทีวีดูละครนอนทุกคืนตั้งแต่เล็กๆ และอยู่ในกลุ่มของชายไม่กี่เปอร์เซ็นต์ที่ติดดูหนังเกาหลีซะจนงอมแงม เพราะความซึ้งกินใจ สะเทือนอารมณ์ และเข้าถึงคนดูได้อย่างสุดยอดนี่เอง หนังเรื่อง THE CLASSIC จึงเป็นหนังในดวงใจของเด็กหนุ่มคนนี้ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก แต่ถ้าพูดถึงความใฝ่ฝันสูงสุดในชีวิต บอลบอกได้เต็มปาก และรวดเร็วชนิดไม่ต้องคิดเลยว่าอยากเป็น” นักร้อง” และไอดอลนักร้องตั้งแต่เด็กๆก็คือ “พี่เจมส์ เรืองศักดิ์” ข้าวมันไก่ของเรานี่เอง เรียกว่าปลื้มชนิดเคยเจอกันแต่ก็ไม่กล้าเข้าไปทัก ได้แต่มองด้วยสายตาที่ปลื้มอยู่ห่างๆ (โถ โถ โถ… น่าสงสารจริงๆ พ่อลิงน้อย)

          ด้วยความที่อยากทำงานในวงการนี้ เลยทำให้เข้ามาแคสงานต่างๆหลายต่อหลายครั้ง ทั้งได้บ้าง ไม่ได้บ้าง และในที่สุดก็เข้ามาแคสหนังเรื่องนี้ เรียกว่าพอแคสเสร็จ หนุ่มคนนี้ก็ไม่หวังอะไรเลย เพราะคนมาแคสเยอะมาก ขนาดมารอแคสตั้งแต่บ่าย 2 ได้แคสตอน 3 ทุ่ม เสร็จก็ปาเข้าไป 4 ทุ่ม คือแคสเป็นคนสุดท้ายของวันนั้นเลย นั่งรอนานมาก จนคนอื่นเค้ากลับไปกันหมดแล้ว (แต่เพิ่งมารู้ความจริงว่าที่นั่งอดทนรอ ก็เพราะไหนๆเสียค่ารถมาแล้วต่างหาก แหม… ความงกเป็นผลจริงๆ)

          และด้วยความถูกชะตาของผู้กำกับ และเป็นเรื่องของความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้ รวมถึงความชอบและสนใจทางด้านดนตรีของบอลเอง จึงทำให้เข้ามารับบท “ ป้อม” ผู้มีความสามารถและช่ำชองในการตีกลองมากถึงมากที่สุด เป็นคนขี้อายมากโดยเฉพาะกับคนที่แอบชอบอยู่ และเป็นคนที่ไม่ค่อยมีจุดมุ่งหมายในชีวิตซักเท่าไหร่ แต่สำหรับตัวตนจริงๆของเค้านั้น ค่อนข้างแตก ต่างอย่างชนิดหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว โดยเฉพาะเรื่องของสาวๆหรือเรื่องของการจีบสาวนั้นไม่เป็นสองรองใคร พักกองเมื่อไหร่เป็นหยิบโทรศัพท์คุยกับสาวๆ สายแทบไหม้กันไป จนมีผู้ให้คำจำกัดความกับหนุ่มคนนี้ไว้ว่า “ ผู้ชายไม่เจ้าชู้ก็เหมือนงูไม่มีพิษ” ซึ่งบอลก็ยึดคตินี้เสมอมา แต่สาวๆทั้งหลายไม่ต้องกลัว เพราะหนุ่มคนนี้บอกมาว่ารักเดียวใจเดียวขอรับ รักคนเดียวแต่อาจชอบหลายคนก็เท่านั้น (อ้าว… เป็นงั้นไป)

