|
ชัยชนะที่ "เคาท์ดาวน์" กับคะแนนโหวตเป็นที่สองจากเทศกาลหนังฟาร์อีสต์ฟิลม์เฟสติวัล และเป็นหนังไทยเรื่องแรกที่ได้รับรางวัลจากเทศกาลหนังแห่งนึ้ หลังจากจัดมากว่า 15 ปีนั้น เป็นอะไรที่ไม่เกินความคาดหวังไว้นัก
บาส-นัฐวุฒิ พูนพิริยะ เดินทางมาพร้อมกับมะเดี่ยวหรือพีช ตั้งแต่เช้าวันพุธที่ 24 เมษายน และตารางแน่นตั้งแต่วันนั้น หนังของเขามีกำหนดฉายเที่ยงคืนของวันนั้น ซึ่งแรก ๆ บาสคิดว่าจะมีคนมาดูน้อย แต่เอาเข้าจริงก็มีคนดูประมาณ 400-500 คนได้ เนื่องจากวันรุ่งขึ้นเป็นวันหยุด และรอบนี้ก็ยังดีกว่ารอบเช้าที่มีคนดูเพียงน้อยนิด
บาสต้องผละอาหารรอบดินเนอร์กลางคันเพื่อมาแนะนำหนัง ขณะที่แขกรับเชิญคนอื่น ๆ ก็ยังคงอิ่มอร่อยกับดินเนอร์รอบดึกต่อไป
ซาบรีน่า ไดเร็คเตอร์เทศกาลถามบาสถึงที่มาของหนังและผลตอบรับในประเทศไทย ซึ่งบาสก็ตอบว่ายังไม่ค่อยได้ดีนัก ซึ่งตรงนี้ผู้เขียนก็เลยแทรกว่า รายได้ก็ไม่ได้เลวร้ายนักหากเปรียบเทียบกับรายได้ทั่วไป แต่อาจจะน้อยไปหน่อยสำหรับบริษัทจีทีเอช |
รอแนะนำ |
ขึ้นแนะนำหนัง (ภาพโดยเปาโล เบอร์ตินี่)
ซาบรีน่าถามหยอดท้ายว่า บาสเคยเจอ "เจซัส" หรือเปล่า เขาก็ตอบว่าไม่เคยเจอ
หนังฉายไปครึ่งชั่วโมง มะเดี่ยวกับพิชก็ตามมาร่วมงาน และในช่วง 90 กว่านาทีของหนังนั้น ไม่มีใครเดินออกเลย และเมื่อหนังฉายจนจบ คนดูส่งเสียงเชียร์อย่างกึกก้องและปรบมือยาว ไม่แตกต่างจากรอบฉายสองทุ่มและสีุ่ทุ่มซึ่งเป็นรอบคนดูเยอะที่สุด
จากนั้นมาก็มีคนเข้ามาขอลายเซ็นกันเป็นแถว
แจกลายเซ็นเนืองแน่น
วันรุ่งขึ้น ตอนเช้าเป็นรอบเสวนา ซึ่งมีมะเดี่ยว และน้องพิชเข้าร่วมด้วย และเนื่องจากผู้เขียนเป็นคนถาม ก็เลยไม่มีอะไรน่าสนใจ (แหะ แหะ) ความจริงจำไม่ได้ว่าถามอะไรบ้าง พอ ๆ นึกได้ก็มี หนังแต่ละเรื่องมันเกี่ยวข้องกับประสบการณ์ส่วนตัวทั้งหมดของคุณ อย่างตัวเฮซุสนั้น คุณเขียนเพราะรู้จักตัวเขา หรือประสบการณ์ความยากลำบากในการทำหนังเรื่องแรก และหนังเรื่องต่อไป ซึ่งบาสก็ตอบว่ายังไม่มีโปรเจ็คใหม่อะไร
แต่ที่น่าสนใจคือมีคนดูถามว่า ตัวละครเฮสุสนี่มาจากตัวเฟร็ดดี้หรือเปล่า บาสก็ปฏิเสธไป
ส่วนตอนบ่ายเป็นการให้สื่อสัมภาษณ์ ซึ่งแรก ๆ เป็นการสัมภาษณ์รวม เนื่องจากคนเยอะ และมีล่ามไทย - อิตาเลียนอยู่ ก็เลยไม่ได้เข้าไปเกะกะให้
ส่วนตอนแยกสัมภาษณ์เดี่ยว คนถามนั้นได้ถามการกำกับ เต้ย-จรินทร์พร เพราะเขาจำได้ว่าตอนเต้ยเล่น หนีตามกาลิเลโอ เป็นอีกแบบหนึ่งเลย
|