ปีนี้จัดเป็นปีที่หนังไทยแข็งขันในตลาดมาก จากเดิมที่มีเพียง 5 บริษัทที่ไปออกบูธทุกปีอย่าง สหมงคลฟิลม์ จีทีเอช อาร์เอสฟิลม์ ไฟว์สตาร์โปรดักชั่น และโมโนฟิลม์ ปรากฏว่าปีนี้แม้จะมี 5 บูธเหมือนเดิม แต่มีบริษัทหนังทั้งหมด 10 บริษัท และยังมีหนังอินดี้อีก 7 เรื่องของ 7 บริษัทที่ฝากมาขาย ทำให้มีหนังไทยฉายในตลาดทั้งสิ้น 13 เรื่อง รวมรอบการฉาย 20 รอบ
เจ้าใหญ่ที่สุด เห็นจะเป็น สหมงคลฟิลม์ ที่ฉายหนังในตลาด 3 เรื่อง แต่รวมทั้งสิ้น 5 รอบ (ดูตารางข้างล่าง) หนังทั้ง 3 เรื่อง ได้แก่ ปืนใหญ่จอมสลัด ของนนทรีย์ นิมิบุตร จนคนดูล้นโรงหนัง (อ่านข่าวเก่าได้ที่นี่) ตามมาด้วย ส้มตำ ก็เป็นที่สนใจในระดับหนึ่ง และแอนิเมชั่นเรื่องนาค
|
ภาพ : หลากมุมต่าง ๆ บูธสหมงคลฟิลม์ที่ใหญ่สุด
นอกจากนี้ สหมงคลฟิลม์ ก็ได้ทำคัทเอาท์โปรโมทหนังใหม่ ๆ ที่เพิ่งฉายในบ้านเราและกำลังสร้างอยู่อีกหลายเรื่อง ได้แก่ องค์บาก 2, Power Kid, นาคปรก, ส้มตำ, หนังบู๊ผู้หญิง Vanquisher อำนวยการผลิตโดยมานพ อุดมเดช ซึ่งประกาศโปรเจ็คมาหลายปีแล้ว แต่ยังไม่เห็นความคืบหน้าเท่าไรนัก
ส่วนหนังที่เพิ่งฉายไปแล้วในบ้านเรา ก็มีคัทเอาท์โชว์ไว้ที่บูธสหมงคลฟิลม์เหมือนกัน แต่อาจจะไม่โดดเด่น อาทิ หม่ำเดี่ยว
หัวเหลี่ยมหัวแหลม ในชื่อภาษาอังกฤษว่า The Little Cupid และ รักแห่งสยาม,
สหมงคลฟิลม์ ยังรับฝากขายให้หนังไทยอีก 2 เรื่องได้แก่ A Moment in June ของโอ ณัฐพล และ คริตกะจ๋า บ้าสุดสุด ของค่ายเอ็นจีอาร์ |
หันมาดูค่ายใหญ่รองลงมาอย่างจีทีเอช ปีนี้เน้นขายหนังอยู่ 2 เรื่อง โดยเช่าโรงหนังฉายเรื่องละรอบ ได้แก่ สี่แพร่ง และ บอดี้ศพ # 19 พร้อมนำคัทเอาท์หนังที่เพิ่งฉายในบ้านเรา แต่ถือว่าใหม่ในตลาดโลกอย่าง กอด, ปิดเทอมใหญ่ หัวใจว้าวุ่น, รัก /สาม/เศร้า และหนังใหม่แกะกล่องอีกเรื่อง โปรดติดตามรอดูตอนต่อไป
ปีนี้จีทีเอช รับขายหนังไทยให้กับบริษัทอื่นอีก 2 เรื่อง ได้แก่ หนึ่งใจเดียวกัน หนังทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ และแปดวันแปลกคน โดยเช่าโรงหนังฉายทั้ง 2 เรื่อง
|
ค่ายขนาดกลางอย่างไฟว์สตาร์ก็แข็งขันมาก เอาหนังไปฉายในตลาดถึง 3 เรื่อง รวมทั้งสิ้น 6 รอบ มากกว่าค่ายอื่น ๆ อีก หนังทั้ง 3 เรื่อง ได้แก่ ผีจ้างหนัง ไชยา และลองของ 2 ส่วนหนังใหม่นั้น ก็มี อินทรีย์แดง ของวิศิษฎ์ ศาสนเที่ยง พร้อมกับข่าวใหม่ว่า เป็นเอก รัตนเรือง จะเริ่มทำหนังใหม่สิ้นปีนี้ ส่วนแนวเรื่องค่อนข้างเซอร์ไพรส์ แต่ขอเก็บเป็นความลับ ให้ทางไฟว์สตาร์ประกาศเอง