          เมื่อต้องมารับบทเป็นคนที่มีอัจฉริยะทางด้านตีกลอง ทั้งๆที่เล่นไม่เป็น ไม่มีพื้นฐานเลย จึงต้องไปฝึกกลองอยู่นาน โดยได้ไปฝึกปรือกับปรมาจารย์ทางด้านกลองอย่าง “ต่อ ซิลลี่ฟูล” ฝึกวิทยายุทธ์อยู่เกือบสองเดือน สัปดาห์ละ 3 วัน วันละ 3 ชั่วโมง หลังเลิกเรียน โดยฝึกตั้งแต่ขั้นพื้นฐานให้แน่น ซึ่งจะเน้นท่าทางมาก ยึดหลักที่ว่า “ แม้ตีไม่ได้ แต่ท่าต้องเท่ห์ แอ็คติ้งต้องได้ไว้ก่อน” จนตอนนี้ถึงขั้นติดใจ คิดเรียนกลองต่ออย่างเป็นจริงเป็นจังเลยซะแล้ว

          จากคนที่ตีกลองไม่เป็นเลย แต่ต้องมาเล่นเป็นคนที่ตีกลองเก่งที่สุดนั้น ถือว่าใจสู้มาก ไม่มีบ่นเลยซักคำ เพราะหนุ่มคนนี้บอกกับตัวเองเสมอว่า “ ถ้าได้รับหน้าที่อะไรแล้ว ต้องทำมันให้ดีที่สุด” เป็นประโยคที่คุณพ่อสอนไว้ตลอด ถึงแม้จะไม่แปลกหรือสวยหรูอะไร แต่หนุ่มคนนี้ก็ทำตาอย่างจริงจังและตั้งใจ เรียกว่าถึงตอนนี้ได้ประสบการณ์ใหม่ๆขึ้นเยอะ ได้มุมมองใหม่ๆมากกว่าการแสดง จนเริ่มติดใจและสน ใจงานเบื้องหลังขึ้นมาซะแล้ว

 

 


ชุติมา ทีปะนาถ

ชื่อเล่น: ต่าย
รับบท: อ้อม
เกิด
14 มีนาคม 2530
สูง
167 ซม.
น้ำหนัก
48 กก
การศึกษา
ม. 6 โรงเรียนเตรียมอุดม
งานอดิเรก 
ดูภาพยนตร์ เล่นเปียโน ฟังเพลง ทำขนม
ประสบการณ
์ .ถ่ายโฆษณา Tros เจล และ ซิตร้า
        ถ่ายแฟชั่นนิตยสาร Seventeen, Cheeze, Knock Knock, ถ่ายมิวสิควิดีโอ เพลงน้ำตาคือคำตอบ วงฟาเรนไฮท์ วงพาย

ต่าย :
สาวฤดูร้อน ที่ชื่นชอบอากาศหนาวเป็นชีวิตจิตใจ เพราะสดชื่น สบายตัว และทำให้หน้าสดใส ช่วงเวลาอากาศเปลี่ยนแปลง นึกถึงเพลง “ ฤดูที่แตกต่าง” ของพี่บอย โกสิยพงษ์ มองความรักเป็นสิ่งสวยงาม ที่ทำให้ชีวิตสดใส มีพลัง ถ้าไม่มีความรักชีวิตจะโดดเดี่ยวและเหงา
เคยแอบกรี๊ดรุ่นพี่ตอนอยู่ม .2 และถึงวันนี้เค้าก็ยังไม่รู้ ว่าเราเคยแอบชอบเค้าอยู่ เลือกรักครั้งแรก มากกว่า เพื่อนสนิท เพราะเป็นคนที่เรารักและอยากจะดูแลเค้าตั้งแต่แรกเห็น

