ไฮโซ ของอาทิตย์ อัสสรัตน์ ได้รับการคัดเลือกไปฉายโชว์ในสาย Forum ที่เทศกาลหนังเบอร์ลินระหว่างวันที่ 10 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้รับความสำเร็จอย่างท่วมท้น เต็มแน่น และคำถามที่น่าสนใจ แตกต่างจากเมื่อครั้งที่ไปโชว์ที่โตเกียวเมื่อปลายปีที่แล้วอย่างเห็นได้ชัด
หนังฉายถึง 5 รอบ โดยรอบแรกเป็นรอบสื่อตั้งแต่วันเปิดงานที่ 10 กุมภาพันธ์เลย ก่อนที่จะฉายตามมาติด ๆ ให้คนทั่วไปดู นั่นก็คือ 11 12 13 กุมภาพันธ์ ซึ่งการจัดฉายทั้งให้สื่อและคนทั่วไปในช่วงครึ่งแรกของเทศกาลนั้น จะให้เฉพาะหนังที่มีความสำคัญ เพราะการซื้อขายในตลาดจะปิดในวันที่ 16 กุมภาพันธ์
หลังจากนั้นก็มีรอบวันที่ 19 กุมภาพันธ์ วันเกือบสุดท้ายของเทศกาลเลย ซึ่งรอบนี้เป็นที่เข้าใจว่าจัดให้กับคนเยอรมันเป็นหลัก
อาทิตย์ อัสสรัตน์ เดินทางไปคนเดียว โดยได้รอบตอบคำถามในรอบวันที่ 11-12-13 กุมภาพันธ์ ซึ่งผู้เขียนเข้าไปสังเกตุการณ์อยู่ 2 รอบ คือ รอบวันที่ 11 และ 13
อาทิตย์กับรอบแรกที่โรงหนัง CineStar 8
โรงหนังทั้ง 2 แห่งจุคนได้ประมาณ 600-800 คน ซึ่งเต็มทั้งสองรอบ ก่อนฉายหนังก็จะให้ผู้กำกับแนะนำหนังอย่างสั้น ๆ ก่อนที่จะมาซักถามกันหลังจากที่ดูหนังจบ ซึ่งที่เบอร์ลินนั้น ถ้าผู้กำกับอยู่ ก็จะร่วมตอบคำถามทุกรอบเท่าที่จะเป็นไปได้
บางคำถามก็จะถามกันแทบทุกรอบ ซึ่งซ้ำกับที่เมื่อครั้งหนังไปฉายที่โตเกียวด้วย อาทิเช่นว่า ทำไมถึงตั้งชื่อว่า ไฮโซ หรือคนไทยกลุ่มไหนจะมาดูหนังเรื่องนี้
คำถามแรกนั้น อาทิตย์ก็อธิบายว่า เวลาดูละครทีวีที่บ้าน จะมีหนังเกี่ยวกับกลุ่มไฮโซในสังคมเยอะมาก เขาอยากนำเสนอไฮโซในมุมมองของเขาที่แตกต่างออกไป
ตัวเขานั้นเติบโตขึ้้นมาในสังคมใหม่ที่คนจะเชื่อมโยงกันทางวัฒนธรรม เพราะโลกเปลี่ยนไป มีการสื่อสารที่เปลี่ยนไปเช่นกัน เมื่อ 50 ปีที่แล้ว คนไทยก็จะเป็นคนไทยล้วน ๆ เป็นสัญชาติ เชื้อชาติไป แต่ในโลกอนาคต เขาเชื่อว่าคนจะเชื่อมโยงกันด้วยคำว่า วัฒนธรรม
สำหรับคนที่จะมาดูหนังของเขานั้น อาทิตย์เปรียบเปรยว่า คนที่จะมาดูหนังอย่าง ไฮโซ ก็คือคนที่ชอบเข้าพิพิธภัณฑ์ในวันเสาร์ อาทิตย์ มากกว่าที่จะไปเดินช็อปปิ้ง
รอบสองที่โรงหนัง Arsenal
