ขออภัยที่รายงานเรื่องนี้ช้ามาก เดิมว่าจะเขียนให้กับหนังสือพิมพ์ เพราะเทศกาลหนังแห่งนี้เป็นก้าวแรกของหนังไทยไปเมืองนอก แต่ไม่มีใครรู้ ทว่าเมื่อกาลเวลาผ่านไป คิดว่าเขียนเฉพาะเว็บก็เพียงพอ
เทศกาลหนังเมืองน็องค์ มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Festival des 3 Continents อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของปารีส นั่งรถจากเมืองหลวงไปแค่สองชั่วโมง จัดขึ้นเมื่อวันที่ 23-29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
ผู้เขียนมีโอกาสไปร่วมงานเอาสามวันสุดท้าย เพราะติดภารกิจสำคัญที่ปารีส แถมการเดินทางเที่ยวนี้เจอเรื่องวุ่นวายต่าง ๆ ไม่ว่ากระเป๋าไม่มากับไฟลท์ ถูกเอาเครดิตการ์ดไปใช้ ก็เลยยุ่งอีรุงตุงนังนิดหน่อย
ความจริงในช่วงที่ไปปารีสนั้น มีอีกเทศกาลที่เมืองเบลฟอร์ต ซึ่ง Lung Neaw Visits His Neighbours เข้าประกวดด้วย แต่ด้วยข้อจำกัดเรื่องเวลา ก็เลยต้องงดงานนั้นไป
บริเวณที่จัดงานที่จะมีการนำบทวิจารณ์หนังเทศกาลมาลงด้วย
สำหรับเทศกาลหนังเมืองน็องค์ปีนี้ มีหนังไทยเรื่อง แต่เพียงผู้เดียว ของ คงเดช จาตุรนต์รัศมี เข้าประกวดด้วย ซึ่งทางเทศกาลได้เชิญคงเดชด้วย แต่ผู้กำกับของเราติดน้ำท่วม ต้องอพยพไปอยู่ที่อื่น ก็เลยให้ตัวแทนในฝรั่งเศสไปแทน
นอกจากนี้ ยังมีโปรเจ็คหนังเรื่อง Departure Day ของ พุฒิพงศ์ อรุณเพ็ง ได้รับการคัดเลือกไปนั่งเวิร์คช็อบด้วย ซึ่งผู้กำกับของเราก็ได้ไปร่วมเข้าคอร์สกับโปรดิวเซอร์ พิมพกา โตวิระ ด้วย
เทศกาลหนังเมืองน็องค์เป็นเทศกาลหนังเล็ก ๆ มีหนังยาวทั้งหมดประมาณ 60 เรื่อง แยกเป็นสายต่าง ๆ ดังนี้
-
หนังประกวด 10 เรื่อง
-
Out-of-competition 10 เรื่อง
-
หนังสายรีโทรและ Hommageพิเศษต่าง ๆ ปีนี้ก็ม
|
- Nikkatsu หนังแอ็กชั่นญี่ปุ่น
- สดุดีหรือ Hommage ให้กับผู้กำกับเม็กซิกัน Arturo Ripstein
- Hommage ให้กับ Mani Kaulผู้กำกับอินเดีย
|
|
4. หนังสายพิเศษต่าง ๆ เช่น Hero Figure หนังฮีโร่; Streets of Kabul หนังที่ถ่ายบนถนนคาบูลที่แอฟริกา และหนังพิเศษต่าง ๆ
|
หนังใหม่อาจจะมีไม่มากนัก แต่สำหรับคนที่สนใจศึกษาหนังเฉพาะด้านเป็นคอลเล็คชั่น นี่เป็นเทศกาลที่น่าสนใจทีเดียว ผู้เขียนพบว่าการรวมคอลเล็คชั่นเหล่านี้เหมือนกับไปเรียนหนัง โดยเฉพาะความสนใจเฉพาะด้านของตนเองที่อยากดูหนังประเทศใหม่ ๆ ผู้กำกับใหม่ ๆ ซึ่งไม่ได้รับการกล่าวถึงในอดีตหรือในปัจจุบันมากนัก อย่างชื่อผู้กำกับเม็กซิโกกับอินเดียสองคนที่เขานำมาฉายนี้ไง ไม่เคยมีโอกาสได้ดูหนังเขามาก่อนเลยค่ะ ส่วนหนังแอ็คชั่น Nikkatsu นั้น ตัวเองเคยมีโอกาสได้ดูมาแล้วจากเทศกาลหนังอูดิเน่ ที่อิตาลี หนนี้มาดูเพิ่ม ก็เลยทำให้โลกทรรศน์ต่อหนังแอ็คชั่นของญี่ปุ่นกว้างขึ้น