          สาวน้อยสวยใสวัย 19 ที่เคยฝากผลงานให้พอคุ้นๆตากันมาบ้างแล้ว อย่างเอ็มวี เพลง ” น้ำตาคือคำตอบ” ของฟาเรนไฮด์ และเพลง ” เธอก็รู้” ของวงพาย และยังมีโฆษณารวมทั้งงานถ่ายแบบในนิตยสารวัยรุ่นให้พอได้เรียกน้ำย่อยอีกมาก โอ้ว! แล้วจู่ๆ บุพเพก็อาละวาดเข้าจังเบอเร่อ ด้วยความสวยใสบวกกับคาแร็คเตอร์ที่โดนตาโดนใจผู้กำกับเข้าอย่างจัง ถึงกับตาลุกโชนพร้อมเอ่ยด้วยวาจาอารมณ์ประมาณ “ แจ็ค” เจอ ” โรส” ในเรือไทเทนิคครั้งแรกว่า “ เธอคนนี้นี่แหละเป็น” อ้อม” ที่ผมตามหามานาน” หลังจากที่เฝ้าตามหามานานกว่า 2 เดือน และก็ได้เธอมาในแบบวินาทีสุดท้ายจริงๆ

          และแล้วน้องต่าย ผู้มีใจรักดนตรีและพื้นฐานการเล่นเปียโนมาตั้งแต่อนุบาล 3 และไวโอลีนตั้งแต่ตอน ม.1 ต้องมารับบท” อ้อม” ผู้หญิงที่มีบุคลิกซนๆ ไม่ค่อยเรียบร้อย เปิ่นๆ มั่นใจในตัวเอง รักดนตรี แต่กลับมีพรสวรรค์ในการเล่นเพี้ยนทั้งดนตรีและการเต้น ซึ่งตัวตนจริงๆแล้ว” ต่าย” ยืดอกยืนกระต่ายขาเดียวยันว่าตัวเป็นๆของเธอบ้าบอ เพี้ยน และติงต๊องกว่าเยอะ และที่สำคัญเธอ ห้าว โหด ลุย และดิบได้ใจกว่าด้วย แต่ที่เหมือนคงเป็นความปากแข็ง แต่แอบห่วงและใจอ่อนอยู่ข้างในลึกๆ (ผู้ชายทั้งหลายฟังเอาไว้)

          ถึงแม้จะมีพื้นฐานการเล่นดนตรีมาก่อนแต่ด้วยความที่ห่างเหินมานาน จึงต้องทำการเคาะสนิมทำความรู้จักกันใหม่ให้สนิทกันอีกรอบ อย่างไวโอลีน และแม้กระทั่งฉาบก็ต้องเรียนด้วย เพื่อให้รู้ถึงท่าทางและวิธีการจับ และการตีอย่างไรให้เสียงเพราะเสนาะหู เพื่อให้สมกับเด็กที่เรียนอยู่ในโรงเรียนดนตรีจริงๆ รวมทั้งเข้าเวิร์คช็อบการแสดง เพื่อขจัดความอายต่อกันและให้กล้าแสดงออกมากขึ้นด้วย ซึ่งก็ได้ผลจริงๆ เธอมีพรสวรรค์ทางการแสดงมาก เพราะไม่ว่าจะให้ทำอะไรเธอทำได้หมด ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่น่าเกลียดหรืออาจทำลายความสวยเธอลงก็ตาม แถมยังขอเพิ่มความบ้าเสริมความน่าเกลียดเข้าไปด้วยอีกต่างหาก จนผู้กำกับถึงกับส่ายหัว ห้ามกันแทบไม่ทัน แต่ก็แอบยิ้มและคิดในใจว่า “ ทำ ไป ได้” ??