คำถามได้โยงไปถึงเรื่องที่ว่าทำไมหนังต้องแบ่งเป็นสองครึ่งนั้น อาทิตย์ตอบว่า ช่วงแรกนั้นตัวละครสองตัว คือ อนันดากับแฟนสาวจากอเมริกานั้นไม่สามารถจะแชร์อนาคตร่วมกันได้ ขณะที่ช่วงครึ่งหลังนั้น อนันดากับนางเอกไทยไม่มีอดีตร่วมกัน
เขาต้องการแสดงให้เห็นความขัดแย้งทางวัฒนธรรมที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาประสบมา บิดาของเขาเป็นคนไทย ขณะที่มารดาเป็นอเมริกัน และเขาเติบโตมาในความแตกต่างของสองวัฒนธรรมนี้ เมื่อมาดำเนินชีวิต บางเรื่องเขาก็คิดว่าเป็นอเมริกันมากไป บางอย่างก็เป็นไทยมากเกินไป
ตรงจุดนี้ พิธีกรถามว่า อะไรที่เขาคิดว่า อเมริกันเกินไป อาทิตย์ตอบยิ้ม ๆ ว่า มันเป็นเรื่องของการสื่อสารผิดพลาด ขณะที่คนดูยกมือขึ้นแสดงความเห็นว่า ในเรื่องราวชีวิตของอนันดากับแฟนสาวชาวอเมริกันนั้น ฉันคิดว่าเธอขี้ขลาด แค่อยากรู้สึกที่จะอยู่ในสังคมใหม่ได้อย่างสบายใจ ไม่ยอมเสี่ยง
ขณะที่คนดูชายอีกคนก็แสดงความเห็นตอนนี้ด้วยมุมมองที่แตกต่างออกไป เขาไม่ได้คิดว่ามันเป็นความแตกต่างทางวัฒนธรรม แต่มันเป็นเรื่องปัญหาความสัมพันธ์ ตัวละครคิดถึงตัวเองมากเกินไป ขณะที่ตัวละครอนันดาเป็นผู้ชายที่ไม่สนใจใคร
อาทิตย์หันไปพูดกับพิธีกรว่า แน่ะ เขาแซวฉันแน่ะ
การแซวระหว่างคนดูกับอาทิตย์เกิดขึ้นอยู่สองสามครั้ง ก่อนหน้านี้ก็มีคนดูชายคนหนึ่งตั้งคำถามที่เรียกสียงหัวเราะขึ้นมาได้ว่า หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องของความสัมพันธ์ ทำไมไม่มีฉากเซ็กส์
อาทิตย์แซวคนดูว่า แซวผมแน่ะ ก่อนจะ์ตอบว่า ตอนแรกที่เขาเขียนบทนั้นมีฉากเซ็กส์ แต่ยอมรับว่าทำยากมาก บางครั้งก็เคยสงสัยว่า ทำไมฮอลลีวู้ดถึงทำได้ง่ายจัง เอาเข้าจริงก็ตัดไปเยอะ I dont have confidence to do it. (ผมไม่ค่อยมั่นใจที่จะถ่ายสักเท่าไร)
ส่วนหนึ่งของคำถามก็จะเกี่ยวข้องกับสถานที่ถ่ายทำ ครึ่งแรกจะเป็นสถานที่ใช้ถ่ายทำ Wonderful Town ขณะที่ครึ่งหลังซึ่งเป็นฉากในกรุงเทพนั้นเป็นสถานที่เดียวกับที่ใช้ถ่ายทำ สวัสดีบางกอก
สำหรับอาทิตย์ เขาให้ความสำคัญกับสถาปัตยกรรมของหนังค่อนข้างมาก เพราะคิดว่ามันน่าสนใจ ตัวเขานั้นจำอดีตไม่ได้ เขาเป็นคนของปัจจุบัน สาถปัตยกรรมก็เหมือนกับเป็นสัญลักษณ์ของสิ่งที่บันทึกเรื่องราวในอดีต
ไฮโซจะฉายในบ้านเราภายในปีนี้ ในลักษณะจำกัดโรง แต่คงจะไม่ใช่โรงเดียวเหมือนอย่าง Wonderful Town สำหรับการขายสายในต่างประเทศนั้น ทางเว็บจะนำมาแจ้งให้ทราบต่อไป
|