Day 10 / 25 พฤษภาคม
Cosmopolis (David Cronenberg)
Do-Nui Mat (Im Sang Soo)
ใน The Taste of Money มีฉากหนึ่งที่ตัวละครเอกซึ่งเป็นครอบครัวเศรษฐีนั่งกินข้าวอยู่ด้วยกันครบครัน ในการเล่าเรื่องฉากดังกล่าว อิมซางซูใช้มุมกล้อง 360 องศาหมุนเวียนอยู่เกือบสิบรอบ .....The Taste of Money ผลงานเรื่องที่ 7 ของอิมซางซู ก็เป็นเช่นกัน หมุนวนเวียนรอบตัวเอง หนีไม่พ้นผลงานมาคานส์เรื่องที่แล้ว The Housemaid
เรื่องย่อและชื่อเรื่องบอกไว้ว่า นี่เป็นเรื่องราวของตระกูลเศรษฐีแบกกับการใช้อำนาจเงินในทางที่ผิด ทั้งการครอบครองเงินเหล่านั้น และการใช้อิทธิพลกับคนใกล้ตัว ไม่ว่าจะเป็นสาวใช้และชายหนุ่ม ผู้เป็นนเลขาส่วนตัวของตระกูล แต่จริง ๆ แล้ว หนังดูจะเน้นหนักไปในทางพฤติกรรมที่ไร้ขอบเขตของผู้มั่งคั่งเหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมทางเซ็กส์ การกดโกง กดขี่คนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นสาวใช้และชายหนุ่มผู้เป็นเลขา
จริง ๆ แล้ว ถ้าจะบอกว่า The Taste of Money เป็นหนังชั้นเลวที่ไม่มีอะไรเลย ก็จะดูเกินเลยอยู่ อิมซางซูได้ใช้เทคนิคทางภาพและมุมกล้องต่าง ๆ มากขึ้น อาจจะมากกว่าเรื่อง The Housemaid ด้วยซ้ำ แต่ปัญหาก็คือมันไม่มีอะไรใหม่
เริ่มจากบทหนังที่ไม่ได้เน้นในเรื่องของการใช้อำนาจความรวยของตระกูลนี้เท่าที่ควร แต่เน้นหนักไปในเรื่องเซ็กส์เสียมากกว่า แม้แต่โรเบิร์ต ฝรั่งในเรื่องก็มีพฤติกรรมทางเพศที่ไร้ขีดจำกัด มาดามแบคก็หลอกปล้ำเด็กหนุ่มรุ่นลูก หรือพ่อที่ยังคงวนเวียนกับการลักลอบมีเพศสัมพันธ์กับสาวใช้ ซึ่งฟังดูเรื่องแล้ว จะเห็นได้ว่า อิมซางซูไม่ได้หลุดพ้นจากเงาหนังเรื่อง The Housemaid เลย มาเรื่องนี้สาวใช้ฟิลิปปินส์ในบ้านกลายเป็นเหยื่อของตระกูลนี้ และพระเอกของเรา ซึ่งรับบทเป็นเลขาประจำตระกูลก็ตกกลายเป็นเหยื่อเช่นกัน ก่อนที่เขาจะรู้ตัวและลาออกมาก่อน
อิมซางซูใช้เทคนิคเชิงภาพหลายอย่าง แต่มันไม่มีอะไรใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนกล้องเป็นวงกลม 360 องศาอยู่นับสิบรอบ การใช้เบิร์ดอายวิว การใช้กระจกและกล้องทีวีเพื่อสอดส่องพฤติกรรมของตระกูลนี้ แค่นี้พวกเราก็คงรู้ว่าวิธีการแบบนี้ใช้มาไม่รู้กี่เรื่องแล้ว กำกับศิลป์และภาพสวยงาม แต่มันก็แค่ดูเพลิน ๆ
อีกเรื่อง การเพิ่มความสำคัญกับบทสาวฟิลิปปินส์ ถึงขนาดต้องมีฉากนำศพเธอไปส่งบ้านหรือฉากที่เธอรับลูก ๆ มาเที่ยวโซลนั้น ดิฉันไม่เห็นความจำเป็นเท่าไรนัก นอกไปจากเห็นความสำเร็จของหนังเกาหลีเรื่อง .....ที่พระเอกเป็นลูกครึ่งฟิลิปปินส์และมีแม่เป็นฟิลิปปินส์อพยพ ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นหนังเรื่องแรกที่ให้ความสำคัญกับคนกลุ่มน้อยในสังคมเกาหลี บางทีอิมซางซูยังคงเห็นความสำคัญของบทสาวใช้ เหมือนกับตอนที่ทำ The Housemaid หรือความสำคัญของผู้อพยพในเกาหลี จึงเพิ่มบทมาอย่างไม่จำเป็นเท่าไรนัก
|