          เรียกว่างานนี้ทุ่มกันสุดตัว ใช้พลังงานไปเยอะ จนพักกองที เธอมีอันต้องรีบจรลี จัดแจงต่อเก้าอี้เพื่อความสบาย หลับมันซะทุกที แต่จะว่าไปเธอก็มีเรื่องที่เครียดหนักหนาอยู่เหมือนกัน เพราะนอกจากจะเครียดเรื่องซีนดราม่าที่ต้องเล่นให้อารมณ์ถึงแล้ว เธอยังกังวลกับความใหญ่ของใบหน้าที่มันจะไปบานเต็มจอเมื่ออยู่ในโรงอีก (อย่างนี้เค้าเรียกว่าสวยคับจอต่างหาก งานนี้หายห่วงผู้กำกับ “ ต้น” รับประ กันความสวยอยู่แล้ว)

          เอาเป็นว่ามาถึงนาทีนี้เธอบอกได้คำเดียวว่าชอบ ถึงเข้าขั้นรักในการแสดงซะแล้ว แม้ว่าช่วงแรกๆจะคิดเพียงแค่ว่าอยากได้ค่าขนมกินเล่นๆเท่านั้น (ซะงั้น …!!?!! )

 

 


ยุวนาถ อาระยานิมิตสกุล
ชื่อเล่น: นาถ
รับบท: ดาว
เกิด 8 มกราคม 2528
สูง 164 ซม.
น้ำหนัก 44 กก
การศึกษา บัญชี อินเตอร์ ปี 3 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
งานอดิเรก ดูภาพยนตร์ ช็อปปิ้ง เล่นไวโอลีน ฟังเพลง ทำคุ๊กกี้
ประสบการณ์ ถ่่ายปกนิตยสาร Bump     ถ่ายโฆษณามิสทีน 

ดาว
สาวฤดูหนาว ที่ติดใจในความเย็นของอากาศยามหนาว เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขและความรื่นเริง
ช่วงเวลาอากาศเปลี่ยนแปลง จะเตรียมพร้อมกับฤดูใหม่ที่กำลังจะเข้ามา
ความรัก คือความรู้สึกมีความสุขที่ได้อยู่ด้วยกัน และถึงแม้จะไม่ได้อยู่ด้วยกันก็มีความสุขที่ได้ห่วงใยกัน
รู้สึกดี ที่รู้ว่ามีคนเคยแอบชอบเรานานถึง 4 ปี โดยที่เค้าคนนั้นไม่เคยบอกเราเลย รู้สึกเศร้าใจที่ต้องเลือก ระหว่างรักครั้งแรก กับ เพื่อนสนิท

          สาวที่ได้รับคำยืนยันจากปากของผู้ชาย(ในกอง)หลายคนว่า เธอเป็นผู้หญิงที่ดูสูงส่ง ไฮโซ และเป็นผู้หญิงในอุดมคติของผู้ชายหลายๆคน เป็นคนไม่ทันมุข น่ารัก ขี้เล่น นิสัยดี เป็นผู้หญิงในแบบฉบับของหญิงแท้ 100 เปอร์เซ็นต์ และที่สำคัญเธอหน้าเด็กมากก (แอบอิจฉา !!! )

          “ ใช่เลย ประมาณนี้เลย ใช่เลย คือเธอแน่นอน…” แล้วเพลงของ” ไท ธนาวุฒิ” ก็ผุดขึ้นมาในหัวของผู้กำกับอย่างกะทันหันทันทีที่เห็นหน้าเธอในปกนิตยสารฉบับหนึ่ง และเมื่อทีมงานได้ติดต่อไป ก็ได้คำตอบที่ทำเอาหัวใจดวงน้อยๆของผู้กำกับแทบสลาย เมื่อทางบ้านปฏิเสธที่จะให้น้องเล่น เพราะกลัวเสียการเรียน อยากให้เรียนหนังสือมากกว่า เราจึงใช้วิชามาร เอ้ย วิชาทางการทูต ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จิตวิทยา ดาราศาสตร์ และวิชาทั้งหลายที่ร่ำเรียนมา งัดมาใช้ในคราวนี้ให้หมด เจรจากันอยู่นานจนในที่สุดทางบ้านก็อนุญาต เพราะแรงยุของญาติ เนื่องจากญาติชอบดูหนังเรื่อง “ แฟนฉัน” มาก พอรู้ว่าเรื่องนี้ผู้กำกับแฟนฉันทำก็เลยอยากให้เล่น และก็ไว้ใจว่ามันต้องออกมาดี

