|
นอกจากบาส นัฐวุฒิ พูนพิริยะ ที่ได้รับเชิญไปเทศกาลหนังฟาร์อีสต์ฟิลม์เฟสติวัลในปีนี้ มะเดี่ยว ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล ก็ได้หิ้วหนัง Home ความรัก ความสุข ความทรงจำ ก็ได้รับเชิญไปในงานปีนี้ด้วย พร้อมกับน้องพีช วิชญ์วิสิฐ หิรัญวงษ์กุล ที่ได้เดินทางไปร่วมงานด้วย โดยทั้งสามเดินทางมาพร้อมกันโดยสารการบินเดียวกัน
ความจริงแล้ว ทางเทศกาลต้องการฉายหนังเรื่อง โฮม ตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ติดขัดอยู่ที่ว่า ตอนนั้นไม่มีปรินท์เหลือ เนื่องจากหนังฉายในบ้านเราพร้อมกับเทศกาลพอดี
สำหรับมะเดี่ยว นี่เป็นการเดินทางครั้งที่สองหลังจากเคยเดินทางไปเมื่อหลายปีก่อนกับภาพยนตร์เรื่อง รักแห่งสยาม
ส่วนพิชนั้น นี่เป็นการเดินทางไปเปิดตัวผลงานของตนที่ยุโรปเป็นครั้งแรก โดยก่อนหน้านี้เขามีแฟนคลับตามที่ต่าง ๆ ในประเทศที่พูดภาษาจีน และเป็นดาราไทยคนที่สองที่เดินทางมาที่นี่ หลังจากนุ่น ศิริพันธ์ (เปนชู้กับผี)
ทั้งสามเดินทางมาถึงประมาณสิบเอ็ดโมง ได้พักแค่นิดหน่อย แวะทานอาหารกลางวัน พอถึงห้าโมงเย็นก็พร้อมมาเปิดหนังเรื่องโฮม ความรัก ความสุข ความทรงจำ
สิ่งที่ไม่คาดฝันก็คือ มีแฟนคลับจีนในอิตาลี ตามมาหาน้องพิชตลอดทุกวัน ถามน้องพิชว่าพวกเขารู้ได้อย่างไร น้องพิชก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ที่น่าสนใจคือแฟนคลับเหนียวแน่นมาก ตามมาดูหนังตั้งแต่วันแรก 0เข้ามาทักน้องพีช ซึ่งพูดคล่องได้หลายภาษา ทั้งจีน อังกฤษ น้องพิชมาแถลงข่าวก็ตามมา แถมยังมาขอรูปที่ผู้เขียนถ่ายไว้ในคืนเปิดงานมาให้ได้ |
เมื่อถึงเวลาหนังฉาย ซาบรีน่า บาราเซ็ตติ ไดเร็คเตอร์เทศกาลก็ขึ้นเวที ประกาศแนะนำมะเดี่ยว ซึ่งฝรั่งจะรู้จักในนามของแมธทิว มะเดี่ยวมาหนนี้พร้อมกับสูทเข้มตัดเย็บเรียบสวยงาม สีคล้ายกับน้องพีช การเดินทางมาครั้งที่สองของมะเดี่ยว ทำให้เขารู้งาน เมื่อสป็อตไลท์ส่องไปที่เก้าอี้กลางเวที ยืนขึ้นอย่างสง่าผ่าเผย ยิ้มโบกมือให้คนดูอย่างสวยงาม เรียกเสียงเชียร์จากคนดูอยู่ไม่น้อย มะเดี่ยวมีแฟนหนังที่นี่ประมาณหนึ่ง เพราะมีผลงานฉายที่นี่อยู่หลายเรื่อง ตั้งแต่ 13 เกมสยอง รักแห่งสยาม และ โฮม