สำหรับหนังอื่น ๆ นั้น โดยเฉพาะหนังสายประกวด เขาเลือกหนังอาร์ตฟิลม์คุณภาพสูง หนัง 10 เรื่องที่ประกวดนั้น ส่วนใหญ่เป็นหนังที่ต้องใช้สมาธิสูงมาก แต่ก็เรียกได้ว่าคุ้มค่าทีเดียว
หนังประกวดได้แถลงข่าวทุกเรื่อง จากภาพเป็นผู้กำกับศรีลังกา กับหนังเรื่อง Flying Fish
น็องค์เป็นเทศกาลที่ให้ความสำคัญกับหนังเอเชียมาตั้งนานแล้ว เรียกได้ว่าก่อนใคร ๆ ในโลกก็ว่าได้ และเทศกาลหนังแห่งนี้แหล่ะที่ให้ความสนใจกับหนังไทยก่อนใคร ๆ ก่อนคานส์ เวนิส ด้วยการนำ แผลเก่า ของคุณเชิด ทรงศรีเข้าสายประกวดเมื่อปี 1981 จนเป็นเทศกาลแรกที่หนังไทยไปคว้ารางวัลจากเมืองนอกเป็นครั้งแรก
.สามสิบปีพอดี
น่าแปลกนักที่พอหนังไทยดังไปทั่วโลก น็องค์กลับมีหนังไทยไปฉายน้อยมาก ทั้ง ๆ ที่ทางคนของเทศกาลได้พยายามสร้างสายสัมพันธ์ ผ่านเทศกาลภาพยนตร์โลกแห่งกรุงเทพ อยู่หลายครั้งหลายครา โดยจัดอบรม Produire Au Sud หนังไทยใหญ่ ๆ จะไปประกวดที่อื่น ขณะที่หนังที่มีพลังน้อยกว่าก็ไม่แรงพอที่จะเข้าประกวด คงได้แต่ไปฉายโชว์เท่านั้น
ด้วยโอกาสนี้ ผู้เขียนจึงตัดสินใจไปเยือนเทศกาลเป็นครั้งแรก แล้วก็พบความน่ารักในความเล็ก ๆ ของเทศกาล ของทั้งเมือง ของทั้งคน
ด้วยความที่มีจำนวนหนังไม่มากนักเพียง 60 เรื่อง หนังแต่ละเรื่องมีโอกาสได้ฉายประมาณ 3-4 รอบ เพราะฉะนั้นการเดินทางไปร่วมงาน 4 วันสุดท้าย โดยขอให้มีวันเสาร์-อาทิตย์ด้วยก็เพียงพอแล้ว เจ้าหน้าที่น่ารักมาก พอรู้ว่าเราจะไป ก็เสนอให้ห้องพักพร้อมรถมารับ แม้ตัวเองจะเป็นคนเฉย ๆ ไม่เข้าหาใคร มารดา่บอกให้รักศักดิ์ศรี ยอมลำบาก ดีกว่าง้อคน แต่เจ้าหน้าที่็ยินดีที่จะช่วยเหลือเราเสมอ อย่างวันสุดท้ายที่เขาฉายหนังชนะรางวัล ผู้เขียนถามว่า หนังที่จะฉายมีซับไตเติ้ลอังกฤษหรือเปล่า ปรากฎว่าเจ้าหน้าที่เดินไปเช็คปรินท์กับห้องฉายเลย แบบนี้ไม่ค่อยเจอกับเทศกาลใหญ่ ๆ ค่ะ
ความน่ารักอีกอย่างของเมืองนี้ก็คือคน คนฝรั่งเศสที่มาเข้าแถวดูหนังด้วยกันนั้นโอบอ้อมอารีมาก คุยภาษาอังกฤษได้ก็คุย คนที่พูดไม่ได้ แต่ก็จิตใจดีเยอะนะคะ มีอยู่ครั้งตอนรอคิวเข้าโรง ปรากฎว่าฝนตก เราก็ต้องยืนอยู่ตรงนั้น ออกจากคิวไม่ได้ ปรากฎว่า คุณป้าคนหนึ่งแกกางร่มอันใหญ่มาก พอ ๆ กับร่มกอล์ฟ แกเห็นผู้เขียนดึงโอเวอร์โคทเข้าตัว เพราะอากาศหนาวและเริ่มไม่สบาย แกก็ทำหน้าเฉย ๆ แล้วเขยิบตัวเข้ามาใกล้เรา เพื่อให้ร่มมาบังตัวเราด้วย
เป็นความดีที่ทำแบบเงียบ ๆ เราก็ได้แต่ขอบใจแกอยู่ในใจ