          ในที่สุด ” นาถ” ก็มารับบท ” ดาว” ผู้หญิงที่ร่าเริง เรียบร้อย หวานๆ เป็นคุณหนู แต่เป็นคนที่มีความมุ่งมั่นมาก และก็มีความสามารถทางด้านดนตรีมากโดยเฉพาะไวโอลีน ซึ่งตัวตนจริงๆนั้นเธอก็สามารถเล่นไวโอลีนได้จริงๆ ถือว่าเป็นความบังเอิญมากๆ แต่สิ่งที่ไม่เหมือนนั่นคือ เธอไม่ได้เป็นคนมุ่งมั่น และก็ไม่ได้เล่นไวโอลีนเก่งขนาด “ ดาว” (ถ่อมตัวจริงๆแม่คุณ)

          เธอเคยเรียนไวโอลีนเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว ที่เลือกเรียนไวโอลีนเพราะ มันดูสง่าดี และเครื่องดนตรีก็ดูน่ารัก ดูเป็นผู้หญิง แต่ไม่ได้เรียนต่อเนื่องนัก จึงต้องมาเรียนและฝึกกันใหม่อีกทีเป็นเดือนทั้งที่เรียนกับครูและก็ฝึกเองที่บ้าน ซึ่งแรกๆก็ทำเอาเมื่อยคอไปหลายวันทีเดียว แต่ด้วยความรักในเสียงของมันเลยทำให้ผ่านไปได้อย่างไม่มีปัญหา

          ความยากสำหรับบท ” ดาว” ของเธอนั่นคือ เธอต้องเล่นให้คนดูเชื่อว่าเธอมีความสามารถและเก่งในการเล่นไวโอลีนจริงๆ เพราะทั้งต้องเล่นให้ดูเนี๊ยบ สมจริง และต้องทำอารมณ์ให้คล้อยตามระหว่างที่เล่นให้ได้ เธอจึงต้องสร้างความเชื่อ ต้องพูดกับตัวเอง และต้องรู้สึกให้ได้ว่าเธอเป็นมืออาชีพจริงๆ คือต้องสร้างความรู้สึกให้เป็นตัวละครตัวนั้นให้ได้ และเธอก็ทำได้จริงๆ

 

.

เฉลิมพล ตันติ์ทวิสุทธิ์ (ซ้าย)

ชื่อเล่น: พลุ
รับบท: ฉัตร
อายุ 18 ปี เกิด: 5 ธันวาคม 2530
สูง 172 ซม.
น้ำหนัก 60 กก
การศึกษา จบ ม. 6 บดินทร์เดชา ขณะนี้
   เรียนที่อินเตอร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
งานอดิเรก เล่นฟุตบอล เล่นกีตาร์ และร้องนำ
ประสบการณ์ ถ่ายภาพนิ่งโฆษณาตอนเด็ก

รัชชุ สุระจรัส (ขวา)

ชื่อเล่น: ว่าน
รับบท: เฉด
เกิด: 3 พฤศจิกายน 2532
สูง 175 ซม.
น้ำหนัก 60 กก
การศึกษา ม. 5 โรงเรียนสาธิตปทุมวัน
งานอดิเรก เล่นกีตาร์ มีวงดนตรีชื่อ "หล่อฮั้งก้วย" และเล่นบาสเก็ตบอล (เป็นนักกีฬาของโรงเรียน)
ประสบการณ์ ชนะเลิศการประกวด SYSTEMA OD SMILE IDOL ถ่ายภาพนิ่งโฆษณา Systema, ถ่ายโฆษณา ขนมวอยซ์ และถ่ายมิวสิควีดีโอ เพลงลำพัง ของ Burn.