นอกจากนี้ ไฟว์สตาร์ก็ช่วยขายหนังไทยอีกเรื่องหนึ่ง คือ Soul's Code ด้วย ซึ่งเผอิญเป็นลูกน้องเก่าที่เคยทำงานที่นี่
|
อีกค่ายหนึ่งที่ไปตั้งบูธเอง ก็คือ โมโนฟิลม์ แต่ปีนี้ไม่มีหนังใหม่ ก็เลยไม่ได้เช่าโรงฉาย ส่วนใหญ่จะเป็นหนังเก่าด้วยกันทั้งหมด ส่วนหนังใหม่ที่รอคอยอย่าง Happy Birthday ก็ยังไม่ได้เอามาโฆษณา ทางเจ้าหน้าที่โมโนบอกว่า เก็บเอาไว้ก่อน ปีนี้ขายแต่ผลงานเก่า ๆ ก่อนค่ะ
บูธที่ห้าเป็นบูธรวมมิตร แบ่งเช่ากันหลายบริษัท โดยกรมส่งเสริมการส่งออกเป็นผู้เช่า นำมาแบ่งให้เช่ากับอีก 6 บริษัท กับหนึ่งองค์กรรัฐบาล ได้แก่
|
อาร์เอสฟิลม์ ปีนี้มาร่วมแบ่งเช่า เพราะยังไม่มีผลงานใหม่มากนัก เท่าที่ผ่านมา ก็มีแค่ ดรีมทีม ฮีโร่ฟันน้ำนม โดยเช่าโรงฉายด้วยถึง 2 รอบ นอกจากนั้นก็มีหนังใหม่ที่กำลังจะผลิต ซึ่งเราจะนำมารายงานให้ทราบต่อไป ขอเก็บเป็นความลับก่อน
|
ไรท์บียอนด์ ตอนนี้กำลังผลิตหนังอยู่ 2 เรื่อง ได้แก่ The Fatality ตรา/ตรึง/ตาย" หนังร่วมสร้างกับไต้หวัน และ เฟรนด์ชิพ เธอกับฉัน แต่ไรท์บียอนด์ เน้นขาย The Fatality ตรา/ตรึง/ตาย ในตลาดที่เมืองคานส์มากกว่า
|
จากภาพ ผู้บริหาร ทเวนตี้จูนเอ็นเตอร์เทนเมนท์ กับทรนง ศรีเชื้อ (สองจากขวา) |
ทเวนตี้จูนเอ็นเตอร์เทนเมนท์ เอาหนังที่พวกเรารู้จักกันดีมาหลายปีแล้วมาออกบูธขาย แนะนำให้ฝรั่งดู ก็เรื่อง 2022 Tsunami นั่นล่ะค่ะ โดยมีโปรเจ็คหนังที่จะวางแผนว่าจะสร้างอีก 2 เรื่อง ได้แก่ The Baby Secret of the World, Amphetamine War
|
|
โปรเจ็คหนังในอนาคตของ ทเวนตี้จูนเอ็นเตอร์เทนเมนท์ กับสตูดิโอทรนง |
โปรเจ็คหนังของหญิง
จุฬาลักษณ์ |
บูลเล็ตพรูฟฟิลม์ ของหญิง จุฬาลักษณ์เป็นโปรดิวเซอร์ กำลังจะทำหนังแอ็คชั่น เรื่อง Aukmen โดยให้สามี เดวิด อิสมาโลน เป็นคนกำกับ ส่วนนักแสดงและทีมงานก็มีทั้งต่างชาติและไทย อาทิ อาหมัด อัล-ซูไลติ, หญิง จุฬาลักษณ์ ขาวแก้ว คะนรสิงห์, สมรักษ์ คำสิงห์ จะแนะนำรายละเอียดต่อไปค่ะ
โมชั่นพิคเจอร์ส บริษัทร่วมทุนไทย ฝรั่ง ซึ่งมีแต่ของมาโชว์ แต่ไม่มีใครมา ทราบมาว่าเจอปัญหาตั๋ว บริษัทนี้ทำหนังลูกครึ่ง Bangkok Adrenaline และมีโครงการเรื่อง The Legend of the Buffalo Rider กำกับโดย พันธุ์ธรรม ทองแสง อีกโปรเจ็คหนึ่งที่แจกโบรชัวร์ ได้แก่ I Fight ยังไม่มีรายละเอียดอื่น
|
|
โปรเจ็คหนังบริษัทโลโก้โมชั่นพิคเจอร์ส |
โลโก้โมชั่นพิคเจอร์ส เอาโบรชัวร์โปรเจ็คหนังมาจาก 2 เรื่อง ได้แก่ The Scout และ Wayu แต่ไม่มีรายละเอียดอื่น ๆ
กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ ก็อยู่ในงานด้วย มาโปรโมทงานตลาดหนังในช่วงเทศกาลหนังกรุงเทพค่ะ
สำหรับความสำเร็จในการขายนั้น เหมือนเดิม เราไม่อยากให้ใครอึดอัด เพราะฉะนั้นไม่ถามดีกว่า
|
นอกจากนี้ ยังมี Wonderful Town ซึ่งลิขสิทธ์การจัดจำหน่ายต่างประเทศ อยู่ที่ Memento Films
Wonderful Town ฉายเพียง 1 รอบ และจากรอบดังกล่าวทำให้หนังขายได้ 20 ประเทศแล้ว |
The Coffin โลงต่อวิญญาณ ฝากขายกับบริษัท Eastern Light ซึ่งเป็นเครือเดียวกับ Arclight
|
กระโจมตัวแทนจากภาครัฐของไทย |
นอกจากบูธในตลาดแล้ว ในส่วนของกระโจมหนังนานาชาติ ก็มีกระโจมจากประเทศไทยด้วย หมายเลข 134 เป็นกระโจมที่ให้ข้อมูลทุกอย่างของหนังไทย และการถ่ายทำหนังในประเทศไทย สำนักศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม เป็นคนเช่าบูธ แต่สำนักพัฒนาการท่องเที่ยว หรือ Thailand Film Office เป็นผู้ดำเนินการและจัดการค่ะ งาน Thai Pitch Day และงานเลี้ยงปาร์ตี้ไทยก็จัดที่นี่
โดยสรุปแล้ว จากการติดตามการดำเนินงานของรัฐบาลและเอกชนในหลายปีนี้ ยอมรับว่า ทำงานไปในทิศทางที่ถูกต้องมากขึ้น อาจจะตกบกพร่องไปบ้าง ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี และข้อบกพร่องตรงนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่ อาทิ เจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว ไม่รู้จักว่าเทศกาลหนังเวนิซคืออะไร
โน้ต :สรุปหนังไทยที่ฉายในตลาดปีนี้ทั้งหมด มีดังต่อไปนี้
14 พฤษภาคม 2551
วันเปิดเทศกาลนั้น มีหนังไทยฉายไป 1 เรื่อง คือ ดรีมทีม ฮีโร่ฟันน้ำนม ฉายตั้งแต่เช้าตรู่ 09.30 น. โดยอาร์เอสฟิลม์
15 พฤษภาคม 2551
จะมีหนังไทยฉาย 4 เรื่อง ได้แก่
ปืนใหญ่จอมสลัด รอบ 18.00 น. และ ไชยา ในเวลาเดียวกัน
20.30 "หนึ่งใจ...เดียวกัน ผลงานอำนวยการสร้างโดย ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ฯ
21.30 The Coffin โลงต่อวิญญาณ ของเอกชัย
16 พฤษภาคม 2551
- 12.00 The Coffin โลงต่อวิญญาณ
- 13.30 ลองของ 2
- 15.30 Wonderful Town
- 17.30 ส้มตำ
17 พฤษภาคม 2551
09.30 ดรีมทีม ฮีโร่ฟันน้ำนม
17.30 บอดี้ ศพ # 19
17.30 ผีจ้างหนัง
18.00 ส้มตำ
18 พฤษภาคม 2551
14.00 สี่แพร่ง
14.00 ไชยา
17.30 นาค
19 พฤษภาคม 2551
17.30 ลองของ 2
18.00 ปืนใหญ่จอมสลัด
20 พฤษภาคม 2551
18.00 ผีจ้างหนัง
21 พฤษภาคม 2551
14.00 แปดวันแปลกคน
|