หนังแต่ละเรื่องมีคนดูอยู่ค่อนโรงจนถึงเต็ม โรงหนังหลักแต่ละแห่งมีที่นั่งตั้งแต่ 100-500 โรง ขึ้นอยู่กับหนังที่ฉาย หนัง แต่เพียงผู้เดียว ของคงเดช ฉายในโรงที่มีประมาณ 500 ที่นั่ง ซึ่งรอบที่ผู้เขียนไปดูนั้นเป็นรอบที่ 4 แล้ว คนดูเต็มโรงเลยค่ะ มีคนมาแนะนำหนัง ซึ่งเป็นตัวแทนในต่างประเทศของหนังชื่อ Pascale แต่ไม่รู้ว่าพูดอะไร เพราะอู้แต่ฝรั่งเศสกัน
คิวรอดู แต่เพียงผู้เพียว
จริง ๆ แล้ว มีข่าวลือมาว่า แต่เพียงผู้เดียว ของคงเดช มีสิทธิ์จะได้รางวัลใดรางวัลหนึ่ง อันนี้ได้ยินมาจากผู้กำกับที่มีหนังเข้าประกวดนี้เอง พอดีตัวเองได้รู้จักเขามาก่อน ด้วยความที่เป็นคนตรง ๆ ทั้งสองฝ่าย ประกอบกับตัวเองเคยแนะนำหนังของเขาไปเทศกาลอื่นจนได้รางวัลมา เขาก็เลยค่อนข้างไว้วางใจ เขาบอกว่า เขาผิดหวังนะ เพราะจริง ๆ แล้ว หนังของคงเดชเรื่องนี้เหมือนกับหนังของคิม คีดุค เรื่องหนึ่ง เรื่องอะไรก็ลืมชื่อแล้ว ซึ่งผู้เขียนจำไม่ได้
คนที่เข้ามาดูหนัง และ Pascale Ramonda ตัวแทนหนังขึ้นแนะนำหนังแทนคงเดช ที่ติดน้ำท่วม
แต่ตอนหลังที่ผู้เขียนมีโอกาสมาเจอน้องกัลปพฤกษ์ เขาบอกว่าคงเดชได้ยินเรื่องนี้ตั้งแต่ที่เวนิสแล้ว แต่เขาไม่เคยดูหนังเรื่องนี้ ...ก็ไม่ทราบล่ะค่ะ แต่ก็รายงานให้ทราบก็แล้วกัน
.สิ่งที่ผู้เขียนชอบ ก็คือ วัฒนธรรมการพูดตรง ๆ ของต่างชาติ ซึ่งอาจจะเอามาใช้ในบ้านเราไม่ได้ ...คงมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะทำแบบนี้ได้
ผลรางวัล ประกาศมาแล้วว่า แต่เพียงผู้เดียว ไม่ได้รับรางวัลไป หนังที่ได้รับรางวัลมีดังต่อไปนี้
-
รางวัลกรังค์ปรีซ์กลายเป็นหนังญี่ปุ่นเรื่อง Saudade โดย Katsuya Tomita
-
รางวัลถ้วยเงิน เป็นหนังจีนเรื่อง People Mountain People Sea โดย Cai Shen
-
จูรี่ไพรซ์ เป็นหนังบราซิลเรื่อง Girimunho โดย Helvecio Marins Jr and Clarissa Campolina ซึ่งได้รับรางวัล Youth Film Jury Award ด้วย
กรรมการดูศักดิ์สิทธิ์มากตอนขึ้นเวที ไม่ได้เล่น ๆ เหมือนอย่างที่ตัวเองเคยเจอ ดังรายชื่อต่อไปนี้
-
Serge Toubiana ไดเร็คเตอร์ของซีเนมาเท็ค ฝรั่งเศส
-
Lolita Chammah ดาราสาวชาวฝรั่งเศส
-
Akosua Adoma Owusu ผู้กำกับกาน่า
-
Ricardo Aronovich ช่างภาพอาร์เจนติน่า
สำหรับหนังโหวตรางวัลมหาชน คือ Policeman โดย Nadav Lapid เป็นหนังอิสราเอล
ถ้าจะมีปัญหาสำหรับเทศกาลนี้ก็คือ หนังบางรอบไม่มีซับภาษาอังกฤษ อย่างตัวเองไปดู Policeman รอบหนังชนะประกวด ปรากฎว่าบื้อไปเลย เพราะพี่มีแต่ภาษาฝรั่งเศส แต่เรื่องอื่น ๆ ก็มีซับนะคะ
สำหรับการเข้าอบรม Produire du Sud เห็นเขาบอกว่าการอบรมดีมาก ดียังไงลองถามทางเจ้าของโปรเจ็ค Departure Day ก็แล้วกันนะคะ
เทศกาลหนังเมืองน็องค์อาจจะไม่ได้ใหญ่โต แต่มันก็เก๋ เท่ อบอุ่น ร่มรื่น สบาย ๆ แบบที่ไม่ควรมองข้ามเช่นกันค่ะ
ภาพ แต่เพียงผู้เดียว จากทางบริษัท |