ว่าน :
หนุ่มปลายฝนต้นหนาว ที่รักฤดูหนาว เพราะไม่ชอบฤดูร้อนและฤดูฝน ช่วงเวลาอากาศเปลี่ยนแปลง เป็นช่วงเวลาของการไม่สบายทั้งกาย และใจ
ขอให้เราเข้าใจ และไว้ใจ เป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับความรัก
เคยมีประสบการณ์แอบชอบสาวแว๊บๆ แบบขำๆ
เลือกรักครั้งแรก เพราะ เพื่อนสนิทเราคิดไว้เป็นเพื่อนตั้งแต่แรกแล้ว

          เป็นเด็กหนุ่มอีกคนที่เข้ามาตามหลักสูตรสากลโลกของการเป็นดาราในประเทศไทย คือตั้งแต่ตอน ม .1 ไปเดินเล่นที่สยามแล้วมีโมเดลลิ่งเข้ามาขอเบอร์ และก็ด้วยฝีมือบวกกับหน้าตาที่ดูขี้เล่น มีสไตล์ ไม่เหมือนใคร ทำให้คว้ารางวัลชนะเลิศการประกวด SYSTEMA OD SMILE IDOL มาครองได้ แต่เอาเข้าจริงๆแล้วหนุ่มคนนี้ฝันอยากชนะการประกวดวงดนตรีซักครั้ง และอยากออกอัลบั้มมากกว่า เพราะตอนนี้ก็พอมีฝีไม้ลายมือในการเป็นมือกีต้าร์ให้กับวงของตัวเองที่ใช้ชื่อว่า “ หล่อฮั้งก๊วย” ร่วมกับเพื่อนๆที่โรงเรียน โดยหวังว่าซักวันจะเก่งอย่าง” พี่แมว จีรศักดิ์ ปานพุ่ม” ที่ตัวเองชื่นชอบนั่นเอง

          แต่แล้วโชคชะตาก็พาให้มาเป็นนักแสดงซะก่อน เพราะหน้าตาที่ผู้กำกับเห็นแค่รูปก็เลือกเลย เพราะหน้าตาน่าสนใจ เตะตาเข้าขั้น แม้ว่าตอนมาแคสแรกๆจะเล่นได้ไม่ดี แข็งและเกร็ง ขนาดเจ้าตัวยังบอกกับตัวเองหลังแคสเสร็จเลยว่า งานนี้แป้วแน่เพราะรู้ตัวว่าเล่นไม่ดี แต่ด้วยความรู้สึกที่เรียกว่า “ โดน” ของผู้กำกับ และเชื่อว่าเด็กคนนี้จะทำได้ “ ว่าน” เลยถูกเข้ามารับบท “ เฉด” อย่างเต็มตัว

          ” เฉด” เป็นคนที่เฮฮาปาร์ตี้ ขำๆ สนุกสนาน ปากปีจอเอามากๆ และรักการเล่นกีตาร์ ซึ่งตรงกับตัวจริงทุกอย่าง และสิ่งนี้ก็เป็นสิ่งที่ทำให้ตัดสินใจรับเล่นหนังเรื่องนี้ คือได้เล่นเป็นตัวเอง และได้เล่นดนตรี เพราะชอบเล่นดนตรีมาตั้งแต่อยู่ม.2 โดยแรกเริ่มได้เรียนกับคุณพ่อ ซึ่งก็สนับสนุนเต็มที่ และไม่นานก็ออกมาเรียนข้างนอกแต่ก็ไม่ชอบระบบการสอน เพราะรู้สึกว่าสอนได้ไม่เต็มที่ จึงกลับไปเรียนกับน้าต่อ แต่เฝ้าบอกกับตัวเองเสมอว่าต้องฝึกอีกเยอะ ไม่ใช่เฉพาะเรื่องการเล่นดนตรีเท่านั้น แต่ยังต้องฝึกเรื่องการคิด เรื่องการ CREATIVE ด้วย