มะเดี่ยวเริ่มออกเดินขึ้นเวทีไปอย่างมั่นใจ ท่ามกลางเสียงปรบมือต้อนรับ สักพัก ซาบรีน่าก็แนะนำให้รู้จักน้องพีชนักแสดงจากเรื่องนี้มาด้วย แต่ลืมบอกไปว่า น้องพิชเป็นหนึ่งในสองนักแสดงหลักจาก รักแห่งสยาม ทั้งที่ผู้เขียนได้ย้ำไปหลายครั้ง เพราะมีคนจำนวนหนึ่งชอบหนังเรื่องนี้มาก
|
ซาบรีน่าถามถึงผลงานเรื่องนี้ว่าค่อนข้างเป็นหนังส่วนตัวของเขาใช่ไหม มะเดี่ยวได้ย้อนความไปถึงความรู้สึกและประสบการณ์หลังจากที่พ่อเสียชีวิตไป ตอนนั้นเขาได้แต่งเรื่องสั้นของคนรอบตัวมาหลายเรื่อง และเมื่อมารวมกันแล้ว มันก็กลายเป็นธีม ความรัก ความสุข ความทรงจำ ซึ่งสหมงคลฟิลม์ก็ยอมลงทุนในเรื่องนี้ให้ |
ส่วนน้องพิชก็ได้แนะนำสั้น ๆ ว่าเป็นเรื่องของคนเหนือทั้งหมด และเขาเป็นคนแต่งเพลงที่ร้องเพลงในตอนท้ายของเรื่องด้วย
หนังฉายไปตลอด รอบห้าโมงเย็นตอนนั้นมีคนดูร่วม 500 คนได้ สองเรื่องแรก คนยังดูอยู่เต็ม เริ่มออกมานิดหน่อยในตอนสาม ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าเป็นประเพณีท้องถิ่นมาก
|
|
เมื่อหนังฉายจบ |
คนไทยที่ร่วมงาน
แจกลายเซ็น
หลังจากฉายหนังไปแล้ว ทั้งสามคน คือ มะเดี่ยว น้องพีชและบาส นัฐวุฒิ ก็มีโปรแกรมที่จะให้สื่อพูดคุยกับให้สื่อสัมภาษณ์ งานแรกเปิดให้คนทั่วไปฟังได้ ส่วนอันหลังมีเฉพาะสื่อเท่านั้น
งานแรกนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นการพูดคุยเรื่องทั่ว ๆ ไปเกี่ยวกับหนังที่ฉายในงาน การทำงานในฐานะคนรุ่นใหม่ มะเดี่ยวตอบว่าไม่ได้ยากเย็นแล้ว โดยทุกครั้งจะเน้นในสิ่งที่ตนเชื่อและมีความซื่อสัตย์ พร้อมกันนี้ ผู้เขียนได้ถามต่อว่า ตกลงยังจะทำเรื่อง 14 หรือเปล่า เพราะเห็นประกาศว่าจะทำมาหลายปีแล้ว แต่ก็เห็นมีเรื่องอื่นมาคั่นอยู่เสมอ มะเดี่ยวบอกว่ามีแน่นอน แต่ยังต้องเตรียมงานอีกหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องเอ็ฟเฟ็คต่าง ๆ
แฟนคลับพีชในอิตาลี
ส่วนน้องพิชนั้น ผู้เขียนได้ถามว่าเท่าที่ผ่านมา เห็นเล่นแต่หนังของมะเดี่ยว จะมีผลงานอื่นอีกหรือไม่ น้องพิชญ์ตอบว่า กำลังจะมีผลงานกับผู้กำกับอื่นอย่างแน่นอน นอกจากนี้ผู้เขียนถามว่าทำไมถึงมีแฟนคลับจากประเทศอื่น ๆ เยอะ น้องพิชตอบว่าอาจจะเพราะเป็นความเหงาที่รู้สึกร่วมกันของชาวเอเชีย ประกอบกับตนเองก็มีผลงานเพลงในประเทศเหล่านั้นด้วย
สัมภาษณ์รวมและแยก
ก็พอหอมปากหอมคอนะคะ คาดว่าทางเทศกาลก็คงจะเชิญหนังมะเดี่ยวไปฉายอีกต่อไป
|