ประกาศตัวอย่างเป็นทางการไปแล้วเมื่อบ่ายวันนี้ เทศกาลหนังกรุงเทพครั้งที่ 6 จะจัดงานขึ้นระหว่างวันที่ 23 30 กันยายนนี้ โดยจะมีภาพยนตร์ให้ชม 80 เรื่อง ล้วนเป็นหนังฟีเจอร์หรือสารคดีทั้งสิ้น
ยงยุทธ ทองกองทุน ไดเร็คเตอร์เทศกาลกล่าวว่า งบประมาณที่ใช้ในส่วนของโปรแกรมมิ่งมีประมาณ 5 ล้านบาท (น้อยกว่าปีที่แล้วครึ่งหนึ่ง ผู้เขียน) ซึ่งรวมทั้งค่าเช่าหนัง ค่าชิปปิ้ง แต่ในส่วนทั้งหมดนั้น ทางคุณจาฤก กัลย์จาฤก นายกสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติ ประธานการจัดเทศกาลจะพยายามหาสปอนเซอร์มา
ทางคุณจาฤกในฐานะสมาพันธ์ฯ อยากให้เทศกาลดำเนินต่อไป เพราะเราเรียกร้องมาตั้งหลายปีแล้วว่า อยากให้คนในอุตสาหกรรมเป็นคนทำ เราจึงผนึกกำลังร่วมกันอีกครั้ง
โดยคุณยงยุทธ ได้กล่าวต่อว่า ปีนี้จะมีหนังจากทั่วทุกมุมโลก แต่จะส่วนของการจัดกิจกรรมหรือสายพิเศษต่าง ๆ นั้น จะเน้นหนังในเอเชียเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นประเทศที่อยู่ทั้งฝั่งซ้ายฝั่งขวาบ้านเรา อย่างอินโดจีนหรืออาเซียน เพื่อแสดงให้เห็นพลังของเอเชีย
พิมพกา โตวิระ โปรแกรมเมอร์ของเทศกาลได้เปิดเผยในเรื่องนี้ว่า หนังที่คัดเลือกมาในปีนี้จะมีความหลากหลาย ทั้งหนังอาร์ตและหนังที่ดูไม่ยากจนเกินไป ประเภท audience pleasure โดยจะมีส่วนหนึ่งที่จะจัดเข้าไว้ในสายประกวด
|
ส่วนประกวดในปีนี้จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ ๆ ได้แก่ สายหลัก หรือ main competition ซึ่งจะคัดเลือกหนังจากทั่วทุกมุมโลก โดยจะต้องเป็นหนังเรื่องแรกหรือเรื่องที่สองของผู้กำกับเท่านั้น ซึ่งขณะนี้ก็ได้หนังเรื่อง The Elite Squad โดย Jose Padilha ผู้ ู้ชนะรางวัลจากเบอร์ลินมาแล้ว ส่วนสายที่สองจะเป็นหนังอาเซียน |
The Elite Squad โดย Jose Padilha |
|
แต่ละสายจะมีหนังประกวดประมาณ 10 12 เรื่อง เพื่อชิงรางวัลสายละ 3 รางวัล ได้แก่ รางวัล Grand Prize, Jury Prize และ Special Mention มีคณะกรรมการสายละ 3 คน โดยในสายหลัก กรรมการทั้งหมดจะเป็นผู้กำกับด้วยกันทั้งสิ้น ส่วนสายอาเซียนจะเป็นผู้รู้ในแวดวง
สำหรับรายชื่อหนังที่พอจะยกตัวอย่างนั้น ทั้งคุณยงยุทธกล่าวว่า กำลังอยู่ในช่วงจัดการอยู่ เพราะมีหลายเรื่องตอบรับแล้ว แต่เนื่องจากว่าในช่วงเดียวกันนี้ก็มีเทศกาลหนังเซบาสเตียน (สเปน) แวนคูเวอร์ (แคนาดา) จึงต้องกำหนดตารางให้ตอบรับกันได้
ส่วนพิมพกา กล่าวว่า ปัญหาส่วนใหญ่เพราะภาพยนตร์บางเรื่องติดสัญญาจะต้องไปปูซานก่อน ทำให้มาที่นี่ไม่ได้ หรือติดข้อจำกัดจากทางผู้จัดจำหน่ายเอง เช่น ยังไม่พร้อมที่จะให้้หนังมาเอเชียในปีนี้
หนังที่อยากได้ อาจจะไม่ใช่หนังใหม่ทั้งหมด เพราะติดปัญหาหลายอย่าง แต่ในการจัด เราจะนึกถึงผู้ชมเป็นหลัก โดยเฉพาะผู้ชมจากไทย และปีนี้จะมีหนังส่วนหนึ่งที่มีซับไตเติ้ลภาษาไทยอย่างแน่นอน
หนึ่งในหนังรางวัลที่ตกปากรับคำว่าจะมาฉายแล้ว ก็คือ Lorna's Silence โดย Jean-Pierre Dardenne และ Luc Dardenne หนังประกวดคานส์ปีนี้
พิมพกากล่าวว่า จะมีหนังที่เป็น international premiere หรือมาฉายในไทยเป็นประเทศแรกอยู่ 2 3 เรื่อง
สำหรับพิธีการสำคัญ ๆ ในขณะนี้ได้ประกาศมาแล้วดังนี้
23 กันยายน พิธิเปิด หรือ Opening Reception
26 กันยายน Red Carpet และกาล่าดินเนอร์
28 กันยายน ประกาศรางวัลกินรี
30 กันยายน พิธีปิด |