          แม้ว่าจะได้เล่นเป็นตัวเองมากแค่ไหน แต่ก็ต้องทำการเวิร์คช็อพการแสดง ซึ่งว่านไม่เรียกว่าการเรียนแต่เรียกมันว่าเป็นการให้ละลายความอายกันมากกว่า คือเอาความด้านเข้าว่า ทุกคนต้องกล้าทำในสิ่งที่ตัวเองไม่เคยทำมาก่อน ซึ่งจุดนี้ทำให้พอมาเล่นจริงๆกลับได้ผล เพราะเหมือนได้เห็นความน่าเกลียดของคนอื่นและคนอื่นก็ได้เห็นความน่าเกลียดของตัวเองมาแล้ว ก็จะทำให้เล่นได้เต็มที่ รวมทั้งต้องมีไปฝึกกีต้าร์กับพี่ ” ต้น” ซิลลี่ฟูล” ด้วย เป็นการฝึกในเพลงที่ต้องใช้ในหนัง เพื่อให้ดูว่าพี่เค้าเล่นประมาณไหน อารมณ์เป็นอย่างไร

          สิ่งที่ยากที่สุดของหนังเรื่องนี้คือ ทุกครั้งที่ ” ว่าน” ต้องเข้าฉากกับ“ พลุ” ที่แสดงเป็น“ ฉัตร” คู่หู คู่ซี้ในเรื่องเป็นอันต้องเทคเยอะ กินฟิลม์กันอิ่มประจำ เพราะจะหลุดขำ หลุดตลกซะทุกครั้ง และไม่ใช่แค่ซี้กันเฉพาะในจอเท่านั้น ยังตามไปซี้กันถึงนอกจอด้วย ช่วงว่างเมื่อไหร่เค้าทั้งคู่จะจับมือกันโกยอ้าวไปที่เต้นท์ของกิน ทั้งขนมและข้าวกอง ผ่านท้องทั้งสองมาหมดแล้ว แถมผสานสามัคคีกันกวนคนอื่นไปทั่วกองอีก เรียกว่าทั้งกินแหลก ทั้งกวนสะบัด สร้างสีสันปนความแค้นเล็กๆและเสียงหัวเราะในกองได้อย่างดี

 

พลุ - เฉลิมพล ตันติ์ทวิสุทธิ์ รับบท ฉัตร

หนุ่มฤดูหนาว ที่ชอบหน้าฝน เป็นช่วงเวลาแห่งการแต่งเพลง เพราะเย็นสบาย ผ่อนคลาย และมีความสุข
ช่วงเวลาอากาศเปลี่ยนแปลง ภาวนาให้ถึงหน้าฝนช้าๆ เพราะมันเปียก และมันเหงา
“ รัก” คือการ “ ให้” มากกว่าการ “ รัก”
ยึดคติ คนฉลาดมักจะเลือกคนที่เค้ารักเรา ส่วนคนโง่มักจะเลือกคนที่เรารักเค้า แต่ว่าเราจะยอมเป็นคนโง่ เพื่อซักวันเธอจะฉลาดขึ้นมาบ้าง
เลือกรักครั้งแรก เพราะนั่นคือความรัก ส่วนเพื่อนสนิท อยู่แล้วอุ่นใจกว่าที่จะเป็นอย่างอื่น

          เป็นเด็กหนุ่มอีกคนใฝ่ฝันอยากเป็นนักร้อง ด้วยลีลาและเสียงร้องที่หลายคนต่างขนานนามเค้าว่าเป็น “ นภ POP” พร้อมกับพรสวรรค์ที่ติดตัวมาแต่กำเนิดคือการแต่งเพลง โดยแต่งเพลงเองได้ตั้งแต่อยู่ชั้น ม.2 “ พลุ” ถนัดที่จะแต่งเพลงช้า และมักปิดไฟแต่งเพลงตรงระเบียงบ้าน และตอนนี้ก็มีเพลงในครอบครองถึง 15 เพลง ที่ฝันไว้ว่าอยากมีอัลบั้มของตัวเองออกมาเต็มทน และสิ่งแรกที่เค้าจะทำเมื่อโอกาสการเป็นนักร้องวันนั้นมาถึง ก็คือจะร้องเพลง“ ฤดูที่แตกต่าง” บนเวทีคอนเสิร์ตของเค้าเองให้ได้

