ตลาดหนังไทยในคานส์ปีนี้ ถือได้ว่าไม่ค่อยเข้มข้นเท่าไรนัก แม้จะมีค่ายหนังไทยไปเปิดบูธอยู่หลายบริษัทเหมือนเดิม แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่มีหนังใหม่ ๆ หรือใหญ่ ๆ ไปเน้นการขายชูโรงประจำปี เท่า ๆ กับที่ไม่ค่อยมีหนังเช่าโรงฉายในตลาด

สหมงคลฟิลม์ ยังคงยึดพื้นที่เดิมในการตั้งบูธ ไม่เห็นหนังใหม่ ๆ ไม่แนะนำแม้กระทั่ง อันธพาล แต่เปิดโรงในตลาดฉาย ยักษ์ ถึง 2 รอบ แม้แต่ คนโลกจิต ก็มิได้ไปฉายในตลาด เจ้าหน้าที่บอกว่าหนังเสร็จไม่ทัน

แต่สหมงคลฟิลม์ สามารถขาย จันดารา ให้กับ 5 ประเทศแล้ว ได้แก่ เกาหลีใต้ ฮ่องกง สิงคโปร์ และประเทศแฟนคลับมาริโอ้อย่างไต้หวันและฟิลิปปินส์ หนังมีโครงการจะฉายในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้

	จีทีเอช ปีนี้ไม่มีหนังใหญ่ไปแนะนำ มีแค่โปสเตอร์หนังใหม่ รัก 7 ที ดี 7 หน ซึ่งสามารถเรียกความสนใจจากสื่อในเกาหลีใต้ที่นิชคุณไปร้องเพลงอยู่ ก็เลยไม่ได้เช่าโรงฉายหนังใด ๆ
	ไฟว์สตาร์โปรดักชั่น ปีนี้ตัดสินใจร่วมตั้งบูธกับกรมส่งเสริมการส่งออก และ้ฉาย 407 เที่ยวบินผี ในตลาดเพียงรอบเดียว ส่วนเรื่องอื่น ๆ จะมีลักษณะเป็นการแนะนำเสียมากกว่า เช่น ตี3 หนังสามมิติอีกเรื่อง (ชื่อใช้ในการถ่ายทำว่า โอที) กำกับโดย “อิสรา นาดี” ผู้กำกับจาก “407 เที่ยวบินผี” นอกจากนี้ยังมี “เรือนหอคนตาย” กำกับโดย “ทิม กิรติ นาคอินทนนท์” เจ้าของผลงาน “รักสุดท้าย ป้ายหน้า” และ “เดอะ วิก” (The Wig : ชื่อใช้ในการถ่ายทำ) กำกับการแสดงโดย พัชนนท์ ธรรมจิรา โดยมิได้มีโปสเตอร์หรือแผ่นปลิวแจกอะไร ตี3” ได้ขายให้กับ สิงคโปร์, มาเลเซีย, บรูไน, ฮ่องกง และ ไต้หวัน และมีกำหนดเข้าฉายในประเทศไทย ปลายปีนี้

พระนครฟิลม์ ก็ไปรวมบูธกับกรมส่งเสริมการส่งออก เช่าโรงฉายหนังสองเรื่อง คือ เป้ ท่าทราย และก้านคอกัด ส่วนโปสเตอร์ก็เป็นหนังที่ฉายในไทยมาก่อนแล้วทั้งสิ้น

แองเจิลแอนด์แบร์ บริษัทผู้ผลิตหนังเรื่อง เธอ ก็ได้ไปเปิดบูธในปีนี้ และเช่าโรงฉายตั้งแต่วันแรกของเทศกาลคือวันที่ 16 พฤษภาคม แองเจิลแอนด์แบร์ ็ยังช่วยขายหนังชุดสะบายดีของ ศักดิ์ชาย ดีนาน พร้อมกับหนังลูกครึ่งที่จะกำกับโดยฝรั่ง และหนังที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนอย่าง Three Sisters กำกับโดย อิสรา ไผ่วารี และหนึ่งทิวา พันราตรี (ชื่อถอดมาจากภาษาอังกฤษ)

กลองชัยภาพยนตร์ กลายเป็นบริษัทที่นำหนังไทยใหม่ไปแนะนำ ชื่อเรื่อง 9-9-81 เป็นหนังผีที่กำกับโดยผู้กำกับ 9 คน ในความยาว 80 นาที เนื้อเรื่องยาวเป็นเรื่องเดียวกัน ไม่ใช่หนังสั้น 9 เรื่อง แต่ผู้กำกับ 9 คนจะแบ่งตอนไปทำกันเอง

อีกสองบูธนั้นเป็นของ โอเรียลตัลอายส์ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะมาตามเสด็จและเตรียมบูธมากกว่า แต่ไม่มีการขายใด ๆ มีพื้นที่เหลืออีกส่วนหนึ่ง สหมงคลฟิลม์ตัดสินใจเช่าแทน เพราะกันตนาตัดสินใจยกเลิกที่จะขายหนังเอง แต่ฝากให้โกลเด้นเน็ตเวิร์คขายแทน

มีบูธอีกสองบริษัทที่ขายหนังไทย ได้แก่ โกลเด้นเน็ตเวิร์ค รับจัดจำหน่าย หนังสามมิติ Echo Planet ของกันตนาแทน โดยวางแผนขายและประชาสัมพันธ์อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเช่าโรงฉายถึง 3 เรื่อง มีการวางตุ๊กตุ่นตุ๊กตาแจกอยู่ทั่วบูธ นอกจากนี้โกลเด้นเน็ตเวิร์ค ก็รับขาย บางกอกกังฟู ด้วย

แมกช์แฟคตอรี่ ก็จัดจำหน่าย แม่โขงโฮเต็ล ของอภิชาติพงศ์ เหมือนเดิม โดยเช่าโรงฉายในตลาดเองถึง 3 รอบ นอกจากที่ทางเทศกาลฉายเองอีก 2 รอบ แต่บริษัทจะไม่ได้เช่้าพื้นที่ในตลาด แต่ไปเช่าสำนักงานข้างนอกแทน