          และแล้ว ” พลุ” ก็เข้ามาเล่นหนังเรื่องนี้ได้ด้วยความบังเอิญแท้ๆ เพียงเพราะเพื่อนต้องการหาตัวประกอบมาเล่นเป็นวงดนตรีประกวดฮอตเวฟในเรื่องนี้ ก็เลยชวนกันไปแคสเพราะทำวงดนตรีอยู่ที่โรงเรียนอยู่แล้ว โดยคิดจะไปเอาค่าขนมกินกันแค่นั้น แต่กลับกลายเป็นว่าการไปครั้งนั้นเป็นการแคสบท “ เฉด” กับ ” ฉัตร” เลยตัดสินใจลองแคสดู แคสโดยการให้เล่นกีต้าร์ และร้องเพลงจีบสาว วันนั้นหนุ่ม” พลุ” ก็ออกอาการดี๊ด๊าขึ้นมาทันที เพราะเข้าทางเลยจัดเพลง “ เธอสวย” และตามด้วยเพลงที่แต่งขึ้นมาเล่นสดๆให้ฟังกัน

          แล้วด้วยความกล้าและกวนทีนที่ได้ใจผู้กำกับ บวกกับการเข้าขากันได้ดี รับส่งมุข ตบมุขกันได้ เรียกว่าเข้าทางกันระหว่าง “ พลุ” กับ “ ว่าน” งานนี้เลยผ่านฉลุย เข้ามารับบท” ฉัตร” ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก ว่ากันว่า “ พลุ” กับ” ฉัตร” เป็นคนๆเดียวกัน ไม่มีคำว่าแตกต่าง ทุกอย่างเหมือนกันหมด เพราะมีคาแร็คเตอร์ที่เป็นคนกวนๆ เป็นพวกชอบปล่อยมุข สนุกสนานกับเพื่อนๆ และก็ชอบดนตรี นี่แหละคือตัวเค้าเลย “ พลุ” หนุ่มมาดกวน ที่แฝงความโรแมนติกอย่างไร้ที่ติ !

          แต่สิ่งที่หนุ่มคนนี้ค่อนข้างจะกังวลคือ กลัวว่าเวลาคนมองเราแล้วจะคิดว่าเข้ามาเล่นเรื่องนี้ได้อย่างไร ประมาณว่าหน้าอย่างนี้มาเล่นได้ไง (โถ… คิดมากไปได้หนู เค้าไม่เอาความจริงมาพูดกันหรอกจ้ะ… อิอิ) และก็กลัวอีกเรื่องคือ กลัวจะเป็นตัวถ่วงคนอื่นด้วย (ซึ่งข้อนี้ ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เพียงแต่เป็นตัวกินฟิลม์เฉยๆก็เท่านั้นเองจ้า) แต่อย่างไรก็ตาม” พลุ” ก็เล่นเป็น “ ฉัตร” ได้อย่างถึงใจและสมใจผู้กำกับก็แล้วกัน

ย้อนไปข้างบน

 

Everything you want to know about Thai film, Thai cinema
edited by Anchalee Chaiworaporn อัญชลี ชัยวรพร   designed by Nat  
COPYRIGHT 2004 http://www.thaicinema.org. All Rights Reserved. contact: ancha999 at gmail.com
By accessing and browsing the Site, you accept, without limitation or qualification, these copyrights.
If you do not agree to these copyrights, please do not use the Site.